Web3 Wallets นั้นคืออะไร? ก่อนที่เราจะมาหาคำตอบในเรื่องดังกล่าว เราจะต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของ Web3 กันก่อน
คำว่า Web3 นั้นถูกจัดว่าเป็นเวอร์ชั่นในอนาคตของอินเตอร์เน็ตซึ่งพร้อมที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่างๆ ในแบบที่ Web2 เคยทำต่อ Web1 หรือแบบที่ Netflix แทรกแซงต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับ Blockbuster คลื่นลูกใหม่ของเทคโนโลยี ได้รับการหยั่งรากอย่างมั่นคงในแอพพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ โดยการขยายขอบเขตการใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่นเดียวกับ Machine Learning และ Artificial Intelligence (AI) เพื่อช่วยในการปรับปรุงแอพพลิเคชันที่อัจฉริยะและสามารถปรับเปลี่ยนได้
ดังนั้น จากการถูกนำไปใช้อย่างมหาศาล DApps, DeFi, Wallets และนวัตกรรมอื่นๆ จำนวนมากจึงได้รับการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง Web3 Wallets นั้นทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ Web3 ซึ่งจะช่วยให้บุคคลและบริษัทสามารถจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาได้อย่างสะดวกง่ายดาย มันจะช่วยมอบความสามารถในการเข้าถึงและความสามารถในการปรับขนาดให้ทุกคน สำหรับในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง Web3 Wallets 5 อันดับแรกที่คุณสามารถใช้เพื่อจัดการทรัพย์สินของคุณและเปิดเส้นทางของคุณเข้าสู่พื้นที่ Web3
Web3 Wallets คืออะไร?

พูดง่ายๆ ก็คือ Web3 Wallets เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ให้การเข้าถึงพื้นที่ Web3 มันคล้ายๆ กับ Crypto Wallet ทั่วไป ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ ส่ง และรับเงินดิจิทัลได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถโต้ตอบกับสัญญาอัจฉริยะ ทำธุรกรรม NFT พัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชน และเชื่อมต่อกับชุมชนผ่านกระเป๋าเงินเหล่านี้ได้ Web3 Wallet นั้นช่วยสร้างแอพพลิเคชั่นที่มีค่ามากมายนอกเหนือไปจากกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีอยู่ทั่วไป โดยปกติแล้ว กระเป๋าเงินเหล่านี้จะมีฝังอยู่ในเบราว์เซอร์เลย
โดยรวมแล้ว กระเป๋าเงินเหล่านี้จะเป็นแบบ Non-Custodial Wallets (กระเป๋าเงินที่ผู้ให้บริการไม่ได้จัดเก็บรักษา Private Key ให้กับผู้ใช้งาน) หมายความว่าคุณสามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกังวลกับพ่อค้าคนกลาง เช่น ธนาคาร นอกจากนี้ คุณสามารถควบคุมเงินทุนของคุณได้อย่างเต็มที่ และคุณไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอน KYC/AML ตามลำดับในขณะที่สร้างบัญชี
ต่อไปนี้คือข้อกำหนดสำคัญบางประการที่เกี่ยวข้องกับ Web3 Wallets:
- Public Key: นี่คือชุดตัวอักษรและตัวเลขที่จะช่วยให้คุณฝากและรับธุรกรรม Crypto ได้
- Private Key: ทำงานคล้ายกับรหัสผ่าน เป็นตัวเลขที่ใช้ยืนยันธุรกรรมจำนวนมาก ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึง Public Key ของ Web3 Wallet ได้ แต่ Private Key จะช่วยให้คุณอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเพื่อเข้าถึงเงินทุนคุณได้
- Seed Phrase: เป็นรายการคำแบบสุ่ม 12–24 คำที่ใช้ในการกู้คืน Crypto Wallet
คุณสามารถใช้ Web3 Wallet ได้จากที่ใดก็ได้ในโลก เรามาดูประโยชน์หลักๆ ของมันกัน
ประโยชน์ของการใช้งาน Web3 Wallets

Web3 Wallet มีขอบเขตการควบคุมที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดการธุรกรรม รายละเอียดด้านล่างนี้คือข้อดีบางประการของการใช้งานกระเป๋าเงินเหล่านี้
เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
คุณสามารถควบคุมทรัพย์สินของคุณได้อย่างเต็มที่ Web3 Wallet นั้นมักจะใช้งานได้ง่าย มันสามารถจัดการทรัพย์สินต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเนื่องจากคุณสามารถเข้าถึงรายละเอียดแต่ละรายการได้โดยตรง นอกจากนี้ Web3 Wallet ส่วนใหญ่นั้นติดตั้งได้ง่าย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ยังใหม่ต่อพื้นที่ Crypto
ขั้นตอนการตั้งค่านั้นใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เมื่อคุณสร้างบัญชีแล้ว คุณสามารถเริ่มทำธุรกรรมได้เลย เช่นเดียวกับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Web3 ได้อย่างง่ายดาย มันใช้งานได้ง่ายมากเมื่อเทียบกับกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเดิมๆ
ความเป็นส่วนตัวและการไม่เปิดเผยตัวตน
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ Web3 Wallet นำมาใช้งาน การใช้งานกระเป๋าเงินเหล่านี้ ข้อมูลส่วนตัวของคุณจะปลอดภัยและได้รับการคุ้มครอง ซึ่งหมายความว่าในขณะที่คุณทำธุรกรรมกับที่อยู่อื่นๆ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ข้อมูลของผู้รับ
ความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น
ความปลอดภัยของเงินทุนของคุณเป็นอีกผลประโยชน์ที่สำคัญที่คุณจะได้รับจากการใช้ Web3 Wallet พวกเขารับรองว่าการลงทุนของคุณจะปลอดภัยในขณะที่ทำธุรกรรม นอกจากนี้ ข้อมูล การระบุตัวตน และการเข้าถึงเงินทุนของคุณก็ยังจะปลอดภัยอีกด้วย กระเป๋าเงินส่วนใหญ่จะใช้ขั้นตอนการลงทะเบียน/ลงชื่อเข้าใช้ที่เข้ารหัสไว้ ซึ่งคุณจะต้องใส่รายละเอียดของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีช่องโหว่และผู้อื่นไม่สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินของคุณได้
เรามา Web3 Wallets 5 อันดับแรกที่ได้สร้างกระแสในพื้นที่ Crypto กันดีกว่า
Web3 Wallets ที่ดีที่สุด 5 อันดับ
นี่คือ Web3 Wallet ที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือที่สุดที่เรานำมาให้คุณเลือกใช้งานกัน
1. MetaMask

MetaMask เป็น Non-Custodial Wallet ซึ่งช่วยให้คุณสามารถซื้อ จัดเก็บ ส่ง และแลกเปลี่ยนโทเค็นได้ มีให้ใช้งานเป็นส่วนขยายเบราว์เซอร์บน Chrome และเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมอื่นๆ MetaMask สามารถใช้ได้ทั้งบน Android และ iOS
มันถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ Ethereum Blockchain ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเก็บรักษา Ethereum และโทเค็น ERC-20 อื่นๆ ได้ ด้วยการใช้งาน MetaMask ผู้ใช้งานยังสามารถค้นหาแอพกระจายอำนาจจำนวนมากโดยจะเสนอวิธีการที่ปลอดภัยในการผสานรวมโครงการและโต้ตอบกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ บนเครือข่าย
สำหรับผู้ใช้งานขั้นสูงนั้น MetaMask จะช่วยให้คุณสามารถโต้ตอบกับ DApp ในแบบที่ไม่กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึง ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยง Private Key ของคุณกับ DApps ทำให้กระบวนการทั้งหมดปลอดภัยยิ่งขึ้น
แม้ว่าตัวกระเป๋าเงินนั้น ส่วนใหญ่จะถูกใช้สำหรับ Ethereum Blockchain แต่มันก็ให้การเข้าถึงเครือข่ายที่เข้ากันได้กับ EVM อื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ซึ่งรวมไปถึง Binance Smart Chain, Polygon, HECO และอื่นๆ คุณยังสามารถสร้างกระเป๋าเงินจำนวนมากได้ด้วยแอพนี้เพียงเดียว
MetaMask ให้การควบคุมอย่างสมบูรณ์แก่คุณเมื่อทำธุรกรรม คุณต้องเลือกว่าจะใส่อะไรและเก็บอะไรไว้เป็นส่วนตัว มันจะรักษาความปลอดภัยในรายละเอียดการเข้าสู่ระบบของคุณและและ Private Key ก็จะได้รับการเข้ารหัส คุณเพียงแค่ต้องรักษา Seed Phrase ไว้ให้ปลอดภัย เพราะฉะนั้น คุณจะไม่สูญเสียความสามารถในการเข้าถึงบัญชีของคุณ
2. Rainbow

ตามที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ Rainbow เป็น Non-Custodial Wallet ที่สนุก ใช้งานง่าย และปลอดภัย ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสร้างกระเป๋าเงิน Ethereum สะสม NFT และสำรวจโลกใหม่ของ Web3
ปัจจุบัน มันสามารถใช้งานได้ทั้งในอุปกรณ์ iOS และ Android
กระเป๋าเงินมาพร้อมกับคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมมากมาย เช่น การรองรับ NFT, การผสานรวม WalletConnect และอื่นๆ อีกมากมาย
กระเป๋าเงิน Rainbow นำเสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายซึ่งให้ฟังก์ชันการแลกเปลี่ยนในตัวแก่ผู้ใช้งาน มันจะช่วยให้คุณสามารถทำธุรกรรมระหว่างโทเค็น ERC-20 หลายรายการโดยไม่ต้องทำการแลกเปลี่ยนภายนอก กระเป๋าเงินนี้ยังช่วยให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ตกเป็นเหยื่อของโครงการหลอกลวง เนื่องจากมันมีรายการโทเค็นที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยสำหรับการแลกเปลี่ยน
กระเป๋าเงิน Rainbow นั้นให้ความสำคัญกับความปลอดภัย จากการที่มันให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บ Private Key ที่เข้ารหัสไว้บน iCloud เพื่อการกู้คืนบัญชีที่ราบรื่นยิ่งขึ้น หากคุณประสบปัญหาในการรักษาความปลอดภัย Seed Phrase กระเป๋าเงินของ Rainbow นั้นอนุญาตให้คุณสามารถสำรองข้อมูลได้ ดังนั้น คุณจะไม่เสียสิทธิ์ในการเข้าถึงกระเป๋าเงินของคุณ
3. Trust Wallet

Trust Wallet เป็น Web3 Wallet ที่เสนอการเข้าถึงที่หลากหลายของ Cryptocurrency และ NFTs หลายล้านตัวที่อยู่บนบล็อกเชนต่างๆ ซึ่งรวมถึง Ethereum และ Binance Chain คุณสามารถเติมเงินในกระเป๋าเงินของคุณได้โดยตรงผ่านผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ซึ่งรวมไปถึง Mercuryo, MoonPay, Ramp Network, Simplex, Transak และ Wyre
มันทำงานได้ดีบนอุปกรณ์พกพา และยังสามารถใช้งานแอพได้อย่างง่ายดาย มันใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการตั้งค่า Trust Wallet ยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานที่มีกระเป๋าเงินอื่นๆ เช่น MetaMask หรือ MyEtherWallet นำเข้ารายละเอียดโดยใช้ Secret Phrase หรือ Private Key ได้
ผู้ใช้งานสามารถรับรางวัลจากการถือครองได้โดยการล็อกสินทรัพย์ของพวกเขาได้โดยตรงจากกระเป๋าเงินของพวกเขา โทเค็นบางตัวที่สามารถล็อกได้คือ BNB, Cosmos และ Tezos
Trust Wallet ยังมีฝังอยู่ในเบราว์เซอร์สำหรับ DApps ดังนั้น คุณจึงสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ DeFi ที่คุณชื่นชอบได้โดยตรงและค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งหมดได้ภายใน 1 หรือ 2 แดชบอร์ดเท่านั้น
ในแง่ของความปลอดภัย Trust Wallet นั้นปลอดภัยด้วย 12-Word Recovery Phrase และสามารถเข้าถึงได้ทั้งบน Android และ iOS โดยใช้ PIN หรือไบโอเมตริกซ์ บางที จุดอ่อนเดียวของกระเป๋าเงินนี้คือมันไม่รองรับ 2FA ซึ่งหมายความว่าหากมีผู้บุกรุกบัญชีของคุณ คุณจะไม่สามารถหยุดการเข้าถึงของพวกเขาได้ทั้งหมด เนื่องจากคุณไม่สามารถตั้งค่ารหัสยืนยันส่งไปยังอีเมลหรือส่งเป็นข้อความได้
4. Coinbase Wallet

นี่เป็น Self-Custody Wallet (กระเป๋าเงินแบบควบคุมได้เอง) ที่เสนอการเข้าถึงโทเค็นและ DApps นับพัน ทำให้คุณสามารถจัดเก็บ NFT (โทเค็น ERC-721) ทั้งหมดไว้ในที่เดียวได้
กระเป๋าเงินนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ได้อย่างราบรื่น และคุณสามารถลิงค์โทเค็น Ethereum ของคุณกับโครงการ DeFi จำนวนมากได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าร่วมรับสิทธิ์ในการรับ Airdrops ออนไลน์ได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรับเหรียญ Crypto ไปเลยฟรีๆ
คุณยังสามารถใช้กลุ่มสภาพคล่องของ DeFi เพื่อให้กู้หรือยืมและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ในเว็บเทรดแบบกระจายอำนาจที่มีอยู่ได้ โปรดสังเกตว่า ตัวกระเป๋าเงินนั้นรองรับ ICO ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจเหรียญใหม่ๆ ในราคาที่ดีที่สุดได้ นอกจากนี้ คุณสามารถใช้เว็บกระจายอำนาจบนโทรศัพท์หรือเบราว์เซอร์ของคุณและสำรวจร้านค้าที่สามารถใช้งาน Crypto ที่มีอยู่ได้
ด้วย Coinbase Wallet คุณสามารถเป็นสมาชิก DAO และเข้าร่วมในโครงการ Web3 ยักษ์ใหญ่ได้
พวกเขานั้นกระตือรือร้นที่จะเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้งานในขณะที่เก็บ Private Key ไว้ในเครื่องและใช้ 2FA เพื่อเก็บรักษาการเข้าถึง นอกจากนี้ Coinbase Wallet ยังใช้ PIN ความปลอดภัย 4 หลัก ซึ่งสามารถปลดล็อกกระเป๋าเงินและช่วยในการยืนยันธุรกรรมได้
5. Argent

Argent จะช่วยนี้ให้คุณสามารถซื้อ รับ ล็อก และซื้อขายบน Ethereum Layer 2 ได้โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำ ที่สุดแล้ว กระเป๋าเงิน Argent นั้นยังได้รับการพัฒนาเพื่อผสานรวม Ethereum DApps ไว้ในแอพพลิเคชันเดียวด้วยอินเทอร์เฟซการใช้งานที่ครอบคลุม มันสามารถใช้งานได้กับ Ethereum โดยรองรับเฉพาะโทเค็นและ NFT ที่ใช้ Ethereum ทั้งหมดเท่านั้น
ผู้ใช้งานต้องใช้เพียงหมายเลขโทรศัพท์จากนั้นก็สร้างชื่อผู้ใช้งาน ชื่อผู้ใช้งานนี้สามารถใช้เพื่อส่งและรับ Crypto ที่หลากหลายได้ โดยจะคล้ายกับแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบเดิมเช่น Cashapp
Argent Wallet นำเสนอ “Bulletproof Security” ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถกู้คืนกระเป๋าเงินของพวกเขาได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ Seed Phrase แต่จะใช้วิธี “Social Recovery” ซึ่งเป็นการเสนอชื่อญาติสนิทเป็น “ผู้พิทักษ์” เพื่อช่วยยืนยันบัญชีของผู้ใช้งานในกรณีที่อุปกรณ์สูญหายหรือใช้อุปกรณ์ใหม่
กระเป๋าเงินนี้ผสานรวมกับแพลตฟอร์มของ Ethereum มากมาย เช่น Compound และ Kyber ให้คุณสร้างรายได้จากการล็อกโทเค็นภายในแอพ Argent รวมคุณสมบัติของมันไว้ในแอพมือถือทำให้ขั้นตอนการลงทุนทั้งหมดนั้นทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ มันยังรองรับ WalletConnect สำหรับโทเค็นที่ไม่ได้ผสานรวมเข้ากับ Argent Wallet โดยตรง
ทำไมเราจึงต้องใช้ Web3 Wallets?
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่ Web3 คือ คุณต้องมี Web3 Wallet ที่เหมาะสม มันจะเก็บรักษา Private Key ของคุณไว้อย่างปลอดภัย ช่วยให้คุณส่งและรับสินทรัพย์ Crypto เช่น Ethereum, Bitcoin, Solana และอื่นๆ อีกมากมายได้
กระเป๋าเงินเหล่านี้มีให้เลือกใช้งานอยู่หลายร้อยรายการ แต่แพลตฟอร์มที่เราได้แนะนำไปข้างต้นนั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือมากที่สุดซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้งานในระดับเริ่มต้น กระเป๋าเงินเหล่านั้นมีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยคุณจัดการและจัดเก็บทรัพย์สินของคุณได้อย่างปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อย
Web3 Wallet คืออะไร?
Web3 Wallet เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เสนอการเข้าถึงพื้นที่ Web3 โดยพื้นฐานแล้ว กระเป๋าเงินเหล่านี้คล้ายกับกระเป๋าเงิน Crypto ทั่วไปที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานเก็บรักษา ส่ง และรับเงินดิจิทัลได้
Web3 Wallet ที่ดีที่สุดคืออะไร?
Web3 Wallet ที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายจำนวนหนึ่ง ได้แก่ MetaMask ซึ่งมีผู้ใช้งานประมาณ 21 ล้านคนต่อเดือน และ Trustwallet ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความอเนกประสงค์และรองรับ Cryptocurrency นับล้าน อีกตัวคือ Coinbase ที่เสนอการเข้าถึงร้านค้า Crypto อย่างง่ายดายให้กับคุณ
Coinbase เป็น Web3 Wallet หรือไม่?
ใช่ Coinbase Wallet เป็น Non-Custodial Wallet ซึ่งให้การเข้าถึงคุณสมบัติต่างๆ ของ Web3 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นพบและใช้ DApps ที่ใช้ Ethereum ได้โดยตรงผ่านเบราว์เซอร์ในแอพ
MetaMask เป็น Web3 Wallet หรือไม่?
ใช่แล้ว MetaMask เป็น Web3 Wallet ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานกับบล็อกเชนที่เข้ากันได้กับ Ethereum ทั้งหมด
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์