วาฬ Bitcoin รายใหม่ครอง 45% ของมูลค่าที่รับรู้ของ BTC — ทำไมจึงเป็นปัญหา

วาฬบิตคอยน์เจเนอเรชันใหม่ครองสัดส่วน 45% ของมูลค่า Realized Cap ของวาฬรวม บ่งชี้การเปลี่ยนแปลงอำนาจนำในตลาดอย่างชัดเจน

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรวาฬนี้อาจกระทบจิตวิทยาตลาดและเพิ่มแรงขาย ขณะเดียวกัน กลุ่มวาฬรุ่นเก่ายังมีกำไรที่ยังไม่รับรู้เป็นบวก แม้พวกเขากระจายบิตคอยน์ให้กับนักลงทุนรายใหม่

การเปลี่ยนรุ่นในความครอบงำของวาฬ Bitcoin

ตลาดบิตคอยน์กำลังเผชิญการเปลี่ยนผ่านระหว่างรุ่นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มผู้ถือรายใหญ่ที่สุด โดยวาฬหน้าใหม่ ซึ่งคือนักลงทุนที่สะสมมากกว่า 1000 BTC ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันคิดเป็นราว 45% ของมูลค่า Realized Cap ของวาฬ

Realized Cap หมายถึงมูลค่ารวมของบิตคอยน์ทั้งหมด อ้างอิงราคาที่ coin แต่ละ coin เคลื่อนย้ายบนเชนครั้งล่าสุด ส่วน Whale Realized Cap สะท้อนเงินทุนรวมที่ผู้ถือรายใหญ่ลงทุนไว้

สัดส่วนวาฬหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนกระแสเงินทุนไหลเข้าใหม่ และการเปลี่ยนมือการควบคุมตลาดในหมู่ผู้เล่นบิตคอยน์รายใหญ่

ตรงกันข้าม กลุ่มวาฬรุ่นเก่าค่อยๆ ลดการถือครองลง เมื่อผู้ถือรุ่นเก่าขายให้กับนักลงทุนรุ่นใหม่ สภาวะตลาดก็เปลี่ยนไป

ข้อมูลจาก CryptoQuant ชี้ให้เห็น การเปลี่ยนแปลงนี้ว่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยเมื่อเทียบกับระดับในอดีต และแสดงให้เห็นการปรากฏตัวในตลาดที่มากขึ้นของกลุ่มนี้

นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ October 2023 ที่วาฬหน้าใหม่มีอัตรากำไรที่ยังไม่รับรู้เป็นลบ โดยตัวชี้วัดนี้เปรียบเทียบราคาตลาดปัจจุบันกับราคาเฉลี่ยที่พวกเขาซื้อ อัตราติดลบหมายความว่านักลงทุนกลุ่มนี้กำลังขาดทุนในพอร์ตบิตคอยน์ของตน

ทำไมการเปลี่ยนแปลงนี้จึงน่ากังวล

ราคา Realized ของวาฬหน้าใหม่อยู่ที่ USD112,788 ซึ่งเป็นต้นทุนเฉลี่ยของกลุ่มนี้ ทั้งนี้ ณ ขณะที่เขียน ราคาตลาดของบิตคอยน์ลดลงต่ำกว่าระดับสำคัญนี้ และกำลังซื้อขายที่ USD110,196 สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ถือกลุ่มนี้เสี่ยงขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปี

ประเด็นน่ากังวลคือ วาฬหน้าใหม่มีความเชื่อมั่นระยะยาวเท่ารุ่นก่อนหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนผ่านเช่นนี้มักเพิ่มความผันผวน

นอกจากนี้ วาฬหน้าใหม่มักมีประสบการณ์น้อย จึงมีแนวโน้มตอบสนองทางอารมณ์ในช่วงตลาดลงมากกว่า หากแนวโน้มขาลงยืดเยื้อ ก็อาจทำให้ ความผันผวนของตลาด รุนแรงขึ้น

ขณะเดียวกัน วาฬรุ่นเก่ากลับยังมีผลกำไรที่ยังไม่รับรู้เป็นบวก พวกเขาซื้อ Bitcoin ในราคาต่ำกว่า จึงทนทานต่อภาวะตลาดขาลงได้มากกว่า ส่งผลให้โปรไฟล์ความเสี่ยงระหว่างกลุ่มวาฬไม่เท่ากัน

การร่วงลงสู่ช่วง USD 110,000 มีนัยทางจิตวิทยาสำคัญ เมื่อรายใหญ่มองเห็นขาดทุน พวกเขาอาจถือต่อเพื่อรอการฟื้นตัว หรือเลือกขายเพื่อจำกัดความเสี่ยงขาลงเพิ่มเติม การตัดสินใจของกลุ่มนี้อาจขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น

พลวัตการกระจายและนัยต่อตลาด

ยิ่งไปกว่านั้น การกระจายจากวาฬเก่าไปสู่วาฬใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วง ตลาดอ่อนแอ ยิ่งสร้างความกังวลเรื่องราคาที่อาจปรับลง

เมื่อผู้ถือที่มีประสบการณ์ขายให้กับนักลงทุนที่ยังไม่มั่นคงในช่วงตลาดลง ก็อาจเร่งการปรับตัวลง รูปแบบเช่นนี้มักเกิดขึ้นก่อนการปรับฐานที่ลึกกว่า

Open Interest ซึ่งติดตามสัญญาฟิวเจอร์สที่ยังค้างอยู่ แสดงว่าความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์ลดลง หลายคนปิดสถานะของตน ส่งผลให้ ความสนใจในฟิวเจอร์ส ลดลง

Open Interest ที่ลดลงหมายถึง ความผันผวนระยะสั้น น้อยลง แต่ก็ชี้ว่ามีนักเทรดที่มั่นใจในราคาปัจจุบันลดลง

สถานการณ์ยังเปราะบาง เพราะวาฬหน้าใหม่กำลังเผชิญขาดทุน และมีนักเทรดในตลาดฟิวเจอร์สน้อยลง หากวาฬหน้าใหม่ตัดสินใจขาย การขาดทุนเพิ่มเติมอาจตามมา อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาถือมั่นไว้ ตลาดอาจกลับสู่เสถียรภาพในไม่ช้า

นักลงทุนควรติดตามเพื่อดูว่า วาฬรุ่นใหม่มีความยืนหยัดเทียบเท่าผู้ถือรุ่นก่อนหรือไม่

การตัดสินใจของวาฬเหล่านี้ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจกำหนด ทิศทางระยะใกล้ของ Bitcoin ขณะที่การกระจายยังดำเนินต่อไป และราคาเข้าทดสอบระดับแนวรับสำคัญ