เชื่อถือได้

นายธนาคารเคนย่าแจง คริปโตอาจเหมือน Mobile Money ได้ถ้ามีไฟเขียวจากผู้คุมกฎ

1 นาที
โดย Azmi Boonmalert
อัปเดตโดย Passanai Jiraruekmongkol

โดยย่อ

  • หนึ่งในผู้ปล่อยกู้ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเคนยามองว่า เหรียญดิจิทัลคริปโตสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ Mobile Money ในทวีปแอฟริกาได้
  • แม้ตลาดคริปโตในแอฟริกาจะเล็ก นายธนาคารจากเคนยายังฝากความหวังไว้กับผู้คุมกฎ
  • ธนาคารกลางเคนยายังไม่ประกาศใช้กฎหมายแบนการมีสินทรัพย์ดิจิทัล
  • KuCoin Releases KCS whitepaper – a Path for Geek to Mass Adoption Read now!
  • Promo

ผู้บริหารสูงสุดของผู้ปล่อยกู้ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเคนยา ได้แสดงความเห็นว่า คริปโตอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ Mobile Money ได้หากผู้คุมกฎในประเทศให้ไฟเขียวคริปโต

James Mwangi CEO ของบริษัท Equity Group Holdings Plc แสดงความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของการชำระเหรียญคริปโตผ่านมือถือในงานด้านการลงทุนของ Bloomberg โดยกล่าวว่า “Cryptocurrency สามารถมาช่วยเสริมวอลเล็ต Mobile Money ได้ แต่สำคัญที่สุด เราต้องคุยกับผู้คุมกฎ”

ตั้งความหวัง จาก M-Pesa ไป e-Pesa

จากข้อมูลของบริษัท Chainalysis แม้ว่า เศรษฐกิจคริปโตในทวีปแอฟริกาจะยังมีขนาดเล็ก ประเทศเคนยาก็ติดอันดับ 20 ประเทศแรกในรายงานดัชนีการใช้คริปโตในระดับโลก ประจำปี 2021 ร่วมกับประเทศไนจีเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศแทนซาเนีย โดยคาดการณ์ว่า มีประชากรราว 4.5 ล้านคนในประเทศเคนยาที่ครอบครอง Cryptocurrency ในปี 2021 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 8.5 ของประชากรทั้งหมดในประเทศเคนย่า

นอกจากนี้ Mwangi ยังให้ความเห็นว่า “แอฟริกาจะได้ประโยชน์มหาศาลจากการกระโดดไปสู่เทคโนโลยีอุตสาหกรรมรุ่นที่สี่ และ Cryptocurrency เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเหล่านั้น” 

Mwangi เชื่อว่า ความนิยมในการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจะยิ่งทวีคูณขึ้น ก็ต่อเมื่อผู้คุมกฎยินดีที่จะยอมรับเทคโนโลยีดังกล่าว โดยได้กล่าวอ้างถึง M-Pesa ซึ่งเป็นบริการโอนเงินโดยใช้มือถือที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2007

Mwangi อธิบายเพิ่มเติมว่า “จำไว้นะ ถ้าคุณเป็นประเทศเคนยา ธุรกรรมดิจิทัลผ่านทางมือถือหรือเงินดิจิทัลจะมีจำนวนมากกว่าสกุลเงินในโลกจริง”

เคนยารู้ถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากพื้นที่คริปโตแบบปิด

ในทวีปแอฟริกา Mwangi ยังหวังว่าผู้คุมกฎจะผลักดันธุรกิจคริปโตให้เป็นธุรกิจที่มีการกำกับดูแล โดยเสริมว่า “เรายังหวังว่า การใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ จะเป็นฐานหลักที่ใช้ในการพัฒนาแบบก้าวกระโดด เพราะเราไม่ได้พูดถึงกำลังการผลิตที่มีอยู่ แต่เราเริ่มต้นใหม่เลย”

เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา ธนาคารกลางของประเทศเคนยาได้แสดงความกังวลถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในธุรกิจคริปโต อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยังคงไม่ประกาศใช้กฎหมายสั่งแบนสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ออกแนวทางการคุ้มครองสิทธิของนักลงทุนแทน

ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ผู้ว่าการธนาคารกลาง Parick Njoroge ได้แนะนำให้ชาวเคนยาหลีกเลี่ยงธุรกรรมคริปโตแบบ peer-to-peer โดยอ้างว่า “มีคนตื่นเต้นกับเหรียญดิจิทัลคริปโตเพราะมองคริปโตเป็นการลงทุนแบบหนึ่งที่จะได้ผลตอบแทนสูง เพราะเห็นว่าราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาเลยเชื่อว่าจะได้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน”

Njoroge บอกกับสำนักพิมพ์ท้องถิ่นว่า “แต่ผมคิดว่า นั่นเป็นสาเหตุที่เราพูดกันว่า ในขณะที่มีหลายคนชนะ ก็มีอีกหลายร้อยคนที่แพ้”

ในขณะเดียวกัน อีกประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกาอย่างประเทศไนจีเรียก็เพิ่งประการใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล

เหรียญ CBDC ในระหว่างดำเนินการ

ธนาคารกลางเคนยาได้เผยแพร่รายงานข้อถกเถียงที่ศึกษาข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเหรียญดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC รายงานดังกล่าวเปิดรับฟังความเห็นสาธารณชนจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2022 แต่ผู้ว่าการไม่ได้มองว่า CBDC เป็น “กระสุนเงิน” ของการเข้าถึงบริการทางการเงิน

ก่อนหน้านี้ Njoroge ได้กล่าวว่า “ประเด็นของผม คือ อย่ามอง CBDC เป็นกระสุนเงินที่แก้ทุกปัญหาที่เรามีได้ ในทางตรงกันข้าม จัดการกับปัญหาต่างๆ โดยตรงซะ”

ในขณะเดียวกัน ประเทศแทนซาเนียก็กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล หลังจากที่ประเทศไนจีเรียปล่อยเหรียญ eNaira เมื่อปีที่แล้ว

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย

ข้อจำกัดความรับผิด

หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน