รองผู้ว่าการธนาคารกลางแอฟริกาใต้ถูกกล่าวหาว่าส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการใช้ Cryptocurrency อย่างผิดกฎหมาย
Kuben Naidoo ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดย Steven Sidley ศาสตราจารย์และนักเขียนชาวแอฟริกาใต้เนื่องจากกล่าวอ้างว่าธุรกรรมคริปโต “90%” ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย
จากข้อมูลวงในจากเพื่อนร่วมงานในสหรัฐอเมริกา แถลงการณ์ของ Naidoo ถูกวิพากษ์อย่างหนักโดย Sidley ซึ่งเรียกข้อมูลนี้ว่า “เรื่องคุยโว” และ “เรื่องเหลวไหล” นอกจากนี้ เขากล่าวว่าแถลงการณ์ของ Naidoo เป็นที่สนใจของสำนักข่าว แต่ถือเป็นข้อมูลที่ตั้งต้นจากข้อมูลเท็จที่เป็นภัยต่อพัฒนาการของอุตสาหกรรมคริปโต
ในการให้สัมภาษณ์ในการสัมมนาผ่านเว็บเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Naidoo กล่าวว่ากฎระเบียบของ Cryptocurrency ในแอฟริกาใต้อยู่ใกล้จะแล้วเสร็จแล้วภายในอีก 12-18 เดือน ในโอกาสนี้ ธนาคารกลางจะถือว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์แทนที่จะเป็นสกุลเงินเฉย ๆ มันจะจัดลำดับความสำคัญว่าด้วยการปกป้องในลงทุนตามประเภทสินทรัพย์
Sidley เผยข้อเท็จจริง
ในความคิดเห็นของสิ่งพิมพ์ของแอฟริกาใต้ “The Daily Maverick” Sidley ชี้ให้เห็นว่ามีเพียง 0.15% ของธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้นที่มีองค์ประกอบทางอาญา โดยอ้างถึงรายงานของ Chainalysis จากข้อมูลของ Sidley Chainalysis ถูกใช้โดยสํานักงานสอบสวนกลางในสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานกํากับดูแลทั่วโลก
ในทางตรงกันข้าม Sidley ตั้งข้อสังเกตว่าร้อยละ 5 ของการทําธุรกรรมในสกุลเงินปกตินั้นเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ทางอาชญากรรม ซึ่งมากกว่าที่เกิดขึ้นในโลกคริปโตกว่าห้าสิบเท่า
เขายังชี้ให้เห็นว่าคุณลักษณะหนึ่งของธุรกรรมบล็อกเชนคือการปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ที่ธุรกรรมที่มุ่งก่อความผิดจะเกิดขึ้นโดยไม่ถูกสังเกต เขาเสริมว่าเงินที่ใช้ในการก่ออาชญากรรมโดยใช้สกุลเงินปกติมักจะติดตามได้ยากกว่า โดยยกตัอว่างคดีที่ปานามีซึ่งมีข้อมูลรั่วไหลออกมาซึ่งเปิดเผยการทำสงครามการเงินระหว่างนิติบุคคลและบริษัทหลายแห่ง
Sidley ซึ่งเป็นนักเขียนนามอุโฆษ นักเขียนบทละคร และผู้ร่วมเขียน “Beyond Bitcoin: Decentralized Finance and the End of Banks” ยังวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจทำให้คริปโตเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน โดยเขากล่าวว่าธนาคารต้องการ “จัดระดับ” สินทรัพย์คริปโตให้อยู่ภายในหมวดหมู่ของการเป็นสินทรัพย์โบราณ ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายที่ร่างขึ้นสําหรับสินทรัพย์รุ่นเก่า เช่น หุ้น สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์
เขาสนับสนุนให้กำหนดว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ก่อนที่จะมีการพิจารณาด้านกฎระเบียบ
Naidoo ไล่รายชื่อหน่วยงานหลักเพื่อดูแล AML และ KYC
ในเดือนกรกฎาคม Naidoo กล่าวว่าขั้นตอนแรกของการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลคือการประกาศให้ Cryptocurrency เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน โดยนําผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาอยู่ภายใต้เขตอํานาจของศูนย์ข่าวกรองทางการเงินซึ่งรายการธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกตรวจสอบว่าข้องเกี่ยวกับการฟอกเงิน การหลีกเลี่ยงภาษี และการสนับสนุนทางการเงินแก่กิจกรรมการก่อการร้ายหรือไม่
เขากล่าวว่าไม่ใช่หน้าที่ของธนาคารกลางที่จะตัดสินข้อดีของ Cryptocurrency แต่เพื่อแจ้งให้นักลงทุนทราบถึงความเสี่ยงนั้น เขาเสริมว่าผลิตภัณฑ์คริปโตมีความผันผวนเกินกว่าที่จะใช้เป็นวิธีการชําระเงินปกติ
กฎระเบียบของ SARB จะทำให้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในประเทศปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เรื่อง Know-Your-Customer ได้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ