Bitcoin ซื้อขายที่มูลค่าแห่งศรัทธา: ทำไม USD 81,500 ถึงสำคัญตอนนี้

Bitcoin กำลังเคลื่อนไหวใกล้ระดับที่สำคัญมากกว่าราคาพาดหัวข่าว นักวิเคราะห์ต่างชี้ให้ความสนใจกับโซนที่เป็นตัวแทนของ True Market Mean Price (TMMP) หรือราคาซื้อเฉลี่ยบนเชนของนักลงทุนที่ไม่ใช่นักขุด

ตามข้อมูลของ CryptoQuant ระดับนี้ได้กลายเป็นเส้นแบ่งทางจิตวิทยาและโครงสร้าง ซึ่งมันทดสอบว่าความเชื่อมั่นจะเข้มแข็งพอที่จะดูดซับอุปทาน หรือความเชื่อจะเริ่มแตกร้าวหรือไม่

Bitcoin ซื้อขายที่ราคาแห่งความเชื่อ ขณะ USD 81,500 ทดสอบความมั่นใจตลาด

ตัวชี้วัดบนเชนบ่งชี้ถึงแรงกดดันกลางวัฏจักร แนวต้านทางเทคนิคยังคงจำกัดโอกาสปรับตัวขึ้น และขณะนี้นักวิเคราะห์กำลังแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิดสมดุลที่เปราะบางระหว่าง:

• ผู้ถือระยะยาวที่ปกป้องต้นทุน และ
• ผู้ขายที่พร้อมมากขึ้นที่จะออกจากตลาดเมื่อเท่าทุน

ในสถานการณ์นี้ TMMP จึงกลายเป็นเส้นแบ่งสำคัญสำหรับ Bitcoin เพราะ TMMP ไม่ใช่แค่ตัวชี้วัดเชิงเทคนิค แต่ยังทำหน้าที่เป็นจุดยึดจิตวิทยาร่วมกัน โดยเป็นค่าเฉลี่ยราคาที่ผู้ถือเข้าสู่ตลาดครั้งแรก

เมื่อ Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ระดับนี้ นักลงทุนต้องเลือกว่าจะถือผ่านความไม่แน่นอน หรือขายที่จุดเท่าทุน ซึ่งจุดตัดสินใจนี้จะเพิ่มแรงกดดันให้ตลาด และมักจะเป็นตัวกำหนดทิศทางสำคัญถัดไป

Moreno นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant เน้นย้ำว่า USD 81,500 เป็น TMMP ซึ่งเป็นราคาที่การลงทุนจริงส่วนใหญ่ได้เข้าสู่ตลาด

ในอดีต การที่ Bitcoin เทรดเหนือระดับนี้จะกระตุ้นให้เกิดการซื้อเก็บและสะสม แต่หากหลุดระดับนี้ มักจะทำให้โซนเดียวกันกลายเป็นแนวต้านเมื่อนักลงทุนต้องการขายใกล้ต้นทุนเฉลี่ย ซึ่งสถานการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง

เมื่อ BTC เทรดเหนือระดับดังกล่าว นักลงทุนส่วนใหญ่จะรู้สึกสบายใจ แต่ถ้าราคาหลุดลงมา ระดับเดิมก็มักจะกลายเป็นแนวต้าน เพราะผู้ที่ซื้อใกล้ต้นทุนเฉลี่ยจะใช้จังหวะรีบาวน์เพื่อตัดขาดทุนออกไป Moreno อธิบาย

การทดสอบที่ใกล้ USD 81,500 ในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนต้องตัดสินใจว่าจะถือผ่านความไม่แน่นอนหรือขายที่จุดเท่าทุน

วัฏจักรก่อนหน้าได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของโซนนี้ โดยในตลาดกระทิงปี 2020–2021 TMMP คอยเป็นแนวรับอยู่หลายครั้ง แต่ในปี 2022 กลายเป็นแนวต้านเมื่อตลาดขาดความเชื่อมั่น ดังนั้นบทบาทต่อไปของ TMMP อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางระยะสั้นของ Bitcoin ก็เป็นได้

อัตราส่วน AVIV ชี้ภาวะตึงเครียมความเชื่อมั่นเงียบ

เมื่อเสริมชั้นของพฤติกรรมเข้าไป ยังมีอัตราส่วน AVIV ซึ่งเป็นตัวชี้วัดบนบล็อกเชนที่เปรียบเทียบมูลค่าตลาดที่กำลังเคลื่อนไหวกับมูลค่าที่รับรู้ โดยเน้นเรื่องความสามารถในการทำกำไรของนักลงทุน แตกต่างจากตัวบ่งชี้โมเมนตัม เพราะ AVIV สะท้อนถึงความรู้สึกที่ตั้งอยู่บนกำไรจริง

ขณะนี้ ค่า AVIV กำลังบีบตัวเข้าสู่ช่วง 0.8–0.9 ซึ่งในอดีตนั้นสัมพันธ์กับช่วงเปลี่ยนผ่านกลางรอบ เป็นช่วงเวลาที่ตลาดไม่ได้ร่วง แต่ก็ไม่สามารถสร้างแนวโน้มที่ชัดเจนได้

หาก Bitcoin ยืนเหนือ TMMP (USD 81,500) ได้ ในขณะที่ AVIV มีเสถียรภาพอยู่ในช่วง 0.8–0.9 นั่นหมายความว่านักลงทุนกำลังดูดซับอุปทานและป้องกันต้นทุนของตนไว้ แต่หากราคาต่ำกว่า TMMP และ AVIV ยังคงบีบตัวต่อ ก็หมายถึงความสามารถทำกำไรเริ่มจางลง ความมั่นใจเริ่มอ่อนแอ นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant กล่าวเสริม

บรรยากาศแบบนี้มักกดดันกลุ่มนักลงทุนมืออ่อน ไม่ใช่ด้วยการปรับฐานแบบรุนแรง แต่ผ่านการชะงักงันเป็นเวลานาน

เมื่อกำไรที่ยังไม่ได้รับรู้ค่อย ๆ ลดลง ความเชื่อมั่นก็ถูกทดสอบอย่างเงียบ ๆ ซึ่งเตรียมเวทีสำหรับการสะสมรอบใหม่ หรือการค้นหาความต้องการที่ลึกขึ้น

แนวต้านทางเทคนิคซ้ำเติมภาวะชะงักงันตลาด ขณะที่ความกังวลมหภาคเพิ่มความขัดแย้ง

ในขณะเดียวกัน ราคาของ Bitcoin ก็ยังไม่ได้ช่วยบรรเทาความกังวลมากนัก เพราะ Bitcoin ล้มเหลวหลายครั้งในการขึ้นไปเหนือจุดเปิดของปีนี้ ทำให้เทรดเดอร์สายโมเมนตัมและกลุ่มเทคนิคยังลังเลกันอยู่

ความล้มเหลวในการกลับมายังระดับนี้ก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่าฝั่งขาขึ้นยังถูกจำกัดไว้ในช่วงนี้อยู่

ความชะงักงันทางเทคนิคแบบนี้สะท้อนความแตกแยกในเชิงความคิดที่กว้างกว่า โดยนักลงทุนรุ่นเก๋า ซึ่งหลายคนยังได้รับอิทธิพลจากจุดสูงสุดปี 2021 และการปรับฐานครั้งใหญ่ถึง 70% ดูเหมือนจะไวต่อสัญญาณทางเทคนิคและโมเดลตามรอบมากขึ้นเรื่อย ๆ

เพราะเหตุใด Bitcoin จึงไม่ดีดตัวขึ้น? เนื่องจาก 50% กำลังขาย (กลุ่ม OGs ที่ยังฝังใจกับปี 2021, นักลงทุนเชิงเทคนิคที่ดู RSI, แฟนๆ วงจร 4 ปีที่คาดหวังตลาดหมี 2 ปีหลัง halving) ขณะที่อีก 50% ก็กำลังซื้อ (นักลงทุนเชิงปัจจัย, TradFi, ธนาคาร) การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่… จนกว่าฝ่ายขายจะหมดแรงกระสุน, นักวิเคราะห์ PlanB เขียนไว้

ในทางตรงกันข้าม ผู้เล่นสถาบันและผู้เข้าร่วมในภาคการเงินแบบดั้งเดิม ดูเหมือนไม่ค่อยกังวลกับวงจรระยะสั้นเท่าไร ด้วยการสะสมสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องของพวกเขาช่วยดูดซับปริมาณ supply ได้ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะดันตลาดให้หลุดออกจากกรอบราคาเดิม

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อ Luke Gromen นักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคเพิ่งเปิดเผยว่าเขาขาย Bitcoin ส่วนใหญ่ของเขาใกล้ระดับ USD95,000 โดย Gromen ให้เหตุผลว่ามีสัญญาณเชิงเทคนิคระยะยาวที่อ่อนแอ รวมถึงความกังวลด้านระบบโดยรวม

การตัดสินใจนี้ ซึ่งแชร์ผ่านพอดคาสต์ No Second Best ของ Swan Bitcoin ทำให้แนวโน้มตลาดขาลงเข้มข้นขึ้น ในช่วงที่ความสามารถทำกำไรของนักลงทุนก็ถูกกดดันอยู่แล้ว

Gromen ชี้ไปที่แนวโน้มโมเมนตัมระยะยาวที่อ่อนตัวลง, Bitcoin ที่ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่เทียบทองคำได้ อีกทั้งยังมีความกังวลต่อความเปราะบางในตลาดภาพรวมที่อาจรุนแรงขึ้นเมื่อเข้าใกล้ปี 2026

แม้พิธีกรรายการ Swan จะโต้แย้งข้อสรุปของเขา แต่การขายนี้ก็ทำให้ทั้งนักลงทุนต่างรู้สึกสะท้อนใจ โดยทุกคนกำลังจับตาดูความเชื่อมั่นที่เริ่มสั่นคลอนใกล้จุดรับสำคัญ

การถอนตัวของบุคคลสำคัญ มักส่งผลทางจิตวิทยาอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงราคาบีบตัว และเมื่อสัญญาณในบล็อกเชนชี้ว่าโอกาสทำกำไรเริ่มลดลงเรื่อยๆ

ความเชื่อจะคงอยู่ไหม

ขณะนี้ Bitcoin อยู่ตรงทางแยกที่แรงขับเคลื่อนอาศัยความมุ่งมั่นมากกว่ากระแส hype หากราคายืนเหนือ USD81,500 โดยมี AVIV ratio ที่เสถียร ก็จะแปลว่านักลงทุนยังพร้อมปกป้องต้นทุนของตนเอง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการสานต่อเทรนด์

แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็อาจเกิดความเสียหายรุนแรง การร่วงหลุด TMMP อย่างชัดเจน พร้อม AVIV ที่บีบตัวต่อ จะบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียวไม่พออีกต่อไป แล้วเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะบีบให้ตลาดต้องไปค้นหาความต้องการในระดับราคาที่ต่ำกว่า