ในขณะที่ค่าเงิน GBP ลดลง พลเมืองสหราชอาณาจักรหนึ่งในสามหันมาถือครองคริปโต

ปัจจุบันกว่าหนึ่งในสามของพลเมืองสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าของคริปโตรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยผู้ชาย 41% และผู้หญิง 27% ลงทุนในอุตสาหกรรมนี้

ความคืบหน้านี้อ้างอิงจากรายงานล่าสุดของ VoucherCodes ซึ่งพบว่า 34% ของพลเมืองสหราชอาณาจักรถือสินทรัพย์ดิจิทัลไว้รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาผู้ซื้อคริปโตของอังกฤษ ได้แก่ Bitcoin (20%), Ethereum (8%), Dogecoin (6%), Litecoin (5%) และ Chainlink (3%)

ข่าวที่ว่าหนึ่งในสามของประชากรในสหราชอาณาจักรได้เข้าสู่ตลาดคริปโตนั้นสวนทางกับฉากหลังของวิกฤตค่าครองชีพเนื่องจากราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้นและเงินปอนด์ที่ถดถอยลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ๆ

ขณะที่ Robert Peston บรรณาธิการการเมืองของ ITV News ชี้ให้เห็นบน Twitter เมื่อวันจันทร์นี้ “มูลค่าของเงินปอนด์ต่อดอลลาร์สหรัฐลดลงมากกว่าหนึ่งในห้า เมื่อเทียบกับยูโร การรดมูลค่าครั้งนี้ถือว่าน้อยกว่า แต่ไม่สําคัญ 7% นั้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสแล้ว ถือว่าร่วงลงมากกว่า 14% กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมูลค่าของสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักรได้ทรุดตัวลงภายใต้รัฐบาลนี้”

การนําคริปโตเคอเรนซีมาใช้เริ่มต้นขึ้น

ขณะนี้ มีหลักฐานเพิ่มขึ้นซึ่งระบุว่าผู้ที่เข้าใจการทำงานของคริปโตเคอเรนซีเริ่มหันมาซื้อโทเค็น ในขณะที่ผู้ที่ยังไม่เข้าใจการทำงานของเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงจะถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง ทั้งนี้ ยังมีผู้คนในสหราชอาณาจักรจํานวนมากที่ยังไม่ได้ลองศึกษาเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี และส่วนใหญ่ดูเหมือนจะตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ย่างกรายเข้ามาศึกษาประเด็นนี้

ภายใน 66% ของชาวอังกฤษที่ไม่ได้เป็นเจ้าของคริปโตใด ๆ ยังคงมีผู้ที่ปฏิเสธการใช้คริปโตเคอเรนซีอย่างแข็งกร้าว ในทางตรงกันข้ามกับ 34% ของพลเมืองสหราชอาณาจักรที่ใช้หรือถือคริปโตอยู่แล้ว มีชาวอังกฤษในปริมาณเท่า ๆ กัน คิดเป็นประมาณ 35% ที่ไม่ต้องการศึกษาเรื่องคริปโตเคอเรนซีโดยสิ้นเชิงและปฏิเสธหัวชนฟ้า

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ผู้ใช้อ้างถึงการไม่ใช้คริปโตคือการขาดความรู้หรือความเข้าใจที่ 40% ประเด็นนี้ตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยการยืนยันว่าเงินดิจิทัลไม่มีการควบคุม เมื่อพิจารณาเหตุผลอื่น ๆ ที่อ้างถึงในการไม่ใช้คริปโต หลายคนตกอยู่ในหมวดหมู่ของการขาดความเข้าใจหรือความรู้เกี่ยวกับคิรปโตเคอเรนซี

 ดร. Garrick Hileman ผู้จัดทํารายงานกล่าวว่า “การศึกษาในปัจจุบันอาจเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดเพียงอย่างเดียวในการนําคริปโตมาใช้”

ประชาชนจํานวนไม่น้อย (19%) อ้างว่ามีความตระหนักรู้เกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีแต่ยังไม่เคยลงทุนเลย

รัฐบาลสหราชอาณาจักรชุดใหม่ทำสิ่งที่ถูกต้องไปแล้วหนึ่งอย่าง

ไม่ว่าพลเมืองอังกฤษแต่ละคนจะเข้าใจคริปโตอย่างถ่องแท้หรือไม่ก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลของสหราชอาณาจักรดูเหมือนจะเข้าใจถึงศักยภาพในการเติบโต หลังจากการเลือกตั้งผู้นํา Tory รัฐบาลสหราชอาณาจักรใหม่ที่นําโดย Liz Truss ได้ส่งสัญญาณอย่างรวดเร็วว่ามีท่าทีเปิดกว้างธุรกิจคริปโต

ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาสหราชอาณาจักรเมื่อต้นเดือนนี้ Richard Fuller รัฐมนตรีเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังอธิบายว่าเหตุใดประเทศจึงโอบกอดอุตสาหกรรมนี้ โดย Fuller กล่าวว่า “รัฐบาลสหราชอาณาจักรกําลังหาวิธีที่จะบรรลุความได้เปรียบในการแข่งขันระดับโลกสําหรับสหราชอาณาจักรเอง”

Fuller กล่าวว่ารัฐบาลเชื่อว่าสหราชอาณาจักร “สามารถกลายเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการเริ่มต้นและสร้างการเติบโตให้กับเทคโนโลยีคริปโต”

น่าเศร้าสําหรับ Truss ในขณะที่รัฐบาลของเธออาจเข้าใจศักยภาพของภาคคริปโต แต่นโยบายเศรษฐกิจในวงกว้างบ่งบอกถึงความเข้าใจที่น้อยลงของความเป็นจริงทางเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน

หลังจากส่งสัญญาณการลดภาษีและแผนการใช้จ่ายใหม่ที่สําคัญ ที่เรียกว่า “งบประมาณขนาดเล็ก” ในสัปดาห์นี้ มูลค่าของเงินปอนด์อังกฤษลดลง ทำให้ตลาดได้รับความตื่นตระหนกจากนัยว่าระดับการกู้ยืมของสหราชอาณาจักรจะเพิ่มขึ้น สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่เลวร้ายลงได้นําไปสู่การเก็งกําไรว่าธนาคารแห่งชาติอังกฤษอาจถูกบังคับให้ดําเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน

สหราชอาณาจักรอาจถูกต้องในแง่ที่ว่าคริปโตเคอเรนซีเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างมากสําหรับประเทศของตน แต่รัฐบาลไม่สามารถเสนอนโยบายทางเศรษฐกิจแบบ “ครอบจักรวาล” สำหรับทุก ๆ แง่มุมในการบริหารประเทศ” ได้