มูลค่าของ Ethereum ลดลงเหลือ 1,462 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงชั่วโมงการซื้อขายช่วงต้นของวันนี้ โดยแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 ซึ่งเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของตลาดที่เติบโตแบบไม่เสถียร
ETH ประสบปัญหามาตั้งแต่ต้นปี แต่จุดต่ำสุดใหม่นี้หมายความว่าตอนนี้ราคาซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ประมาณ 70% ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ทั้งนี้ ในช่วง 60 วันที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว altcoin ที่สําคัญได้ลดลงมากกว่า 50%
การที่มูลค่า ETH ลดลงน่าจะเกิดจากปัจจัยหลายประการตั้งแต่ความผิดพลาดของ UST/LUNA ไปจนถึงประสิทธิภาพของตลาดคริปโตโดยรวม นับตั้งแต่ UST ล่ม ราคาของ Ethereum ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง และประมวลราคารายสัปดาห์ในช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสีแดง
แต่ปัจจัยหนึ่งที่มีบทบาทสําคัญในการลดลงของราคาคือ The Merge ที่เลื่อนออกไป เป็นเวลาหลายปีที่ Ethereum ได้สัญญาว่าจะเปลี่ยนไปใช้หลักฐานการถือหุ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนตัวซึ่งกําหนดไว้ในเดือนมิถุนายนปีนี้ถูกเลื่อนออกไปในที่สุด โดยขณะนี้ การคาดการณ์ตั้งเป้าไปที่เดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน 2022
การเลื่อน The Merge หมายความว่าผู้ใช้ Ethereum ต้องรออีกหลายเดือนก่อนที่จะเห็นการปรับปรุงที่สัญญาไว้บนเครือข่าย
Ethereum อาจไม่พ้นชะตากรรมแบบเดียวกับเจ้าอื่น
อย่างไรก็ตาม มูลค่าที่ลดลงไม่ใช่เรื่องแปลกสําหรับ ETH กล่าวคือ ETH สะท้อนถึงการที่ความนิยมของตลาดในวงกว้างลดลง เห็นได้จากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่สําคัญส่วนใหญ่ราคาซื้อขายต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของระดับสูงสุดตลอดกาล
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มูลค่าตลาดคริปโตลดลง 7% และดูเหมือนว่าอาจลดลงต่ำากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021
มูลค่าตามราคาตลาดได้ลดลงไปแล้วประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์จากราคาสูงสุด นับตั้งแต่ทะลุระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ทั้งนี้ Bitcoin มีราคาซื้อขายที่ 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสูญเสียการยันราคาที่ 29,000 ดอลลาร์สหรัฐ และลดลง 60% จากมูลค่า ATH
สินทรัพย์ดิจิทัล 10 อันดับแรกอื่น ๆ ตามมูลค่าตลาดมีผลการดําเนินงานติดลบเท่ากัน Binance BNB ลดลง 62.5% จาก ATH ส่วนCardano ADA ลดลง 83% ทาง DOGE ลดลง 91% และ SOL ลดลง 87%
นักวิเคราะห์กลัวว่ามูลค่าของสินทรัพย์เหล่านี้จะลดลงอีก โดยบางคนคาดว่า BTC จะพบแนวรับที่ประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่การลดลงอย่างรวดเร็วอาจนำไปสู่ราคาซื้อขายที่ 17,000 ดอลลาร์สหรัฐในที่สุด
อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและความกลัวที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นถือเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะขาลงของอุตสาหกรรมคริปโตนี้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ