หลังจากสงครามยูเครน-รัสเซียได้มาเยือน ตลาดคริปโตก็ดูจะผันผวนหนัก ทำให้นักลงทุนนำเงินไปฝากใน Safe heaven อย่าง Anchor luna ทำให้ Market cap พุ่งสูงไปถึง $34Million ณ ราคาปัจจุบัน
เหรียญ UST คืออะไร? UST หรือตัวเต็มคือ USterra เป็น Stable coin ที่ออกโดย Terra โดยเหรียญ UST นั้นจะถูกคงที่ไว้ที่ 1:1 USD ระบบที่เรียกว่า Seigniorage. Luna ออกแบบมาให้เผา 1 Luna = 1 UST โดย 2 เหรียญนี้จะประคองกันไว้ โดยเมื่อมีคนอยากได้ UST มากขึ้น เพื่อให้ UST ราคาไม่ขึ้นตาม Luna จะถูกเผามาเป็นเหรียญ UST เหรียญ Luna ก็จะแพงขึ้นแทน หากราคา UST ลงก็จะเผาเหรียญ Luna มาเติมเพื่อพยุงราคา UST ไว้ เหรียญ Luna ก็จะถูกลง และหาก UST ราคาขึ้นระบบก็จะขาย Luna ออกเพื่อประคองให้เป็น UST เป็น 1 เสมอ หากนักลงทุนคนไหนคาดการณ์ว่า UST จะมีการใช้มากขึ้นในอนาคต การซื้อ Luna ไว้ก็จะเป็นการเก็งกำไรจากจำนวน Luna ที่ลดลง
เบื้องหลังของ Anchor: ดอกเบี้ย 20% มาจากไหน?
เป็นอะไรที่น่าทึ่งสำหรับคนที่ทำงานในวงการการเงินมาตลอด แต่ว่า 19.5% APY นั้นอาจจะไม่สามารถอยู่ได้ในระยะยาว. นักลงทุนระดับเซียนเท่านั้นจึงจะสามารถได้ 20% ต่อเนื่องหลายปี และเผชิญกับความเสี่ยงมากมายที่ต้องคาดการณ์ การที่จะทำ 20% ได้ตลาดไปโดยไม่มีความเสี่ยงนั้น ดูจะเป็นอะไรที่ไม่ยั่งยืนหากจะคุยกันในรายละเอียด
Anchor Business Model: โมเดลธุรกิจ
Anchor สามารถหารายได้ได้หลายทางเริ่มต้นจาก
- Real Yield: Anchor ปล่อยให้นักลงทุนสามารถนำ bETH และ bLUNA มา stake ไว้ที่ Anchor เพื่อกู้ต่อได้ โดย Yield ของ bLUNA ประมาณ 5.5 – 7.1% APY และ bETH Yield ประมาณ 4.2% APY (ฺจาก Lido)
- Net Borrowing APR: หรือเรียกง่ายๆว่า ‘ค่าธรรมเนียมการยืม’ ปัจจุบัน Anchor เก็บประมาณ 13% APR แต่ว่าดอกเบี้ยเงินฝากนั้นมีประมาณ 20% หมายความว่าอีก 7% นั้นมาจากการ Subsidized (สนับสนุนเงินทุน) โดย TerraFromLabs (องค์กรของ Terra ที่สร้างมาเพื่อค้ำระบบอีกที) นั้นแสดงว่ายิ่งมีคนฝากมากขึ้นเท่าไหร่ เงินที่เติมมาก็จะยิ่งหมดไปเร็วขึ้นเท่านั้น (แต่จริงๆแล้ว Luna ราคาจะขึ้น TFL สามารถนำ Luna ที่เก็บไว้มาเติมได้ใหม่)
- Yield Reserve: เป็นเงินที่ Luna Foundation Guard กันไว้ตั้งแต่แรกเพื่อสร้างสภาพคล่อง (พูดง่ายๆก็คือเอาเงินมาเติมเรื่อยๆเพื่อไม่ให้คนถอนเงินหมด หรือโจมตีได้เมื่อฉุกเฉิน) และการที่ให้ดอกเบี้ย 20% APY นี้ก็เพื่อสร้าง Adoption ได้รวดเร็ว เป็นกลยุทธ์ Burning Capital ที่เหล่า Startup ชอบใช้เพื่อหา user ใหม่อย่างไว (พูดง่ายๆคือแจกตังให้คนใช้ คล้ายๆกับโปรโมชั่น Grab, Shopee ช่วงแรกๆ)
ในสถานการณ์ตอนนี้ Luna ต้องจ่าย $848 million ต่อปี ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 216 วันกว่าที่ Resserve จะเหลือ 0 จากนั้นเหรียญ UST ที่ถืออยู่ก็จะไม่ = USD อีกต่อไป
ถ้า Anchor ลดดอกเบี้ย ไม่ให้ 19.5% อีกต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น?
มีความเป็นไปได้ว่าผู้คนจะถอนเงินออกเพื่อไปฝากเงินที่อื่นแทนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ในความเสี่ยงที่ต่ำกว่า เมื่อถึงวันนั้น Luna จะถูกแห่ถอน เพื่อแลกมาเป็น Fiat และราคา Luna ก็จะตกลง
ข่าวดี! Do Kwon COO Luna ได้เติมเงินเพิ่ม 12 ล้าน Luna เพื่อปริ้น UST
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Do Kwon CEO ของ Terraform Labs (TFL) ได้บริจาค Luna เป็นจำนวน 12 ล้านให้กับ Foundation Guard Reserves ตีมูลค่าเท่ากับ 1.2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถต่ออายุของ Researve (เงินทุนสำรอง) ไปได้อีก 2 ปีเพื่อให้ Usecase มีมากเพียงพอต่อเงินเฟ้อ
แม้ว่าดอกเบี้ย 20% จะโหดมากๆเมื่อเทียบกับการฝากเงินปกติ (การฝากปกติได้เพียง 0.5% APY) และ Defi เจ้าอื่นๆ แต่โปรโมชั่นเช่นนี้ก็แลกมากับการเติบโตของ Terra ที่สูงมากเช่นกัน
ในวงการคริปโต ทุกแพลตฟอร์มล้วนมีความเสี่ยงแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Depegging (เงินหลุดประกัน เกิดเงินเฟ้อ), Smartcontact hacks แต่ถ้าคุณซื้อประกัน คุณก็จะเจอปัญหาอีกว่า 7% ที่ต้องเสียให้ประกันนั้นคุ้มหรือไม่? และถ้าคุ้ม บริษัทประกันจะชิ่งหรือป่าว? (เพราะถ้าคนโดนกันหมด ประกันอาจจะเจ๊ง) สิ่งเหล่านี้คือความเสี่ยงที่ต้องนำไปคิด
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ