Trusted

ก.ล.ต. ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ Zipmex

1 min
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

สรุปย่อ

  • Zipmex ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทําธุรกรรมกับสํานักงาน ก.ล.ต. แห่งประเทศไทย
  • ข้อมูลสามารถสืบย้อนกลับไปได้เมื่อก่อนที่แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายนี้หยุดให้บริการการเบิกถอนเงินชั่วคราวในเดือนกรกฎาคม 2022
  • อีกไม่นานนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะได้รับอํานาจมากขึ้นในการควบคุมคริปโตเคอเรนซีในประเทศไทย
  • Top Crypto Exchanges Without KYCRead Now
  • Promo

สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไทยได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ Zipmex และ เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ซึ่งเป็นซีอีโอของแพลตฟอร์ม

จากข้อมูลของ ก.ล.ต. ระบุว่า Zipmex และเอกลาภไม่สามารถให้ข้อมูลการทําธุรกรรมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 เมื่อตนระงับการเบิกถอนเงินได้

ทางบริษัทยังประกาศการระงับการถอนเงินในวันที่ 20 กรกฎาคม 2022 เนื่องจาก “สภาวะตลาดที่ผันผวน” และการเปิดรับผู้ให้กู้ Babel Finance และ Celsius

ทางแพลตฟอร์มยังถือครองใบอนุญาตซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากสํานักงาน ก.ล.ต. ประจำประเทศไทยและดําเนินงานในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย จากคําตัดสินของศาลสิงคโปร์ Zipmex Pte ซึ่งเป็นสาขาในสิงคโปร์ เพิ่งได้รับการคุ้มครองเป็นระยะเวลาสามเดือนจากเจ้าหนี้

Zipmex ไม่สามารถรับมือได้อย่างน่าพึงพอใจ

จากข้อมูลของสํานักงาน ก.ล.ต. แห่งประเทศไทยระบุว่า Zipmex ได้จัดส่งข้อมูลเพียงบางส่วนหลังจากได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 51 ของพระราชบัญญัติธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ก.ล.ต. ซึ่งได้ขอข้อมูลเนื่องจากปัญหาที่อ้างถึงโครงการ ZipUp+ ของบริษัท Zipmex ทั้งนี้ การดําเนินการของ ก.ล.ต. เป็นเพียงขั้นตอนแรกในการดําเนินคดีทางกฎหมาย

Zipmex ไม่ได้ตอบสนองต่อข้อร้องเรียนต่อสาธารณะ

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2022 Zipmex ได้ขอประชุมกับสํานักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานภาครัฐของไทยเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ตกเป็นเป้าโจมตีของระบบการให้กู้ยืมที่เชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งพบว่าบริษัทคริปโตหลายแห่งถูกฟ้องล้มละลาย

Zipmex ให้ Babel Finance ยืมเงินมูลค่า 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐและผู้ให้ Celsius ยืม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้จะสามารถชําระหนี้ได้อย่างรวดเร็วหากจําเป็น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับการพิสูจน์ในไม่ช้า ทําให้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตสูญเสียเงินทุนที่จําเป็นมากในช่วงที่ตลาดตกต่ำ

ธปท. จะได้รับอํานาจด้านกฎระเบียบมากขึ้น

รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการประเมินแนวทางที่มีต่อคริปโตเคอเรนซีอีกครั้ง โดยเลือกที่จะมอบอํานาจตามดุลยพินิจให้กับธนาคารแห่งประเทศไทยในการดูแลภาคส่วนนี้ ก่อนหน้านี้ หน่วยงานเดียวที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลอุตสาหกรรมคริปโตคือ ก.ล.ต. โดยทางองค์กรดังกล่าวจะรับผิดชอบการถ่ายโอนหน้าที่ที่กล่าวถึงข้างต้น

การดําเนินการด้านกฎระเบียบเพียงอย่างเดียวที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถทําได้คือการแจ้งให้สาธารณชนทราบว่าสินทรัพย์คริปโตไม่ได้รับการยอมรับในชำระค่าสินค้าและบริการตามกฎหมาย

กระบวนการทางกฎหมายชุดใหม่เพื่อกระชับจุดยืนด้านกฎระเบียบเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ปกป้องนักลงทุนในช่วงมหากาพย์ Zipmex อย่างไรก็ตาม กฎชุดใหม่จะไม่ยับยั้งการสร้างนวัตกรรม แต่พยายามปกป้องนักลงทุนแทน

ธนาคารแห่งประเทศไทยยังต้องการทดสอบเงินดิจิทัลของธนาคารกลางภายในสิ้นปี พ.ศ. 2565

แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอื่น ๆ เช่น Bitkub Online Co. เพิ่งถูกปรับโดย ก.ล.ต. สําหรับการรายงานปริมาณการซื้อขายที่สูงเกินจริงจากแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตของตน นอกจากนี้ยังผิดเพี้ยนไปจากหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายเหรียญดิจิทัลของตนเอง

สําหรับการวิเคราะห์ Bitcoin (BTC)  ล่าสุดของ Be[In]Crypto คลิกที่นี่

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน