พนักงาน BNK Busan ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงิน 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อนำไปลงทุนใน Bitcoin

พนักงานธนาคาร BNK Busan ของเกาหลีใต้ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินของลูกค้า 1.48 พันล้านวอน (1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อนำไปลงทุนใน Bitcoin

ข้อมูลจากประกาศของธนาคารฯ เผยว่าระหว่างวันที่ 9 มิถุนายนถึง 25 กรกฎาคม 2022 มีรายงานว่าพนักงานที่ทํางานในทีมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารฯ ได้ยักยอกเงินไปแล้วหลายครั้ง

ทุกครั้งที่พนักงานถูกกล่าวหาว่าฝากเงินที่ได้รับจากลูกค้าในต่างประเทศเข้าบัญชีส่วนตัวของคู่รักของพวกเขา เงินที่ยักยอกจะถูกใช้เพื่อลงทุนใน Bitcoin และเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ

นอกเหนือจากการดําเนินการทางกฎหมายกับพนักงานแล้ว BNK Busan Bank ยังกล่าวว่าธนาคารจะต้องผ่านการตรวจสอบตนเอง(Self-audit) ตามข้อมูลที่ได้เปิดเผย นี่เป็นกรณีล่าสุดจากกว่า 10 กรณีที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกที่กระทําโดยพนักงานธนาคารในเกาหลีใต้ในปีนี้

เมื่อต้นปีนี้ พบว่าพนักงานคนหนึ่งที่ Woori Bank นั้นถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินเกือบ 7 หมื่นล้านวอน (53.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2012

ต่อมา บริการกํากับดูแลทางการเงินของเกาหลีใต้ได้เริ่มจัดทําแนวทางที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสําหรับการควบคุมภายในภายในธนาคาร

หน่วยงานกํากับดูแลของเกาหลีใต้เปิดการสอบสวน

การค้นพบครั้งนี้น่าจะเป็นผลมาจากการเลือกนโยบายล่าสุดของทางการเกาหลีใต้ เมื่อเดือนที่แล้ว หน่วยงานกํากับดูแลทางการเงินในเกาหลีใต้ เริ่มตรวจสอบธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารพาณิชย์สําหรับธุรกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency

เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายกํากับดูแลทางการเงินที่ไม่สามารถระบุชื่อได้กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบธนาคารเพื่อหาความเชื่อมโยงใด ๆ ก็ตามกับการฟอกเงินหรือการเก็งกําไรสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์คริปโต ในขณะที่เขาละเลยที่จะระบุชื่อแพลตฟอร์มที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ มีการเปิดเผยว่า Shinhan Bank เป็นหนึ่งในผู้ให้กู้คริปโตที่อยู่ระหว่างการถูกสอบสวน

ความล่าช้าของภาษีคริปโต

ในขณะเดียวกัน ทางการเกาหลีใต้เพิ่งชะลอการดําเนินการตามระบอบภาษีสกุลเงินดิจิทัลอีกครั้ง โดยมีแผนใหม่สําหรับภาษีกําไรจากการลงทุนร้อยละ 20 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2025 ภาษีกําไรจากการลงทุนร้อยละ 20 สําหรับเงินดิจิทัล ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2023 

นอกจากนี้ ภาษีร้อยละ 20 จะใช้กับกําไรจากการซื้อขายคริปโตที่มูลค่าเกิน 1,900 ดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลาหนึ่งปี ผู้เข้าร่วมตลาดคริปโตหลายคนมีปัญหากับกฎข้อนี้ โดยรู้สึกว่าการเก็บภาษีกําไรที่สูงกว่า 1,900 ดอลลาร์สหรัฐนั้นเข้มงวดเกินไป ตัวอย่างเช่น นักลงทุนรายย่อยจะได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเกณฑ์นี้โดยเฉพาะ