ตลาดคริปโตของประเทศไทยในปี 2025 มีความคึกคักและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้มากมายสำหรับนักเทรด นี่คือ 5 อันดับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่ง Bitget ครองอันดับหนึ่ง:
1. Bitget
Bitget ก้าวขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในตลาดคริปโตของประเทศไทย โดยมีรายการคริปโตให้เลือกมากกว่า 800 เหรียญ แพลตฟอร์มนี้ขึ้นชื่อเรื่องอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย รองรับทั้งมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพ ค่าธรรมเนียมการเทรดสปอตเริ่มต้นที่ 0.1% และค่าธรรมเนียมฟิวเจอร์สอยู่ที่ 0.02% สำหรับผู้ให้สภาพคล่อง (Maker) และ 0.06% สำหรับผู้รับสภาพคล่อง (Taker) ทำให้การซื้อขายมีต้นทุนที่คุ้มค่า
นอกจากนี้ Bitget ยังรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึง บัตรเครดิตและการโอนเงินผ่าน SEPA เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ชาวไทย
2. MEXC
MEXC โดดเด่นในด้านจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลที่รองรับ ซึ่งมีมากกว่า 2,400 เหรียญ ค่าธรรมเนียมการเทรดอยู่ในระดับต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม โดย ไม่มีค่าธรรมเนียม Maker และค่าธรรมเนียม Taker เริ่มต้นเพียง 0.02%
แพลตฟอร์มนี้ยังรองรับการใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 300x และมีตัวเลือกการฝากเงินที่หลากหลาย รวมถึงการโอนผ่านบัตรเครดิตและบัญชีธนาคาร
3. Binance
Binance เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยให้บริการซื้อขายคริปโตมากกว่า 400 เหรียญ สำหรับนักลงทุนไทย แพลตฟอร์มมีฟีเจอร์การเทรดขั้นสูง เช่น การซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชัน พร้อมเลเวอเรจสูงสุด 125x
ค่าธรรมเนียมการเทรดมีความแข่งขันสูง โดยค่าธรรมเนียมการซื้อขายสปอตอยู่ที่ 0.1% และค่าธรรมเนียมฟิวเจอร์สที่ 0.02% สำหรับ Maker และ 0.05% สำหรับ Taker
Binance ยังรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิตและการซื้อขายแบบ P2P
4. Kraken
Kraken เป็นแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อเรื่อง ความปลอดภัยสูง และอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับมือใหม่ รองรับการซื้อขายคริปโตมากกว่า 220 เหรียญ พร้อมตัวเลือกการซื้อขายฟิวเจอร์สที่ให้เลเวอเรจสูงสุด 50x
ค่าธรรมเนียมการซื้อขายสปอตจะค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่ง โดย Maker อยู่ที่ 0.25% และ Taker อยู่ที่ 0.4% แต่ค่าธรรมเนียมฟิวเจอร์สยังคงอยู่ในระดับแข่งขันที่ 0.02% สำหรับ Maker และ 0.05% สำหรับ Taker
Kraken ยังรองรับการฝากเงินเป็นสกุลเงินทั่วไปผ่านบัตรเครดิตและการโอนเงินผ่านธนาคาร
5. Bitkub
Bitkub เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้รับ การรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.)
แพลตฟอร์มนี้รองรับการซื้อขาย มากกว่า 70 เหรียญดิจิทัล และสามารถทำธุรกรรมเป็น สกุลเงินบาท (THB) ผ่านธนาคารไทยได้โดยตรง Bitkub ยังมี ฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับนักลงทุนไทย
ค่าธรรมเนียมการซื้อขายอยู่ที่ 0.25% สำหรับทั้ง Maker และ Taker
สรุป
แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ Bitget โดดเด่นด้วย จำนวนเหรียญที่รองรับมากมาย ค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ และการออกแบบที่เน้นผู้ใช้งาน ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับนักลงทุนคริปโตในประเทศไทยปี 2025
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
