ตลาดคริปโตยังคงระมัดระวัง แต่บาง token กำลังเผชิญกับบททดสอบสำคัญในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ราคายังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ความสนใจจึงเริ่มหันไปจับตา altcoins สามตัวที่ควรดูในสัปดาห์ที่สามของเดือนธันวาคม ทั้งนี้ แต่ละตัวมีปัจจัยกระตุ้นเฉพาะใกล้เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของอุปทาน เหตุการณ์ของเครือข่าย หรือพฤติกรรมการถือครองที่เปลี่ยนไป
สถานการณ์เหล่านี้อาจสร้างความเคลื่อนไหวรุนแรง หากผู้ซื้อหรือผู้ขายเข้าควบคุมทิศทางในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
SponsoredSei (SEI)
SEI เผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องเข้าสู่กลางเดือนธันวาคม และการเคลื่อนไหวของราคาก็สะท้อนถึงความระมัดระวังนี้ token ตัวนี้ปรับตัวลดลงประมาณ 23% ตลอดเดือนที่ผ่านมา และมากกว่า 60% ในรอบสามเดือน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นยังคงเปราะบาง ในขณะที่ตลาดรอหาทิศทางต่อไป
ณ ขณะที่เขียนนี้ SEI ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.124 USD โดยเคลื่อนไหวในกรอบรูปแบบ falling wedge ที่กว้างขึ้นในกราฟรายวัน โดยรูปแบบนี้มักพบในช่วงปลายของขาลง เมื่อแรงขายเริ่มชะลอตัวและราคาค่อยๆ ถูกกดลง ทั้งนี้ SEI ยังเคลื่อนไหวสูงกว่าเส้นล่างของกรอบดังกล่าวเล็กน้อย ทำให้ช่วงการซื้อขายในอีกไม่กี่เซสชั่นข้างหน้ามีความสำคัญ ดังนั้น ความตึงเครียดนี้จึงทำให้ SEI เป็นหนึ่งใน altcoins ที่ควรจับตา
ตัวชี้วัดโมเมนตัมให้สัญญาณผสมผสานที่น่าสนใจ ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม ถึง 14 ธันวาคม ราคาของ SEI ทำจุดต่ำใหม่ ในขณะที่ Relative Strength Index (RSI) สร้างจุดต่ำที่สูงขึ้น RSI วัดความแรงของโมเมนตัม และ bullish divergence นี้บ่งชี้ว่าฝ่ายขายอาจเริ่มเสียการควบคุม แม้ว่าราคาจะยังไม่ฟื้นตัวก็ตาม
อยากได้ข้อมูลเชิงลึก token แบบนี้เพิ่มเติมไหม สมัครรับจดหมายข่าว Daily Crypto ของบรรณาธิการ Harsh Notariya ได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงระยะสั้นยังคงสูงขึ้นเนื่องจาก กำหนดปลดล็อก token ของ SEIในวันที่ 15 ธันวาคม ประมาณ 55.56 ล้าน SEI หรือประมาณ 1.08% ของอุปทานหมุนเวียนจะเข้าสู่ตลาด ซึ่งการปลดล็อก token มักทำให้แรงขายระยะสั้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อภาพรวมของตลาดยังมีความระมัดระวัง
ระดับสำคัญกำหนดสถานการณ์ไว้อย่างชัดเจน หากราคาทะลุขึ้นเหนือ 0.159 USD ได้อย่างมั่นคง จะส่งสัญญาณว่าผู้ซื้อสามารถรองรับอุปทานที่ปลดล็อกแล้วและอาจเปิดทางให้ดีดตัวไปยังโซนแนวต้านถัดไป เช่น 0.193 USD หรือสูงกว่านั้น
Sponsored Sponsoredขณะที่ฝั่งขาลง หากราคาหลุดลงมาประมาณ 3% จากระดับปัจจุบัน ไปที่ 0.120 USD ก็เสี่ยงต่อการพลิกกลับลงไปสู่เส้นแนวโน้มล่าง ซึ่งจะทำให้แนวโน้ม bullish divergence อ่อนกำลังลง
Bittensor (TAO)
การเคลื่อนไหวของราคา Bittensor ได้ถูกบีบให้อยู่ในกรอบแคบ ก่อนการ halving ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นจุดตัดสินใจที่สำคัญ TAO มีการซื้อขายอยู่ในรูปสามเหลี่ยมสมมาตรบนกราฟรายวัน สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย หลังจากที่เกิดแรงกดดันขาลงหลายสัปดาห์ ซึ่งการแย่งชิงระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขายลักษณะนี้ ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งใน altcoins ที่น่าจับตามองมากที่สุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนธันวาคม
TAO ลดลงประมาณ 15.5% ตลอดเดือนที่ผ่านมา และราว 6.6% ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา โดยจุดอ่อนในระยะสั้นยังคงมีอยู่ แต่ความผันผวนได้ลดลง ซึ่งมักเกิดขึ้นก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหวแรงขึ้น โครงสร้างนี้จึงสะท้อนถึงความไม่แน่ใจ มากกว่าการควบคุมตลาดโดยฝั่งขาลงแบบชัดเจน
Halving ถือเป็นปัจจัยหลักของพื้นหลัง เพราะ halving ของ Bittensor จะลดการปล่อยเหรียญใหม่ลง ทำให้จำนวนเหรียญใหม่เข้าสู่ระบบน้อยลง แม้ประวัติศาสตร์จะไม่รับรองว่าจะเกิดขาขึ้นในทันที แต่เหตุการณ์เหล่านี้มักจะเป็นปัจจัยกระตุ้นเมื่อราคาถูกบีบตัวอยู่แล้ว
Sponsoredในมุมมองเทคนิค จุดกระตุ้นขาขึ้นแรกจะอยู่แถว USD 301 หากราคาปิดรายวันเหนือระดับนี้ได้ จะเป็นการเบรคเส้นแนวโน้มด้านบนของสามเหลี่ยม และยืนยันความแข็งแกร่งรอบใหม่ โดยการเคลื่อนไหวนี้จะเปิดทางไปสู่เป้าหมายที่ USD 321 และตามด้วย USD 396 หากโมเมนตัมเพิ่มขึ้นพร้อมกับเงื่อนไขจากตลาดโดยรวม
ความเสี่ยงขาลงยังคงอยู่ โดย USD 277 ถือเป็นแนวรับที่สำคัญ หากราคาร่วงต่ำกว่าจุดนี้ โครงสร้างจะอ่อนแอลงและทำให้ราคาไปสู่ USD 255 และในกรณีที่ความเชื่อมั่นแย่ลง อาจลงไปถึง USD 199 ซึ่งเป็นโซนอันตรายมากขึ้น
Aster (ASTER)
Aster โดดเด่นขึ้นมาเป็นหนึ่งใน altcoins ที่น่าจับตามองในสัปดาห์ที่สามของเดือนธันวาคม เนื่องจากมีการแย่งชิงกันอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มวาฬกับตลาดโดยรวม
Sponsored Sponsoredข้อมูลบนบล็อกเชนแสดงให้เห็นว่ามีการสะสมเหรียญโดยวาฬอย่างหนักช่วงก่อนเข้าสัปดาห์นี้ ตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมา จำนวน ASTER ที่ถือครองโดยวาฬเพิ่มขึ้นราว 42.7 ล้านเหรียญ ขยับจากประมาณ 39.85 ล้านไปเป็น 82.54 ล้าน ASTER ซึ่งเพิ่มขึ้น 107% แสดงถึงความเชื่อมั่นแรงกล้าของผู้ถือรายใหญ่ ก่อนเข้าสู่สัปดาห์ที่สามของเดือนธันวาคม
ในขณะเดียวกัน กระดานแลกเปลี่ยนกลับแสดงข้อมูลที่แตกต่างออกไป เนื่องจากยอดคงเหลือของกระดานแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 10.48% ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการขายจากฝั่งรายย่อย แม้ว่าวาฬจะยังเข้าซื้อเพิ่ม
ในแผนภูมิเองก็เห็นความขัดแย้งระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายนี้เช่นกัน ASTER ได้มีการปรับฐาน ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน แต่ตอนนี้ราคากำลังเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยมซึ่งสะท้อนถึงความลังเลใจ ในช่วงนี้เองมีสัญญาณ Hidden bullish divergence เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน ถึง 14 ธันวาคม ราคาทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ขณะที่ดัชนี Relative Strength Index (RSI) กลับทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลง ซึ่งมักบ่งชี้ว่าความกดดันจากฝั่งขายเริ่มอ่อนตัวลง
มักเกี่ยวข้องกับการดีดตัวของราคา ถ้ารูปแบบนี้เกิดขึ้นจริง ระดับแรกที่ควรจับตาคือ 0.94 USD โดยหากปิดแท่งรายวันเหนือระดับนี้ได้ จะทำให้ราคาทะลุแนวต้านของสามเหลี่ยมและเปิดทางไปสู่ 0.98 USD และอาจตามมาด้วยการปรับขึ้นอีก 16% สู่ 1.08 USD หากแรงโมเมนตัมและการสนับสนุนจากวาฬยังคงดำเนินต่อไป
หากราคาหลุด 0.88 USD ลงไป จะทำให้ bullish divergence นี้ใช้ไม่ได้และราคาจะลงสู่ระดับ 0.81 USD ซึ่งจะทำให้แรงขายกลับมาคุมตลาดอีกครั้ง