ราคา Bitcoin (BTC) ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนเนื่องจากแนวโน้มตลาดและปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่ขัดแย้งกัน การเติบโตของงานที่แข็งแกร่งอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อ Bitcoin โดยการเพิ่มสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตาม การไหลเข้าและออกของเงินในตลาดแลกเปลี่ยนล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความสมดุล ซึ่งยังไม่ชี้ชัดถึงทิศทางราคาในขณะนี้ BTC จำเป็นต้องทะลุจุดต้านที่ประมาณ 63,000 USD เพื่อผลักดันราคาให้สูงขึ้น แต่หากราคาตกต่ำกว่าระดับสนับสนุนที่ 59,000 USD อาจเสี่ยงต่อการร่วงลงไปถึง 55,000 USD หรือต่ำกว่านั้น
ตลาดงานที่เฟื่องฟู: พรหมลิขิตหรือคำสาปสำหรับอนาคตของ BTC?
การเติบโตของงานที่แข็งแกร่งและความมั่นใจในตลาดเป็นดาบสองคมสำหรับ Bitcoin ด้านหนึ่ง ภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีอาจลดความจำเป็นในการหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง BTC เนื่องจากหุ้นแบบดั้งเดิมอาจมอบผลตอบแทนที่ปลอดภัยกว่าในสภาพแวดล้อมที่มั่นคง
นอกจากนี้ โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่รุนแรงอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจลดความน่าสนใจของ BTC ในฐานะที่เป็นทางเลือกในการป้องกันเงินเฟ้อ
ในทางตรงกันข้าม หากเศรษฐกิจยังคงเติบโตโดยไม่ร้อนแรงเกินไป อาจเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนโดยรวม กระตุ้นให้มีการลงทุนเก็งกำไรมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อ BTC นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่อัตราการลดดอกเบี้ยจะช้าลงอาจทำให้สภาพคล่องยังคงสูง ซึ่งมักจะเป็นผลดีต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง Bitcoin
โดยสรุป แม้ว่าเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจลดความน่าดึงดูดของ Bitcoin ในฐานะที่เป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัย แต่ก็ยังสามารถดึงดูดนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการเติบโตในสภาพแวดล้อมตลาดที่เป็นบวก
การทรงตัวของ Bitcoin: การไหลเข้าออกของเงินในตลาดแลกเปลี่ยนที่ไม่ชัดเจน
ในเดือนที่ผ่านมา การไหลออกจากตลาดแลกเปลี่ยนได้ครองการเคลื่อนไหวของ Bitcoin แต่แนวโน้มนี้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
ในวันที่ 10 กันยายน เราเห็นการไหลออกมากที่สุด ถึง -16,000 BTC ซึ่งโดยทั่วไปเป็นสัญญาณที่ดีมาก เนื่องจากบ่งชี้ว่าผู้ถือกำลังย้าย Bitcoin จำนวนมากออกจากตลาดแลกเปลี่ยน ลดปริมาณที่มีจำหน่ายสำหรับการขาย อย่างไรก็ตาม หลังจากการไหลออกครั้งใหญ่นั้น รูปแบบการเคลื่อนไหวก็ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
อ่านเพิ่มเติม: 7 ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาสำหรับการซื้อขาย Bitcoin (BTC)
แม้กระแสเงินทุนจะยังคงเป็นลบ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีเงินออกมากกว่าเงินเข้า แต่ก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก และเรายังเห็นวันที่มีกระแสเงินเข้าเป็นบวกหลายวัน กระแสเงินเข้านี้บ่งชี้ว่ายังมีนักลงทุนบางส่วนที่ยังส่ง BTC เข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจจะเพื่อขาย ทำให้ตลาดมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น
การไหลเข้าและออกของเงินทุนที่สลับกันไปมานี้สะท้อนถึงตลาดที่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน แม้จะมีการชอบถือครองมากกว่าการขาย แต่ก็ไม่มีความรุนแรงพอที่จะผลักดันราคา Bitcoin ให้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ด้วยกระแสเงินเข้าและออกที่สมดุลกันมากขึ้นในช่วงหลัง แนวโน้มราคา BTC ยังคงไม่แน่นอน และตลาดอาจเปลี่ยนทิศทางได้ตามกระแสเงินเข้าหรือออกในอนาคต
BTC Price Prediction: การเพิ่มขึ้น 10% ในเร็วๆ นี้?
หากตลาดแรงงานยังคงมีตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง เช่น การเพิ่มขึ้นของงาน 254,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก การลดอัตราดอกเบี้ยมักจะลดต้นทุนการกู้ยืมและเพิ่มสภาพคล่องในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนหันไปสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น Bitcoin เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
สถานการณ์นี้อาจส่งผลดีต่อราคา BTC โดยเพิ่มความต้องการ โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำทำให้ช่องทางการลงทุนแบบดั้งเดิมดูไม่น่าสนใจ หาก Bitcoin สามารถทะลุผ่านจุดต้านสำคัญที่ราคา 63,000 และ 64,700 USD ได้ อาจกระตุ้นให้เกิดการรวมตัวขึ้นสู่ 66,000 USD หรือสูงกว่า เนื่องจากนักลงทุนเปลี่ยนความสนใจไปยังสกุลเงินดิจิทัล
อ่านเพิ่มเติม: การทำนายราคา Bitcoin (BTC) ปี 2024/2025/2030
แผนภูมิ In/Out of the Money Around Price (IOMAP) ซึ่งแสดงตำแหน่งที่ผู้ถือ BTC มีกำไร (“in the money”) หรือขาดทุน (“out of the money”) เผยให้เห็นระดับการสนับสนุนและต้านที่สำคัญใกล้ราคาปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หากราคา BTC ไม่สามารถรักษาระดับสนับสนุนปัจจุบันที่ประมาณ 59,000 USD ได้ อาจเกิดการลดลงอย่างรุนแรง
การหลุดระดับนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการถอยกลับที่รุนแรงยิ่งขึ้น โดย BTC อาจตกไปถึง 55,000 หรือแม้แต่ 53,000 USD ซึ่งเป็นระดับสนับสนุนที่สำคัญถัดไป สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้เกิดแรงกดดันในการขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ค้าที่ต้องการลดขาดทุน ผลักดันให้ Bitcoin เข้าสู่ช่วงที่เป็นขาลง หากไม่มีปัจจัยเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย ช่วยฟื้นฟูแรงซื้อ
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
