ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา Milei ช่วยโทเคนหลอกลวงอีกตัวก่อน LIBRA ได้อย่างไร

คณะกรรมาธิการของรัฐสภาอาร์เจนตินาที่กำลังสอบสวนประธานาธิบดี Javier Milei เปิดเผยพยานหลักฐานใหม่. หลักฐานชี้ว่า ก่อนเรื่องอื้อฉาว LIBRA สองเดือน Milei ได้ร่วมในแผนการที่แทบเหมือนกันแล้ว

ขณะเดียวกัน ผู้โปรโมตกลุ่มเดียวกันที่ร่วมงานกับ Milei ใน LIBRA เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก็มีส่วนในกางเปิดตัว KIP ก่อนหน้านั้นเช่นกัน

แผนการก่อนหน้านี้ปรากฏ

ทั้งนี้ ระยะล่าสุดของการสอบสวนคดี LIBRA พบว่า Milei เคยเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวโทเคนอีกตัว ซึ่งเชื่อมโยงกับบุคคลที่ หน่วยงานของอาร์เจนตินากำลังตรวจสอบอยู่แล้ว

ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่บัวโนสไอเรส Maximiliano Ferraro ประธานคณะกรรมการสอบสวน ระบุถึงการเปิดตัวโทเคน KIP ในเดือนธันวาคม. การเปิดตัวดังกล่าวขับเคลื่อนโดย Julian Peh ผู้ก่อตั้ง KIP Protocol

เขาเน้นย้ำบทบาทของ นักลงทุน Mauricio Novelli และ Manuel Terrones Godoy ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในทั้งสองปฏิบัติการ

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยังยืนยันว่า ข้อมูล จากกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ เปิดเผยเส้นทางการเงินโดยตรง ที่เชื่อมโยงบุคคลกลุ่มเดียวกันกับการเปิดตัว KIP ก่อนหน้านั้น

การสอบสวนระบุพบกระเป๋าบนกระดานเทรด Gate.io ซึ่งเป็นของ Terrones Godoy โดยมีการโอน 59,992 USDT ไปยังบัญชีของ Novelli ที่ก่อนหน้านี้เชื่อมโยงกับการหลอกลวง $LIBRA. คืนเดียวกันนั้น วันที่ December 10, 2024 [Terrones] Godoy ได้โอนเงินเพิ่มเติมจากบัญชีดังกล่าว รวมกว่า 92,000 USDT แถลงข่าวที่ BeInCrypto เข้าถึงเป็นสำนักแรก ระบุไว้เช่นนี้

ขณะเดียวกัน Ferraro ยังชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงอันแน่นแฟ้นที่ Novelli, Terrones Godoy, Peh และ Milei รักษาไว้ตลอดปีที่ผ่านมา

พบความเชื่อมโยงไปถึงฟอรัมเทคโนโลยี

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเมืองบัวโนสไอเรสให้การสนับสนุนจัด Argentina Tech Forum. ในงานนี้ Peh และ Milei ได้ขึ้นเวทีบรรยายเดี่ยวต่อหน้าข้าราชการและที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี

ที่นั่น Peh สามารถสร้างการติดต่อกับ Milei และ Karina Milei ซึ่งเป็นพี่สาวของ Milei

การสนับสนุนเชิงสถาบันนี้ ทำให้ KIP Protocol ของ Peh มีความน่าเชื่อถือเพียงพอสำหรับการเปิดตัวโทเคน KIP ในเดือนธันวาคม. โทเคนดังกล่าวเปิดตัวภายใต้สัญญากับ Gate.io และต่อมาถูกลิสต์บน KuCoin และ MEXC

ปฏิบัติการดังกล่าวใช้ รูปแบบปั๊มแล้วเทขายแบบเดียวกัน ที่ภายหลังเกิดกับ LIBRA พวกเขาเปิดตัวโทเค็นที่ไร้ประโยชน์จริง อาศัยกระแสการเมืองดันราคา แล้วเทขายตอนจุดสูงสุดเพื่อกอบโกยกำไรมหาศาล

ตามข้อมูลที่แพลตฟอร์มให้มา ผู้สอบสวนตรวจพบว่า Terrones Godoy และ Novelli ต่างก็ซื้อโทเค็น KIP ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้น จากนั้นพวกเขาขายทำกำไร 600,000 USD ภายในวันเดียว

ขณะเดียวกัน Ferraro ยังยืนยันการเคลื่อนไหวของเงินระหว่าง Novelli กับ Terrones Godoy ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

แถลงข่าวของคณะกรรมการระบุว่า กระเป๋าของ Terrones Godoy ได้รับโทเค็น KIP 6,750,000 โทเค็น (โดยไม่ได้จ่ายเงิน) แล้วเริ่มขายทันที ไม่กี่ชั่วโมงหลังเริ่มการเทขาย Terrones Godoy โพสต์ทวีตโปรโมต KIP โดยรวม บัญชีดังกล่าวทำธุรกรรมมากกว่า 400 รายการ และถอนมากกว่า 152,700 USDT ในเวลาเพียง 15 นาทีคืนนั้น ซึ่งรวมถึงเงินที่ส่งไปให้ Novelli

นอกจากนี้ Milei ยังใช้การเปิดตัว KIP เป็นสนามทดสอบ ปูทางไปสู่เหตุการณ์ที่ต่อมาจะเกิดขึ้นในลักษณะคล้ายกันมากกับ การเปิดตัว LIBRA ใน February

โครงการนำร่อง KIP เพื่อทดสอบก่อนเปิดตัว LIBRA

สองวันก่อนการเปิดตัว KIP Milei แชร์โพสต์ของ Peh บนโซเชียลมีเดีย ประกาศว่า KIP Protocol ตัดสินใจเข้าลงทุนในประเทศอาร์เจนตินา

Martín Romeo โจทก์ในคดีอาญาต่อ Milei อ้างว่าปฏิบัติการนี้เป็นการทดสอบ เพื่อวัดว่าการรับรองจากประธานาธิบดีจะมีผลต่อราคาของ memecoin อย่างไร

ผลเกิดขึ้นทันที เมื่อ KIP เปิดตัว ราคาพุ่งทะยาน และ Novelli กับ Terrones Godoy ขาย KIP ที่ตนถืออยู่

Romeo กล่าวในโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า ทุกสิ่งที่เราเห็นวันนี้กับ LIBRA เริ่มจาก KIP เป็นการฉ้อโกงระดับนำร่อง ที่อีกไม่กี่เดือนต่อมาถูกทำซ้ำ พร้อมแรงหนุนทางการเมือง และเงินของนักลงทุนที่สูญหายหลายล้าน USD เขาเสริมว่า ทุกอย่างมีหลักฐาน ทั้งหมดเริ่มต้นที่งาน Tech Forum ที่ Libertador Hotel

นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Peh ปรากฏขึ้นระหว่างการประชุมสภาในวันอังคาร

หลักฐานการฉ้อโกงตัวตนและขั้นตอนถัดไป

Ferraro และสมาชิกคณะกรรมการคนอื่นๆ รื้อฟื้นข้อค้นพบก่อนหน้า ว่า Julian Peh ผู้ก่อตั้ง KIP Protocol ใช้ตัวตนปลอมในการดำเนินการ

พวกเขายืนยันว่าชื่อจริงของเขาคือ Peh Chnyi Haur เป็นพลเมืองสิงคโปร์ที่ใช้นามแฝงเพื่อเข้าร่วมงาน Tech Forum ในเดือน October ภายใต้นามนี้ Peh ยังพบ Milei แบบส่วนตัว เข้าร่วมการประชุมทางการ เผยแพร่ข้อตกลงของรัฐบาลที่กล่าวอ้าง และลงนามเอกสาร

เมื่อศาลขอข้อมูลจาก Interpol สิงคโปร์ ก็พบว่าไม่มีบันทึกใดภายใต้นามแฝงของเขา.

นอกจากนี้ Ferraro ยังเปิดเผยขั้นตอนต่อไปที่คณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสจะดำเนินการเพื่อสอบสวนด้วย. ทั้งนี้ การขอข้อมูลเพิ่มเติมจากแพลตฟอร์มต่างๆ ถือเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญสูงสุด.

ข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า คณะกรรมาธิการได้ร้องขอให้ Gate.io ระบุตัวตนเจ้าของหนึ่งในบัญชีรับเงิน ซึ่งได้โอน 120,000 USDT ในช่วงเช้าตรู่ขณะมีการดำเนินการหลอกลวง $LIBRA

เขาเสริมว่า หมายเรียกของสภาคองเกรสสำหรับสมาชิกครอบครัวของ Novelli จะถูกออกใหม่. ทั้งนี้ การออกใหม่เกี่ยวข้องกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดง Novelli แม่ของเขา และน้องสาว จัดการตู้เซฟนิรภัย ก่อนและหลังการเปิดตัวโทเค็น.

ขณะเดียวกัน Ferraro ให้คำมั่นว่าจะส่งมอบพยานหลักฐานทั้งหมดที่คณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสรวบรวมไว้ ให้กับศาลที่ดูแลการสอบสวนคดีอาญาคู่ขนาน.