Sam Bankman-Fried (SBF) ซีอีโอของ FTX เชื่อว่าช่วงฤดูหนาวคริปโตที่เลวร้ายที่สุดจะจบลง ตราบที่ไม่มีผลกระทบที่น่าตกใจใดๆ จากภายนอกเกิดขึ้นอีก
SBF กล่าวเตือนว่า หาก Nasdaq ร่วงลง 25% อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดภาวะถดถอยในสองปีครึ่ง ดังนั้น ราคา Bitcoin ที่ 10,000 ถึง 15,000 ดอลลาร์นั้นคือความเป็นจริง หากมันเกิดขึ้น SBF กล่าวว่า อาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก
FTX ของ SBF ได้เผชิญหน้าและฝ่าฟันฤดูหนาวคริปโตในด้านที่ดีกว่า ซึ่งต่างจากที่บางบริษัทต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บในด้านที่ย่ำแย่ Voyager Digital, Celsius, Babel Finance และ Three Arrows Capital ต่างประสบกับภาวะล้มละลายซึ่งทำให้นักลงทุนบางคนหมดหวังที่จะกู้เงินฝากของพวกเขาคืน
ความพ่ายแพ้ของตลาดยังไม่จบ SBF กล่าว
Sam Bankman-Fried ซีอีโอของ FTX เชื่อว่าความพ่ายแพ้ส่วนเล็กๆ ของตลาด Cryptocurrency ยังไม่เกิดขึ้นและพวกเขาจะจัดการกับมันได้ ความพ่ายแพ้เริ่มต้นขึ้นหลังจากการล่มสลายของ Algorithmic Stablecoin อย่าง TerraUSD ซึ่งเป็น Cryptocurrency ประเภทหนึ่งที่ Peg (ตรึงมูลค่า) กับสกุลเงิน Fiat (สกุลเงินทั่วไป เช่น USD) โดยใช้เงินสำรองหรืออัลกอริธึม
ผู้ก่อตั้ง Frax ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ใช้หลักประกันบางส่วนและอัลกอริทึมบางส่วน เชื่อว่าการล่มสลายของ Stablecoin อื่นๆ ไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง Crypto Winter ในรอบปัจจุบัน ด้วยการถือครองทรัพย์สินภายนอกเป็นหลักประกัน สิ่งนี้ “เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน” Sam Kazemian กล่าวกับ Be[In]Crypto ในการให้สัมภาษณ์พิเศษ
SBF กล่าวว่า ฤดูหนาวนั้นมีความจำเป็นในการที่จะกรองผู้ที่ลงทุนใน Crypto โดยไม่คำนึงถึงมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ เขากล่าวว่าการคิดแบบ “ไร้เหตุผล” นั้นใช้ได้เฉพาะในช่วงเวลาแห่งความสบายใจในตลาดเท่านั้น
SBF ได้ทุ่มเงินให้กับบริษัท Cryptocurrency ที่ปัญหา โดยกล่าวว่า มันเป็นการเสนอราคาเพื่อปกป้องทรัพย์สินของลูกค้าและป้องกันผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อที่เชื่อมโยงถึงกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า FTX ยังพิจารณาในการปิดดีลที่ไม่ได้เป็นปัญหาร้ายแรง แต่ก็ไม่มีความเหมาะสมเช่นกัน การยื่นเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องของ FTX นี้ถูกนำมาเปรียบเทียบกับบทบาทของธนาคารเช่น JPMorgan Chase ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทางเลือกสุดท้ายให้แก่ธนาคารในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008
หนึ่งในดีลที่ FTX และ SBF เห็นว่าเป็นที่น่าพอใจคือ BlockFi ซึ่งขยายวงเงินสินเชื่อของพวกเขา 400 ล้านดอลลาร์เนื่องจากผู้ให้บริการสินเชื่อพยายามที่จะดิ้นรนเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสภาพคล่อง พวกเขามีตัวเลือกในการเข้าซื้อกิจการในราคา 240 ล้านดอลลาร์
ในเดือนพฤษภาคม SBF เข้าซื้อหุ้น 7.6% ใน Robinhood Markets เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทนายหน้าลดลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ เขายังให้ผู้ให้บริการสินเชื่อคริปโต Voyager Digital ยืม 200 ล้านดอลลาร์และ 15,000 Bitcoins บริษัทใช้เงินไป 75 ล้านดอลลาร์ จากนั้น จึงยื่นขอล้มละลายในเดือนพฤษภาคม 2022
เขากล่าวว่า การขาดความไว้วางใจระหว่างบริษัทที่ให้ความร่วมมือกันทำให้ธุรกิจระหว่างพวกเขาเองมีค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งเขาหวังว่าเขาจะได้รู้มากกว่านี้ก่อนที่จะลงมือทำด้วยตัวเอง
Bitcoin ที่ราคา $100K นั้นอาจจะไกลเกินไป
เมื่อพูดถึง Ethereum นั้น SBF หลีกเลี่ยงในการคาดการณ์ราคาใดๆ ที่เกี่ยวกับ The Merge ที่จะเกิดขึ้น Vitalik Buterin กล่าวว่า เขาไม่คาดว่าจะมีการ Fork Proof-of-Work ใดๆ เพื่อขัดขวางการอัพเกรด The Merge ซึ่งจะทำให้เลเยอร์ฉันทามติของ Ethereum เปลี่ยนไปเป็น Proof-of-Stake
สำหรับ Bitcoin นั้น ความเชื่อมั่นของ SBF นั้นคือการมองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวัง เขาเชื่อว่าสภาพแวดล้อมของความโปร่งใสด้านกฎระเบียบที่มากขึ้นพร้อมกับการฟื้นตัวของราคาจะช่วยให้ Bitcoin ไปได้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม $100k อาจเป็นเรื่องที่ไกลเกินไป
ณ เวลานี้ Bitcoin อยู่ที่ราคา 23,172 ดอลลาร์
Trusted
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ
