ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand – BOT) กล่าวว่าจะเริ่มทดสอบ CBDC ใน Retail Capacity ในปลายปีนี้ โดยมีแผนที่จะทดสอบการใช้งาน CBDC สำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการโดยบัญชีผู้ใช้งานที่เป็นร้านค้าปลีก 10,000 รายและบริษัทสามแห่ง
ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่าจะเริ่มทดสอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ในปลายปีนี้ โดยได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ออกไปว่าการทดสอบครั้งนี้นี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงกลางปี 2023 ทั้งทางธนาคารฯ ยัง “ตระหนักถึงความสําคัญของ CBDC ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบใหม่”
ด้วยเหตุนี้ ธนาคารฯ จึงเห็นว่าจําเป็นต้องขยายขอบเขตของการทดลอง CBDC ไปสู่ระยะนําร่อง “ซึ่งจะมีการทดลองใช้ CBDC กับร้านค้าปลีกจริง ๆ และบริษัทจากภาคเอกชนภายในขอบเขตที่จํากัด” ทั้งนี้ นี่ถือเป็นก้าวสําคัญในแง่ของการใช้งาน ทั้งยังเป็นสัญญาณว่าประเทศไทยมีความกระตือรือร้นที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีประเภทนี้
โครงการนำร่องนี้จะมุ่งเน้นไปที่วัตถุประสงค์หลักสองประการ ซึ่งธนาคารเรียกว่า “Foundation Track” และ “Innovation Track” โดยแทรคแรกจะเน้นไปที่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเทคโนโลยีที่รองรับ CBDC ธุรกรรมต่าง ๆ ที่จะอยู่ภายใต้หมวดนี้คือค่าใช้จ่ายสำหรับสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นกับร้านค้าปลีก 10,000 แห่งและบริษัทเอกชนอีกสามแห่ง
Innovation Track มุ่งเน้นไปที่ความสามารถของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวรด์ในการเปลี่ยนแปลงหรือตอบรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น “ซึ่งจะอํานวยความสะดวกในการพัฒนากรณีศึกษาเพื่อใช้พัฒนานวัตกรรมทางการเงินแบบใหม่สําหรับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม” ทั้งภาครัฐและเอกชนจะสามารถเข้าร่วมการแฮ็กกาธอนครั้งนี้ได้โดยผู้เข้าร่วมและทีมที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับคำปรึกษา
ประเทศไทยกําลังเตรียมตัวพร้อมรับคริปโต
ประเทศไทยมีจุดยืนที่ค่อนข้างหวั่นไหวต่อประเด็น Cryptocurrency กล่าวคือ ในเดือนเมษายน 2022 มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่ที่ทำให้ตลาดคริปโตหยุดชะงักในประเทศไทย กฎระเบียบที่รัดกุมมากขึ้นยังทําให้ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยหยุดชะงักการตัดสินใจซื้อแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่เร่งดําเนินการใช้งาน CBDC ผู้อำนวยการธนาคารฯ กล่าวว่ามีตัวเลือกการชําระเงินทางเลือกเพียงพอ นอกจากนี้ การออกภาษีสําหรับธุรกรรมคริปโตล่าช้าไปถึงปี 2024 เช่นกัน
การทดลอง CBDC กลายเป็นพันธกิจหลัก
นอกจากประเด็นด้านกฎระเบียบแล้ว CBDC ได้กลายเป็นพันธกิจที่สําคัญที่สุดของรัฐบาลและหน่วยงานกํากับดูแล ขณะนี้เกือบทุกประเทศกำลังดำเนินการเกี่ยวกับ CBDC และหลายประเทศได้เริ่มดําเนินการโครงการนําร่องแล้ว
ขณะนี้ ประเทศต่าง ๆ ตระหนักดีถึงประโยชน์ที่เทคโนโลยีประเภทนี้สร้างสรรค์ขึ้นมาและต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้สําหรับการทําธุรกรรมทั้งในและต่างประเทศ ประเทศเหล่านี้เห็นด้วยกับการปล่อยให้ Cryptocurrency อยู่ร่วมกับ CBDC
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ