Bitcoin ร่วงลง เกือบ 9% หลังจากพุ่งขึ้น 40,000 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ทันทีหลังจาก FED ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงอย่างมากใน Wall Street
ราคา Bitcoin ร่วงลง เช่นเดียวกับตลาดหุ้น
Bitcoin ซึ่งเป็น Crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าตลาด ลดลงเกือบ 9% โดยราคา ณ ขณะรายงานอยู่ที่ 36,357 ดอลลาร์ หลังพุ่งแตะระดับ 40,000 ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการลดลงที่ใหญ่ที่สุดในรอบสองเดือน
ความวุ่นวายในตลาด Crypto ยังคงสอดคล้องกับตลาดหุ้น ซึ่งดัชนีหลักในนิวยอร์กได้เห็น S&P 500 พุ่งขึ้นสูงสุดในหนึ่งวันในรอบ 2 ปี แต่ในช่วงเวลาเดียวกันกับราคา Bitcoin ดัชนีหลักที่กำลังเผชิญกับช่วงการซื้อขายที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020
ข้อมูลของ Bloomberg ระบุว่า 97% ของบริษัทที่ติดตามโดยดัชนีนี้กำลังอยู่ในโซนสีแดง เช่นเดียวกับตลาด Crypto ที่กำลังเผชิญกับแรงเทขายที่ลดลง 7.38%
สาเหตุของความวุ่นวายของตลาดโลก
ธนาคารกลางทั่วโลกพยายามดิ้นรนเพื่อควบคุมระดับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อปีนี้อาจจะเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 10% โดยนักวิเคราะห์ในประเทศเศรษฐกิจหลักต่างกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเกิดภาวะถดถอย
ตลาดเริ่มคลายความกังวลเมื่อเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ยืนยันว่ายังไม่มีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าอาจมีการเพิ่มขึ้นอีกครึ่งเปอร์เซ็นต์ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมนี้
ถึงแม้ว่าการประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.5% ไม่ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นมากนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเกรงว่าภาวะเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ช่วงเลวร้ายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งอาจบังคับให้นักเศรษฐศาสตร์ของ FED ประเมินแนวทางใหม่ในเชิงรุกมากขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ