จากการที่ Binance ต้องประสบปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีการสืบสวนครั้งใหม่เกิดขึ้นซีอีโอ Changpeng Zhao (CZ) ได้โต้กลับนักวิจารณ์ที่อ้างว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นของ “จีน“
ในโพสต์บล็อกของ Binance CZ ระบุว่าตอนนี้ทีมผู้บริหารถูกครอบงําโดยชาวยุโรปและชาวอเมริกันเป็นหลัก ในขณะที่พนักงานในวงกว้างกระจายอยู่ทั่วโลกมากขึ้น
CZ กล่าวเสริมว่า “การอนุมานเช่นนี้เป็นเพราะเรามีพนักงานชาวจีนเชื้อสายจีนเยอะ และอาจเป็นเพราะผมเป็นคนจีนตามชาติพันธุ์ นั่นเลยเป็นสาเหตุที่เราแอบอยู่ในกระเป๋าของรัฐบาลจีน”
“เราเป็นเป้าหมายที่สังเกตเห็นได้ง่ายสําหรับประเด็นพิเศษ สื่อ และแม้แต่ผู้กําหนดนโยบายที่เกลียดชังอุตสาหกรรมของเรา” ซีอีโอรายนี้กล่าวอ้าง
หัวเรือ Binance ชี้นิ้วไปยังคู่แข่ง
ในฐานะแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวัดจากปริมาณการซื้อขาย Binance มีประวัติการถูกให้หยุดให้บริการโดยหน่วยงานกํากับดูแลทั่วโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางแพลตฟอร์มถูกขอให้จัดทําข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบการฟอกเงินและการสนทนาระหว่างบุคคลสําคัญภายในบริษัท รวมถึงของ Zhao โดยอัยการของรัฐบาลกลางที่ทํางานให้กับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา
เมื่อพูดถึงข้อสันนิษฐานประการเกี่ยวกับ Binance ทาง CZ ยังบอกใบ้ถึง “แคมเปญเก่า” เพื่อทําให้แบรนด์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของโดยคู่แข่งผ่านไมโครไซต์ที่ไม่สามารถระบุชื่อได้
เมื่อมองย้อนกลับไปในวัยเด็กของเขา CZ กล่าวว่า” การประชดเรื่องผมถูกบังคับให้ออกจากประเทศจีนอีกครั้ง ประมาณ 30 ปีหลังจากที่พ่อแม่ของผมหนีไปกับน้องสาวของผมและผมเอง – เรื่องนี้มันไม่ได้หายไปกับผมด้วย”
“ซีอีโอชาวแคนาดาเชื้อสายจีน” รายนี้กล่าวว่า “แค่มีเชื้อสายจีนหรืออพยพมาจากจีนก็ไม่ควรต้องเป็นเป้าโจมตีไปตลอดชีวิต และไม่ควรให้ประชาชนมีอิสระในการต่อว่าผู้คนโดยไร้มูล หรือตั้งคําถามถึงความจงรักภักดีต่อประเทศของตน”
Zhao ให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ถูกจัดตั้งขึ้นในฮ่องกง
Zhao กลับมาจากแคนาดาสู่ประเทศจีนในปี 2005 เมื่อ “อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเริ่มเติบโต” ในประเทศจีน เขายังเปิดเผยด้วยว่าเนื่องจากรัฐบาลจีน “ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตซึ่งอยู่ในขั้นเริ่มต้น” อันอยู่เบื้องหลังโครงการดังกล่าว บริษัทอื่น ๆ อีกมากมายจึงจดทะเบียนครั้งแรกในประเทศจีนโดยมี “วิศวกรและนักลงทุนที่เก่งที่สุดอันมีความสนใจใคร่รู้ในเรื่อง Web3 โดยพวกเขาต่างแห่กันไปที่เซี่ยงไฮ้และฮ่องกง”
เขาให้เหตุผลว่าแม้แต่ FTX และ Crypto.com ก็ถูกจัดตั้งขึ้นในฮ่องกงในช่วงเวลานี้
อย่างไรก็ตาม “Binance ไม่เคยจดทะเบียนในประเทศจีน เราไม่ได้ดําเนินการเหมือนบริษัทจีนในเชิงวัฒนธรรมองค์กร เรามีบริษัทย่อยในหลายประเทศ รวมถึงฝรั่งเศส สเปน อิตาลี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรน (และอื่น ๆ ) แต่เราไม่มีนิติบุคคลใด ๆ ในประเทศจีนและเราไม่มีแผนที่จะทําเช่นนี้” CZ อธิบาย
ในเดือนกรกฎาคม 2022 Zhao แจ้งเตือนประชาชนถึงการทิ้งข้อมูลขนานใหญ่อันเกี่ยวข้องกับพลเมืองจีนหนึ่งพันล้านคนที่ถูกวางขายบนด้านมืดอินเทอร์เน็ต
กวงหยิง เฉินไม่ได้เป็นเจ้าของ Binance หรือรายงานต่อรัฐบาลจีน
เขายังกล่าวถึงทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับกวงหยิง (เหยนา) เฉิน ผู้เป็นเจ้าของ Binance เขากล่าวว่า “เนื่องจากเธอมีชื่ออยู่ในเอกสาร Bijie Tech ยุคแรก ๆ ผู้ว่าการของ Binance จึงหันไปหาโอกาสที่จะเผยแพร่ข้อสันนิษฐานว่า Guangying แอบเป็นเจ้าของ Bijie Tech ซึ่งที่จริงแล้วอาจเป็น Binance”
ถึงอย่างนั้น CZ ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนต่อ “ผู้คัดค้านในโลกตะวันตก” ว่าไม่สามารถให้คำอธิบายเกี่ยวกับ “บริษัทจีน” ได้ และเฉินไม่สามารถถูกเลือกให้เป็นเจ้าของ Binance หรือตัวแทนแอบแฝงของรัฐบาลจีนได้
แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์และการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง แต่ในเดือนนี้ Binance ยังได้รับใบอนุญาตการทำงานในหลักการ (IPA) จากหน่วยงานทางการเงินของเมืองหลวงของคาซัคสถานในขณะที่ยังคงลุยเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลางและยุโรป
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ