Coinbase เริ่มประกาศใช้ข้อบังคับใหม่ในการทำความรู้จักตัวตนลูกค้า (KYC) สำหรับผู้ใช้งานในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยทางแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตได้โพสต์ข้อความอัพเดทว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลในวันที่ 27 มิถุนายน
ข้อบังคับใหม่นี้ส่งผลให้ผู้ใช้งานชาวดัทช์จะต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับและธุรกรรม หากจะส่งสินทรัพย์ออกจากแพลตฟอร์มฯ
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เกิดขึ้นจากแรงกดดันในการปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยข้อมูลที่ผู้ใช้งานจะต้องมอบให้กับแพลตฟอร์มประกอบด้วยชื่อ-สกุลของผู้รับ วัตถุประสงค์ของการโอน และที่อยู่ของผู้รับ
ด้านวงการคริปโตมีท่าทีผิดหวังกับข่าวนี้ โดยบางส่วนบอกว่า ข้อบังคับนี้จะทำให้ NFT ของ Coinbase ใช้งานไม่ได้
เหตุการณ์นี้อาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นออกกฎแบบเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่กับตลาด NFT หรืออย่างน้อยก็กับบริษัทหรือองค์กรที่เป็นตัวกลาง โดยรัฐบาลในหลายประเทศ ณ ขณะนี้ก็กำลังเพ่งเล็งตลาด DeFi และอีกไม่นานก็อาจจะถึงคราวของตลาด NFT
ที่ผ่านมา บางประเทศมีจุดยืนที่ต่อต้าน NFT อย่างรุนแรง ยกตัวอย่างเช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่สั่งห้ามไม่ให้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเปิดให้มีการซื้อขาย NFT ในช่วงแรก แต่นับตั้งแต่นั้นมา รัฐบาลไทยก็แสดงท่าทีอ่อนลงกับ NFT
Coinbase เจอศึกใหญ่
หลังจากที่มีมาตรการบังคับใหม่ Coinbase มีแนวโน้มที่จะเจอกระแสตอบรับเชิงลบจากผู้ใช้งาน โดยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางแพลตฟอร์มฯ ก็ต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวังหลายครั้ง
ราคาของเหรียญ COIN ลดลงมหาศาล นับตั้งแต่แตะราคาสูงเป็นประวัติการณ์ โดยจากรายงานรายได้ล่าสุด เหรียญ COIN มีมูลค่าน้อยกว่าเหรียญ stellar แล้ว ภาะวิกฤตในตลาดคริปโตล่าสุดยังทำให้ทางแพลตฟอร์มฯ ต้องยกเลิกการจ้างงานในหลายตำแหน่งที่หาคนได้แล้ว ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากในวงการคริปโต ด้านผู้บริหารของแพลตฟอร์มได้ออกมาเตือนว่า อาจจะมีการลดตำแหน่งเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
นอกจากนี้ Moody’s บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือยังลดอันดับ Corporate Family Rating หรือ CFR ของ Coinbase ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทที่ Moody’s มีความเห็นว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ โดยลดจากระดับ Ba2 เป็น Ba3 ซึ่งถือเป็นอันดับที่ต่ำกว่า กลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน
ทางบริษัท Moody’s ได้อ้างถึง “รายได้ที่ลดน้อยลงอย่างมากและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ ของ Coinbase ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะขาลงของราคาสินทรัพย์คริปโตในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา และเป็นเหตุให้จำนวนกิจกรรมการซื้อขายคริปโตลดลง”
นอกจากนี้ การให้บริการซื้อขาย NFT ของ Coinbase ยังออกตัวค่อนข้างช้า แม้ว่าจะมีความต้องการมาก และในขณะเดียวกัน Coinbase ยังปิดแพลตฟอร์ม Coinbase Pro และรวมฟีทเจอร์บางอย่างเข้ากับแอปพลิเคชั่นสำหรับลูกค้าแทน
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ