ดูเพิ่มเติม

Citi Bank มอง BTC: วิกฤตสภาพคล่องจบลงเเล้ว

1 min
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

สรุปย่อ

  • Citi Bank มอง Stablecoin และ ETF คือตัวบ่งชี้
  • ตัวเลขผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมน้อยมาก

จากการศึกษาของ Citi Bank และนักเศรษฐศาสตร์ วิกฤตสภาพคล่องของ Bitcoin อาจจบลงแล้ว ตลาดคริปโตโดยรวมอาจผ่านสภาพที่เลวร้ายที่สุดไปเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม

หลังจากการทำจุดสูงสุดไปเมื่อเดือน พฤศจิกายนปีที่แล้ว มูลค่าของ BTC ลดลงไปมากกว่าครึ่ง พร้อมกับการสูญเสียมูลค่าอย่างมหาศาลของตลาดสกุลเงินคริปโตโดยรวม นอกจากนี้ยังมีการล่มสลายของ Terra (LUNA) จากวิกฤต UST ที่ทำให้สถาบันทางการเงินหลายๆ แห่งต้องล้มละลายเกิดเป็นผลกระทบลูกโซ่ไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น 3AC, Celsius, หรือ Voyager คนไม่มีใครคาดคิดว่าผลกระทบอันเลวร้ายเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว

Citi Bank มอง Stablecoin และ ETF คือตัวบ่งชี้

ช่วงก่อนนหน้านี้นักลงทุนมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันเลือกถอนเงิน USDT ออกจากตลาดเพื่อลดความเสี่ยง ทำให้ stablecoin ตัวดังกล่าวสูญเสียเสถียรภาพไปในระยะหนึ่ง นอกจากนี้การสูญเสียมูลค่าทางตลาดของ BTC ก็ทำให้บริษัทที่ลงทุนใน Bitcoin จำเป็นต้องไล่พนักงานออกกันอย่างจ้าหละหวั่น ประกอบกับเหตุการณ์เศรษฐกิจโลกที่เข้ามาซ้ำเติม ทว่าปัจจุบันมีสัญญาณหลายๆ อย่างที่บ่งชี้ว่าวิกฤตอาจผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว

ทางธนาคารยักษ์ใหญ่มองว่า ตลาดคริปโตนั้นยังเล็กและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม แต่มันก็อาจจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนักลงทุนได้ ล่าสุดพวกเขามองว่าความกลัวของนักลงทุนเหล่านั้น อาจผ่านจุดที่เลวร้ายไปแล้วและความเชื่อมั่นกำลังจะกลับมา จากข้อมูล พวกเขามองว่า การไหลออกของ Stablecoin และ ETF เริ่มชะลอตัวลง เป็นสัญญาณว่าความกลัวในตลาดลดน้อยลง และทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น

“การนำสินทรัพย์ดิจิตอลหรือคริปโต ไปค้ำประกันในโลกจริงนั้นน้อยมาก ดังนั้นมันจริงเป็นความเสียหายทางด้านบัญชีเสียเป็นหลัก ดังนั้นผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมจึงน้อยมาก” กล่าวโดย Joshua Gans นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Toronto ในบทสัมภาษณ์กับ CNBC

ตัวเลขผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมน้อยมาก

จากการวิเคราะห์ของทางธนาคาร ตลาดคริปโตที่มีมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ นั้นถือว่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับ ตลาดทุนของสหรัฐอเมริกา ที่มีมูลค่าว่า 34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เราจึงสามารถพูดได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ ตลาดคริปโตจะส่งผลกระทบต่อตลาดเงินโดยรวมของสหรัฐ

การวิเคราะห์ดังกล่าวเป็นไปในทางเดียวกันกับ นักวิเคราะห์ท่านอื่นๆ เช่น Diego Vera จาก Buda.com ที่กล่าวว่า Bitcoin นั้นมีวงจรส่วนตัวของมัน และเมื่อไหร่ที่มันฟิ้นตัว มันจะฟิ้นตัวอย่างรุนแรงอย่างเกรี้ยวกราดด้วยตัวของมันเอง

ในขณะเดียวกัน Sam Bankman-Fried. CEO ของ FTX ได้ให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าวิกฤตสภาพคล่องน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว แม้ว่าตลาดจะยังไม่ฟิ้นตัวก็ตาม

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ

IMG_4466-1.png
Nonthachai Sukkankosol
นนทชัย สักการโกศล จบการศึกษาปริญญาโท ด้านการวิจัยผลงานศิลปะร่วมสมัย จาก SOAS University of London แต่ผันตัวมาเป็นผู้แนะนำการลงทุนที่บริษัทหลักทรัพย์ Finansia Syrus Securities PLC. เขาถือใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนตราสารทุน ตราสารหนี้และกองทุนรวม และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมถึงใบรับรองด้านการวิเคราะห์เชิงเทคนิค CMT ระดับ 2 จาก CMT Association ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีประสบการณ์เกี่ยวกับการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และเริ่มลงทุนคริปโตเคอเรนซี่มาตั้งแต่ปี 2016
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน