ญี่ปุ่นนำหน้าหลายประเทศในการออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแล Stablecoins เพื่อปกป้องนักลงทุน
Bloomberg รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าสภาแห่งญี่ปุ่นได้รับรอง Stablecoins ในฐานะเงินดิจิทัล การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังวิกฤตการล่มสลายของ Terra stablecoin ซึ่งนำไปสู่ปัญหาครั้งใหญ่ในตลาดคริปโตเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้หลายประเทศต้องยกระดับความเข้มงวดกฎหมายที่ข้องเกี่ยวกับคริปโต
รัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวว่าจะมีการสร้างคณะกรรมาธิการสินทรัพย์ดิจิทัลภายในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2022 สอดรับกับวิกฤต Terra ที่เกิดขึ้น
ญี่ปุ่นกระชับมาตรการการออก Stablecoins ต่างชาติ
มีรายงานแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตของญี่ปุ่นได้งดเว้นการซื้อขาย Stablecoins แต่จากกฎหมายใหม่ของญี่ปุ่น มีรายงานว่าสถานะทางกฎหมายของญี่ปุ่นจะเชื่อมโยงกับเงินเยนและเครื่องมือที่สามารถชำระหนี้สินประเภทอื่น ๆ ได้ และรับรองว่าผู้ถือครองสินทรัพย์จะมีสิทธิ์ไถ่ถอนตามมูลค่าที่ตราไว้
กฎหมายดังกล่าวทำให้เมื่อกฎหมายบังคับใช้แล้ว ธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตและสถาบันทางการเงินที่ลงทะเบียนแล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่สามารถออก Stablecoins ได้นับตั้งแต่ปี 2023 อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระบวนการทางกฎหมายจะมีทีท่าอย่างไรกับ Stablecoins เอกชนที่ผลิตขึ้นนอกญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึง Tether ที่ใช้กองทุนสำรองเป็นหลักค้ำประกัน แ Luna ซึ่งมีอัลกอริธึมคอยควบคุมมูลค่า
ทั้งนี้ Reeve Collins ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโทเค็นดิจิทัล BLOCKv แสดงความคิดเห็นว่าเหตุการณ์ล่มสลายของ Terra อาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของ Stablecoin ที่ใช้อัลกอริธึมคำนวณ Reeve แจ้งกับ CNBC ว่า “หลายคนถอนทุนจาก Terra ไปแล้วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเพราะเขารู้ว่ามันไม่ยั่งยืน พูดได้ว่าผลสืบเนื่องของวิกฤตนั้นเป็น cascade effect และอาจจะเกิดขึ้นกับ Stablecoins ที่ใช้อัลกอริธึมอื่น ๆ ด้วย”
ในเดือนพฤษภาคม 2022 Fabio Panetta สมาชิกคณะกรรมการบริหาร European Central Bank ได้เน้นย้ำว่า “Stablecoins นั้นอ่อนแอเกินกว่าที่จะมาใช้จริงได้ ไม่มีการการันตีว่าเงินดิจิทัลเหล่านี้จะสามารถถอนกลับมาใช้งานได้ตอนไหน สัปดาห์ที่แล้ว Stablecoin รายใหญ่ที่สุดในโลกก็เพิ่งเสียหลักค้ำประกันราคาดอลลาร์สหรัฐไป”
จากข้อกังวลเหล่านี้ หน่วยงานด้านการเงินของญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถประกาศใช้กฎหมายใหม่สำหรับผู้ใช้งาน Stablecoins ได้เร็ว ๆ นี้
FTX ขยายกิจการไปญี่ปุ่น
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกกับสื่อว่ากฎหมายจะทำให้ Stablecoins ต่างชาติเข้ามาในญี่ปุ่นได้ยากขึ้น ผู้ให้บริการท้องถิ่นอย่าง Mitsubishi UFJ Trust และ Banking Corp ได้แจ้งแผนการที่จะออก Stablecoin (Progmat Coin) ของตนแล้ว
ถึงอย่างนั้น FTX แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตได้ประกาศว่าตนจะขยายกิจการไปยังญี่ปุ่น โดย Sam Bankman-Fried ผู้เป็น CEO ของ FTX และในปัจจุบันเป็น Interim CEO ของ FTX Japan ให้ข้อคิดเห็นว่า “ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มีการกำกับดูแลสูงและขนาดตลาดที่มีศักยภาพถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อพูดถึงการซื้อขายคริปโต จากการอออก FTX Japan เราสามารถนำผลิตภัณฑ์เสริมอื่น ๆ มาจัดจำหน่ายในตลาดนี้ได้ เช่น เพอเพ็ทชวลและสป็อตคริปโต เราหวังจะวิวัฒน์ระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลของญี่ปุ่นผ่านทาง FTX Japan นี่ล่ะ”
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ