ตลาดคริปโตสูญเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก Bitcoin และ Ethereum ราคาร่วงกระหน่ำ

ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 18 มิถุนายน มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลเรือธงสองรายการคือ Bitcoin และ Ethereum ร่วงลงกว่า 8% ตามลําดับ ทำให้ราคาของเหรียญทั้งสองต่ำกว่า 2 หมื่น และ 1 พันดอลลาร์สหรัฐตามลําดับ

การที่ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงอย่างมากนั้นทําให้มีการชําระบัญชีจํานวนมาก ข้อมูลจาก Coinglass เผยว่ามีการชําระบัญชีมากกว่า 271 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมคริปโต

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Coingecko แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมคริปโตขาดทุนไปแล้วถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมลดลงกว่า 6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นประมาณ 8.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่น่าสนใจคือครั้งสุดท้ายที่มูลค่าซื้อขายของ Bitcoin และ Ethereum ต่ำสุดนั้นคือปี 2020 กล่าวได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่สินทรัพย์มีราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้น

Altcoins ยังขาดทุน

มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ สิบอันดับแรกเช่น Dogecoin, BNB, Cardano, Solana และ Polkadot ต่างสูญเสียค่าเฉลี่ย 7% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Good article.

The title is a little off. I said "historically, we see 4 year cycles, roughly 2yr bear, 2yr bull. But history may not predict the future. And I can't predict the future."

Rest of the article is good. Thanks for the coverage!🙏https://t.co/RhubWp8yNX

— CZ 🔶 Binance (@cz_binance) June 17, 2022

Changpeng Zhao ซีอีโอของ Binance ในณะที่กำลังอธิบายภาวะตลาดเติบโตแบบขาดความมั่นคง อธิบายว่าอุตสาหกรรมคริปโตนั้นดำเนินไปในลักษณะของวงจรสี่ปีในสองปี และอีกสองปีเป็นภาวะตลาดขาดความมั่นคง กล่าวได้ว่าภาวะขาลงของตลาดจะไม่ได้ดำเนินต่อไปนานนัก

การอธิบายความผิดพลาด

อุตสาหกรรมคริปโตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดนับตั้งแต่การล่มสลายของระบบนิเวศ Terra ประกอบกับความจริงที่ว่าวงการคริปโตต้องรับมือกับภาวะถดถอยทั่วโลกที่นําไปสู่อัตราเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงเช่นเดียวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ทั้งหมดนี้รวมกันล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลกโดยทั่วไปและทำให้เห็นสถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมคริปโต นอกจากนี้ อุตสาหกรรมคริปโตยังต้องจัดการกับผลกระทบที่ตามมาจากวิกฤต Terra เช่นกัน บริษัทคริปโตชั้นนํา เช่น Celsius, Three Arrows, Babel Finance และอื่น ๆ อีกหลายแห่งมีปัญหาเรื่องเงินที่ลงทุนไว้ระเหิดออกไป ทำให้นักลงทุนต่างขยาดวงการนี้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต เช่น Coinbase, Gemini, Crypto.com และอื่น ๆ ต้อง ลดขนาดลง เนื่องจากสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน