ดูเพิ่มเติม

การขุด Bitcoin กับแผนการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน 0.9% ในปี 2030

1 min
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

สรุปย่อ

  • การศึกษาล่าสุดของ NYDIG คาดการณ์ว่า การขุด Bitcoin จะมีปริมาณการปล่อยคาร์บอนลดลงเหลือเพียง 0.5% ในปี 2030 ของยอดรวมทั่วโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า
  • NYDIG เปิดเผยการศึกษาในชื่อ ''Bitcoin Net Zero' พบว่าการใช้พลังงาน Bitcoin และการปล่อยก๊าซคาร์บอนจะไม่เพิ่มขึ้นสูงอย่างฉับพลัน
  • สถิติในปี 2020 ผู้วิจัยพบว่า Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้า 62 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWH) และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 33 ล้านตันคิดเป็น 0.04% ของการใช้พลังงานทั่วโลกและ 0.1% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก

การศึกษาล่าสุดของ NYDIG คาดการณ์ว่า การขุด Bitcoin จะมีปริมาณการปล่อยคาร์บอนลดลงเหลือเพียง 0.9% ในปี 2030 ของยอดรวมทั่วโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า

รายงานของ New York Digital Investment Group 

New York Digital Investment Group ผู้ให้บริการทางเทคโนโลยีและโซลูชันส์การลงทุนสำหรับ Bitcoin ประมาณการว่าการขุด Bitcoin คิดเป็นสัดส่วนที่ไม่มากไปกว่า 0.4% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกในทศวรรษหน้า

การค้นพบที่ดูเหมือนจะร้ายแรงที่สุดของการศึกษาครั้งนี้คือการปล่อยคาร์บอนจากการขุด Bitcoin ยังคงเป็นเพียงเศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับยอดรวมการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลกแม้จะมีแนวโน้มว่าราคาของ BTC จะพุ่งทะลุเพดานภายในปี 2030 

NYDIG เปิดเผยการศึกษาในชื่อ ”Bitcoin Net Zero’ พบว่าการใช้พลังงาน Bitcoin และการปล่อยก๊าซคาร์บอนจะไม่เพิ่มขึ้นสูงอย่างฉับพลันในปีที่กำลังจะมาถึงซึ่งสวนทางอย่างมากกับราคาของ Bitcoin ที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น 

ปริมาณการปล่อยคาร์บอน การขุด Bitcoin 

การศึกษาวิจัยล่าสุดจาก New York Digital Investment Group (NYDIG) คาดการณ์ว่าการใช้พลังงานของ Bitcoin จะยังคงต่ำอยู่ที่ 0.5% ของยอดรวมทั่วโลกในทศวรรษหน้า

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาที่ได้รับความร่วมมือระหว่าง นิค คาร์เตอร์ เจ้าของบริษัท Castle Island Ventures และผู้ก่อตั้ง NYDIG อย่าง Ross Stevens โดยระบุถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนของวงจรอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคา Bitcoin  ความยากลำบากในการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ และปริมาณการใช้พลังงาน

การศึกษาดังกล่าวมีการคาดการณ์ว่าในปี 2030 นั้น Bitcoin จะมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์ แต่การปล่อยคาร์บอนจากการขุด Bitcoin นั้นเหลือเพียง 0.9 เปอร์เซ็นต์ของมลพิษทั้งหมดทั่วโลก และการใช้พลังงานใช้ไปเพียง 0.4 เปอร์เซ็นต์ของยอดรวมทั้งหมด

รายงานชิ้นนี้ยังคาดการณ์ถึงการเติบโตในอนาคตของ การขุด Bitcoin โดยอิงจากข้อมูลในปี 2020 โดยนักวิจัยได้คำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าในอดีตของผู้ขุด Bitcoin ตาม function ของอัตรากำลังในการขุดบิตคอย์นของเครือข่ายและประสิทธิภาพของเครื่องมือขุด

แนวโน้มที่ดีขึ้นของการขุด Bitcoin

รายงานของ Cambridge เผยว่าปัจจุบันการขุด BTC ใช้พลังงาน 101 TWh ต่อปีหรือ 0.45% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก นั้นหมายความว่าเครือข่าย Bitcoin ใช้พลังงานมากกว่าการใช้พลังงานของประเทศฟิลิปปินส์ทั้งประเทศ

สถิติในปี 2020 ผู้วิจัยพบว่า Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้า 62 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWH) และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 33 ล้านตัน คิดเป็น 0.04% ของการใช้พลังงานทั่วโลกและ 0.1% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก

นอกจากนี้ ผู้วิจัยยืนยันว่าขยะคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับการขุด Bitcoin นั้น “ไม่มีผลกระทบร้ายแรงในระดับสากล” ในระหว่างช่วงปี 2020

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ

13700.jpg
Fakkrudien Buhas
นักเขียนผู้สนใจศึกษา Crypto และคลุกคลีกับงานด้านข่าวสารมาหลายปี มองว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตในอดีต คือ เครื่องพิสูจน์การเติบโตในอนาคต การอัพเดทสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งด้านการลงทุน หรือด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน