ดูเพิ่มเติม

หวั่นสูญ เงินกู้มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ฯ ที่ใช้ ASIC ค้ำ ส่วน ASIC ราคาร่วง

1 min
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

สรุปย่อ

  • เกิดความกังวลในวงการคริปโต หลังจากที่เงินกู้ที่ใช้เครื่อง ASIC เป็นหลักทรัพย์อาจไม่ได้รับการชำระตามสัญญา
  • การขาย ASIC ทอดคลาดอาจทำให้ราคา ASIC ยิ่งลดลง และทำให้ ASIC ไม่เหมาะจะนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ในอนาคต
  • พนักงานบริษัท Galaxy Digital Holdings ชี้ว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจความเสี่ยงของการออกเงินกู้ที่ใช้เครื่อง ASIC เป็นหลักทรัพย์ค้ำ ในตลาดความเสี่ยงสูง
  • Get Ready for MetaFight Read now!

เงินกู้ที่บริษัท Crypto mining กู้ออกมาโดยใช้เครื่อง miningASIC เป็นหลักค้ำประกันกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ในขณะที่เครื่อง ASIC มูลค่าตก ส่งผลให้การหาเงินมาชำระเงินกู้นี้เป็นเรื่องท้าทาย และก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ผู้ให้กู้จะสูญเงิน

แม้ว่าจะยังไม่มีผู้กู้เงินที่ใช้เครื่อง ASIC ค้ำประกันหนีหนี้ ในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีสัญญาณน่ากังวลสำหรับผู้ให้กู้หลายอย่าง Core Scientific บริษัทในเมืองเท็กซัสขายบิตคอยน์จำนวน 2,598 เหรียญ ในขณะที่บริษัท Bitfarms ในประเทศแคนาดาโละบิตคอยน์จำนวน 3,000 เหรียญทิ้งเพื่อ “เพิ่มสภาพคล่อง” “ลดหนี้” และ “เพิ่มความเข้มแข็ง” ให้กับงบดุล

หลังจากนั้น บริษัท Bitfarms ยังได้ยืมเงินสดจากบริษัท New York Digital Investment Group LLC(NYDIG) โดยมีการใช้เครื่อง ASIC เป็นหลักประกัน

ราคาของ ASIC ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นมาสำหรับเดา “รหัสแฮช” หรือรหัสตัวเลขและตัวอักษรแบบ 256 บิตของธุรกรรมคริปโต ก็ลดลงครึ่งหนึ่ง พร้อมๆ กับสภาวะขาลงของราคาบิตคอยน์เช่นกัน หากบริษัท mining ยังขายบิตคอยน์ทิ้งทีละมากๆ ต่อไปเช่นนี้ ผู้ให้กู้ก็สามารถขายเครื่อง ASIC เพื่อชดเชยเงินที่สูญเสียไปได้ ซึ่งจะทำให้ราคาของ ASIC ลดลงยิ่งกว่าเดิม

โดยตุ้นทุนของ ASIC รุ่น S19 ที่ผลิตโดยโรงงาน Bitmain ในประเทศจีนลดลงมาร้อยละ 47 จาก 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน และจากข้อมูลของ ASIC Miner Value พบว่ากำไรจากเครื่องรุ่น S19 Pro ของ Bitmain ก็ลดลงจาก 15.11 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน ในเดือนมีนาคมปีนี้ เหลือ 0.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ ณ ขณะที่มีการจัดทำบทความนี้

ผู้ให้กู้วงการคริปโต เสี่ยงสูญเงินกว่า 4 พันล้าน

การสงวนท่าทีของสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมในการให้บริษัท Crypto mining กู้เงินส่งผลให้เกิดกองทัพขนาดย่อมของผู้ให้กู้ที่ถือกำเนิดจากวงการคริปโต อาทิเช่น BlockFi, NYDIG, Celsius Network, และ Galaxy Digital Holdings ซึ่งรับเครื่อง mining ASIC เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

โดย Ethan Vera จากบริษัท Luxor Technologies เชื่อว่า ในปัจจุบัน เงินกู้ที่ใช้เครื่อง ASIC ค้ำประกันมีมูลค่าเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สภาพการเงินของบริษัทให้กู้เหล่านี้เริ่มเป็นที่จับตามอง เมื่อนายหน้าค้าคริปโตอย่าง Voyager Digital เพิ่งแถลงว่า กองทุน Three Arrows Capital ไม่สามารถชำระเงินกู้จำนวน 650 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าวลดลงอย่างรวดเร็ว และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

บริษัท BlockFi หนึ่งในบริษัทให้กู้ ยืนยันกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า เงินกู้ที่ให้บริษัท mining ไปได้ผ่านกระบวนการการประเมินความเสี่ยงและการพิจารณาภายใต้นโยบายการรับประกันภัยเหมือนผู้ขอกู้รายอื่น หลังจากที่นำหลักทรัพย์ของ Three Arrows มาชิงขายชดเชยเงินกู้

เข้าใจความเสี่ยงของการใช้เครื่อง ASIC เป็นหลักทรัพย์

Cassie Clifton จากบริษัท Galaxy Digital Holdings ให้ความเห็นในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับบริษัท bitcoin mining อย่าง Compass Mining ว่า บริษัทที่ออกเงินกู้ที่ใช้เครื่อง ASIC เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ต้องมีความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการศึกษาตลาดความเสี่ยงสูงในอดีต

Clifton ยังกล่าวอีกว่า เงินกู้จะเกิดความสมเหตุสมผล ถ้ามีการวางโครงสร้างโดยใช้ “ข้อตกลงที่ถูกต้อง” ด้าน Craig Brichall จากบริษัทเดียวกัน เชื่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยง ก็คือการถามผู้เชี่ยวชาญเรื่อง mining ในบริษัทให้กู้ เพื่อประเมินว่า การขาย ASIC ทอดตลาดเป็นไปได้และทำได้จริงหรือไม่ มิเช่นนั้นเครื่อง ASIC ก็จะไม่สามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | มีนาคม 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน