OpenSea NFT Creator Royalties Plan ประสบกับปฏิกิริยาตอบรับเชิงลบ

ตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง OpenSea ได้รวบรวมขั้นตอนเพื่อช่วยครีเอเตอร์เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและค่าลิขสิทธิ์ ในขณะที่ตลาดกลางของคู่แข่งลดค่าธรรมเนียมของครีเอเตอร์หรือกำหนดให้เป็นทางเลือก อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับของผู้ใช้งานไม่ค่อยเห็นด้วยนัก

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. OpenSea โพสต์ข้อความบน Twitter เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการอภิปรายอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับค่าลิขสิทธิ์หรือค่าธรรมเนียมของผู้สร้าง

There’s been a lot of discussion over the past few months about business models for NFT creators & whether creator fees (“royalties”) are viable.

Given our role in the ecosystem, we want to take a thoughtful, principled approach to this topic & to lead w/ solutions. 🧵

— OpenSea (@opensea) November 6, 2022

OpenSea: แนวทาง ‘สำหรับผู้สร้าง โดยผู้สร้าง’

ตลาดกลาง NFT ชั้นนำดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำ “แนวทางที่รอบคอบและมีหลักการ” เพื่อบังคับใช้การชำระค่าธรรมเนียมสำหรับครีเอเตอร์ บริษัทในบล็อกโพสต์เขียนว่า:

“เป็นที่ชัดเจนว่าผู้สร้างจำนวนมากต้องการความสามารถในการบังคับใช้ค่าธรรมเนียมในเครือข่าย และโดยพื้นฐานแล้ว เราเชื่อว่าทางเลือกควรเป็นของพวกเขาเอง ซึ่งไม่ควรเป็นการตัดสินใจสำหรับพวกเขาโดยตลาดกลาง”

ในการทำเช่นนั้น OpenSea วางแผนที่จะใช้เครื่องมือสำหรับการปรับปรุงออนเชนของค่าธรรมเนียมของครีเอเตอร์สำหรับคอลเล็กชันใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. นี้ จะ ‘สร้างสมดุลให้กับขนาดโดยการเพิ่มพลังในมือของครีเอเตอร์’

ทั้งนี้ Ergo จัดหาเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อควบคุมรูปแบบธุรกิจของตน

4/ This tool is our first version of on-chain enforcement, and in the coming months we’ll launch additional tools and improvements for on-chain enforcement of new collections, and we’ll engage with the community to get feedback on them along the way.

— OpenSea (@opensea) November 6, 2022

OpenSea จะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับคอลเลกชันที่มีอยู่ (ยัง) จะรวมข้อเสนอแนะของชุมชนเพิ่มเติม (เพื่อสร้างนโยบายระยะยาว) และเปิดตัวการเปลี่ยนแปลงหลังจากวันที่ 8 ธันวาคม

7/ In transparency, the consideration set for what happens after Dec 8 is wide open – w/ options ranging from continuing to enforce off-chain fees for some subsets of collections to allowing optional creator fees to collaborating on other on-chain enforcement options for creators

— OpenSea (@opensea) November 6, 2022

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยืนยันโดย Devin Finzer ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ OpenSea ในบล็อกโพสต์ การทดสอบระยะเวลาหนึ่งเดือนจะช่วยให้ตลาดตัดสินใจว่าจะลดค่าธรรมเนียมผู้สร้างในระยะยาวหรือย้ายไปยังระบบค่าลิขสิทธิ์ที่เป็นตัวเลือก

ชุมชนผู้ใช้งาน OpenSea มีความสุขหรือไม่

การพัฒนาข้างต้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความโกลาหลอย่างที่สุด ตลาดกลาง NFT เช่น Magic Eden ของ Solana ในเดือนตุลาคมเปลี่ยนเป็นรูปแบบค่าลิขสิทธิ์ ‘ทางเลือก’ ในแผนนี้ ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเลือกเปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่ส่งคืนให้กับศิลปินดั้งเดิม

🧵After some difficult reflection and discussions with many creators, we’ve decided to move to optional royalties on @MagicEden.

Effective later today, we will also begin running a promotion to waive our platform fees.

— Magic Eden 🪄 at Breakpoint (@MagicEden) October 15, 2022

ครีเอเตอร์ได้แจ้งข้อกังวลอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น ศิลปิน NFT คนหนึ่งกล่าวว่าวันนี้เป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับ Solana แม้จะอ้างว่าการอัปเดตดังกล่าวจะ “ทำลายโครงการของเรา”

มีเหตุการณ์ที่คล้ายกันเกี่ยวกับขั้นตอนที่คลุมเครือของ OpenSea อย่างไรก็ตาม Finzer ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความต้องการที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้

เขาแสดงความคิดเห็น ดังนี้

“เป็นที่ชัดเจนว่ากลไกการบังคับใช้ค่าธรรมเนียมของครีเอเตอร์ในปัจจุบันนั้นไม่ยั่งยืน—ไม่ใช่สำหรับตลาดที่บังคับใช้ และที่สำคัญกว่านั้นไม่ใช่สำหรับตัวครีเอเตอร์เอง”

OpenSea ซึ่งครั้งหนึ่งเคยครองส่วนแบ่งตลาดของ NFT ได้เห็นปริมาณการซื้อขายที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำอย่างมีนัยสำคัญ ตามที่ BeInCrypto รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปริมาณการซื้อขายของ OpenSea ลดลง 94% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2565

แรงจูงใจเบื้องหลังค่าธรรมเนียมผู้สร้างของ OpenSea เพื่อสนับสนุนปริมาณการขายที่ลดลงหรือไม่ “Bobby Hundreds” Kim ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น The Hundreds และโครงการ Adam Bomb Squad NFT คิดอย่างนั้นอย่างแน่นอน:

Remember why this is all happening: OpenSea is losing market share to other marketplaces that are excising creator royalties. So, this solution is a convenient value proposition. It blocks their competitors AND ensures that artists on their platform get paid on secondary sales.

— bobbyhundreds.eth (@bobbyhundreds) November 6, 2022