หน่วยงานกํากับดูแลทางการเงินได้ประกาศว่าทางญี่ปุ่นมีกําหนดจะอนุญาตให้ธนาคารทรัสต์ (Trust Bank) จัดการสินทรัพย์ Cryptocurrency ได้ภายในปีนี้
มีรายงานว่าสํานักงานบริการทางการเงิน (FSA) จะเสนอการเปลี่ยนแปลงหลังจากเปิดให้สาธารณะแสดงความคิดเห็นมาตอนระยะเวลาหนึ่งเดือน
จากการแก้ไขที่เกิดขึ้น Nikkei รายงานว่า FSA มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองนักลงทุนและเร่งการสร้างตลาด Cryptocurrency โดยการยกเลิกการควบคุมธนาคารทรัสต์
สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาจัดการสินทรัพย์ Cryptocurrency ซึ่งหน่วยงานระบุว่าเป็นภาคส่วนที่มีความ “ผันผวน” และ “มีความเสี่ยงสูง” รายงานระบุว่ากฎหมายใหม่มีแนวโน้มที่จะมีผลบังคับใช้ “ตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ร่วง” ในปีนี้
การยกเลิกกฎระเบียบของธนาคารทรัสต์
แม้ว่าจะไม่มีข้อจํากัดในการเป็นเจ้าของและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ธนาคารทรัสต์ต้องเผชิญกับข้อ จํากัดด้านกฎระเบียบในการจัดการ Cryptocurrency อย่างไรก็ตาม มาตรการเช่นนั้นอาจกําลังจะเปลี่ยนไปเนื่องจากญี่ปุ่นนําการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมาสู่วิธีการควบคุมภาคส่วนคริปโต
เมื่อเดือนที่แล้ว ญี่ปุ่นกลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจคริปโตที่สําคัญแห่งแรกหลังจากการล่มสลายของ Terra โดยมีการผ่านร่างกฎหมายเพื่อควบคุม Stablecoins การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้ธนาคารที่ได้รับอนุญาตและสถาบันการเงินที่จดทะเบียนสามารถออก Stablecoins ได้ตั้งแต่ปีหน้า
มีธนาคารทรัสต์ที่จดทะเบียนแล้ว 13 แห่งในประเทศ ได้แก่ SMBC, Sumitomo Mitsui, Nomura Trust and Banking และ Mitsubishi UFJ Trust and Banking Corporation เป็นต้น
ในเดือนมีนาคม Sumitomo Mitsui Trust Holdings (SuMi) ยังประกาศว่าจะสร้างความร่วมมือกับ Bitbank ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย Cryptocurrency ของญี่ปุ่นเพื่อจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลสําหรับลูกค้า
การเปิดตัวดังกล่าวอนุญาตให้มีการให้บริการผลิตภัณฑ์ Cryptocurrency กระแสหลัก สํานักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อปีที่แล้วว่า กลุ่มบริษัทญี่ปุ่นประมาณ 70 แห่งกําลังวางแผนเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลที่มีรากฐานจากเงินเยนในปีนี้
ญี่ปุ่นเปิดทางให้ Web3
ในขณะเดียวกัน Nomura Holdings หนึ่งในโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นได้นําเสนออนุพันธ์ของบิทคอยน์ในประเทศ แพลตฟอร์มซื้อขาย Cryptocurrency ระดับโลกอย่าง FTX ได้ขยายกิจการสู่ญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยประเมินขนาดตลาด Cryptocurrency ของญี่ปุ่นว่ามีศักยภาพที่มูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเดือนที่แล้ว Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นบอกกับรัฐสภาว่าเขา “เชื่อมั่นว่า Web3 จะนําไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น” เขายังกล่าวถึงความจําเป็นในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในโลกเสมือนจริง
ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นต้องการควบคุมภาคธุรกิจให้ดีขึ้น รายงานล่าสุดได้เน้นย้ำว่าญี่ปุ่นกําลังพิจารณาข้อเสนอที่จะยึดสินทรัพย์ Cryptocurrency ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายเพื่อหยุดการก่ออาชญากรรมในโดเมนคริปโต
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
