USDC ถูกใช้มากกว่าการเทรด และ Bybit ขยายการรองรับบน XDC

เมื่อปี 2025 ใกล้จบลง stablecoins เช่น USDC ไม่ได้ถูกใช้เพียงแค่เพื่อการซื้อขายอีกต่อไป เพราะ stablecoins เหล่านี้เริ่มถูกนำมาใช้ในการชำระเงิน การโอนธุรกิจ และการเคลื่อนย้ายเงินทุนในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแต่เพียงกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับวัฏจักรตลาดเท่านั้น เมื่อเงินเคลื่อนไหวบ่อยขึ้น วิธีที่ธุรกรรมเหล่านั้นถูกชำระจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา

และการเปลี่ยนแปลงนี้ได้สร้างแรงกดดันต่อเครือข่ายบล็อกเชนที่มีอยู่ กิจกรรมของเครือข่ายเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อถึงช่วงเวลาที่เครือข่ายใช้งานหนาแน่น จะเห็นได้ชัดจากค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น การยืนยันธุรกรรมที่ช้าลง และค่าโอนที่ไม่แน่นอนมากขึ้น

บน Ethereum ตัวอย่างเช่น การส่ง USDC ในช่วงปลายปี 2025 มักมีค่าธรรมเนียมตั้งแต่ไม่กี่ USD ไปจนถึงมากกว่า 10 USD ในช่วงที่เครือข่ายแออัด นั่นหมายความว่าแค่การโอนเงินธรรมดาก็อาจมีค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่คาดหวังไว้ด้วยซ้ำ

ในช่วงครึ่งหลังของปี ปัญหาค่าธรรมเนียมที่ผันผวนกลายเป็นเรื่องคุ้นเคยอีกประการหนึ่ง ราคาที่อ้างอิงตาม Gas หมายความว่าค่าโอน stablecoins สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตามสภาพของเครือข่าย ซึ่งทำให้การชำระเงินประจำวันของเหล่าผู้ค้า ธุรกิจ และทีมคลังยากจะวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรวมค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนกับโอนแล้ว ข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ออกแบบมาเพื่อ stablecoins อาจเหลือน้อยกว่าที่ผู้ใช้จำนวนมากคาดคิด

ตรงนี้เองที่การตัดสินใจของ Bybit ในการ เพิ่ม การรองรับ USDC บน XDC Network จึงลงตัว เมื่อการโอน stablecoins กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมประจำวัน ทุกคนจึงคาดหวังให้ทางเลือกในการโอนเป็นเรื่องง่ายและคาดหมายได้ ดังนั้น ความรวดเร็วและต้นทุนที่ต่ำในการเคลื่อนย้ายเงินจึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเข้าถึงสินทรัพย์เหล่านั้น

ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจป้ายกำกับของบล็อกเชนอีกต่อไป ทุกคนสนใจเพียงว่าการโอนเงินจะเสร็จเร็วแค่ไหนและต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไรในที่สุด ด้วยเหตุนี้ ถ้า stablecoins จะกลายเป็นเครื่องมือการเงินสำหรับชีวิตประจำวัน โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับจึงต้องให้ความรู้สึกมั่นคงและไม่ก่อให้เกิดความกังวลใจ Angus O’Callaghan หัวหน้าฝ่ายเทรดดิ้งและตลาดของ XDC Network กล่าวไว้

Bybit ยกเว้นค่าธรรมเนียม USDC บน XDC พร้อมเปิดตัวโปรแกรมรางวัลมูลค่า USD 200,000

สำหรับผู้ใช้ stablecoin ส่วนใหญ่ การเข้าถึงไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว เพราะ USDC มีให้บริการในแทบทุกกระดานเทรดใหญ่ แต่สิ่งที่ผู้คนกังวลในตอนนี้คือการเคลื่อนย้ายเงินยังคงต้องใช้งานได้ตามที่ต้องการ นั่นคือ ต้องรวดเร็ว มีความสม่ำเสมอ และไม่ต้องกังวลเรื่องต้นทุนมากจนเกินไป

การเปลี่ยนแปลงล่าสุดของ Bybit จึงดูเหมาะสมกับสถานการณ์นี้ควบคู่กับการเปิดทางเลือกใหม่สำหรับการโอน USDC แล้ว ทางกระดานยังยกเว้นค่าธรรมเนียมถอนบน XDC ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2025 ถึง 1 มกราคม 2026 และ จัดโปรโมชันเงินรางวัลรวม 200,000 USDC สำหรับผู้สมัครใหม่ที่ฝากเงินตามเงื่อนไข

สำหรับผู้ใช้ทั่วไป เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความสะดวกสบาย ส่วนใหญ่เมื่อค่าธรรมเนียมเริ่มแพงขึ้นหรือคาดเดาไม่ได้ แต่ละคนจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีโอนเงินในแบบที่แตกต่าง เช่น บางคนรอโอกาสโอนที่เหมาะสม บางคนรวมธุรกรรมเข้าด้วยกัน และบางคนหลีกเลี่ยงธุรกรรมขนาดเล็กทั้งหมด การมีทางเลือกเพิ่มเติมจึงช่วยให้แต่ละคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

สำหรับผู้ใช้ Bybit แล้ว USDC บน XDC คือความยืดหยุ่นที่มากขึ้น ทั้งนี้ ทุกคนจะสามารถโอนเงินได้หลายช่องทางเมื่อช่องทางเดิมไม่ตอบโจทย์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการใช้งานหรือมุมมองต่อ stablecoins แต่อย่างไร

สัญญาณนี้บ่งบอกอะไรต่อแพลตฟอร์มซื้อขายในไทย

การเคลื่อนไหวล่าสุดของ Bybit เกี่ยวกับการโอน USDC สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มเกิดขึ้นในตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดย Bybit ได้ขยายช่องทางให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายเงินทุนได้มากขึ้น และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่กำลังเห็นกันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

BTSE, KuCoin, MEXC, Gate.io, Bitrue และ Pionex ก็ได้ขยายการรองรับ XDC เช่นกัน รวมถึงเปิดให้ฝาก ถอน และซื้อขาย ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จึงสะท้อนถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของตลาดแลกเปลี่ยนที่หันมาใช้เครือข่ายชำระเงินที่จัดการการโอนเงินประจำได้โดยไม่มีความผันผวนของค่าธรรมเนียมเหมือนเครือข่ายที่มีความแออัด

สำหรับตลาดแลกเปลี่ยน เหตุผลส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่องความเหมาะสมในการทำงานจริง เพราะเมื่อการไหลเวียนของ stablecoin เพิ่มขึ้น การพึ่งพาเครือข่ายเพียงไม่กี่แห่งย่อมทำให้แพลตฟอร์มต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของต้นทุนและการชำระธุรกรรมที่ช้าลงช่วงที่มีผู้ใช้หนาแน่น และการเพิ่มช่องทางทางเลือกใหม่ก็ทำให้ตลาดแลกเปลี่ยนมีทางเลือกมากขึ้น จึงช่วยลดแรงกดดันเหล่านี้ในขณะที่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายเงินในรูปแบบที่คาดการณ์ได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนสินทรัพย์ที่ใช้อยู่แล้วด้วย

ขณะเดียวกันเรื่องทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นในช่วงที่ stablecoin เริ่มถูกใช้เหมือนเครื่องมือการชำระเงินจริงขึ้นเรื่อย ๆ และในประเทศสหรัฐอเมริกา มีกฎหมายอย่าง GENIUS Act ที่มุ่งวางกฎเกณฑ์การออกและการใช้ stablecoin ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะกับการชำระเงินและกิจกรรมของสถาบัน ซึ่งขณะที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น วิธีการเคลื่อนย้าย stablecoin ระหว่างแพลตฟอร์มและเครือข่ายก็กลายเป็นประเด็นสำคัญที่เกินกว่ารายละเอียดด้านเทคนิค และยังเป็นความคาดหวังพื้นฐานของผู้ใช้และสถาบันด้วย

O’Callaghan กล่าวเสริมว่า “เมื่อ stablecoin ถูกนำมาใช้นอกเหนือจากการเทรด บทสนทนาย่อมเปลี่ยนไป เมื่อมีกฎชัดเจนว่าควรใช้งานอย่างไร เหมือนที่กำลังพูดถึงใน GENIUS Act ทุกคนต่างก็จะเลิกมองการโอนเหล่านี้ว่าเป็นแค่การทดลอง แต่กลับคาดหวังให้มันทำงานเหมือนการชำระเงินทั่วไป ทั้งต้องดำเนินการตรงเวลาที่คาดการณ์ ต้นทุนชัดเจน และไม่ต้องคอยกังวลกับทุกขั้นตอน”

การใช้ XDC ในทางปฏิบัติ

XDC Network ถูกใช้มากกับงานเบื้องหลังเชิงปฏิบัติการ แทนที่จะเน้นไปที่การใช้งานกับผู้บริโภคโดยตรง โดยมักถูกนำไปใช้ในด้านการเงินการค้า การโทเคนสินทรัพย์ในโลกจริง และกระบวนการชำระเงินที่ต้องการความสม่ำเสมอและปราศจากความประหลาดใจ

และรูปแบบดังกล่าวก็เหมาะกับการโอน stablecoin ด้วย เพราะธุรกรรมบน XDC มักดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและใช้ค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งในขณะที่การโอน stablecoin กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น ข้อได้เปรียบนี้ยิ่งเห็นความสำคัญ สำหรับบุคคลหรือธุรกิจที่ต้องโอน USDC เป็นประจำ ค่าธรรมเนียมที่ต่ำและคาดการณ์ได้ย่อมช่วยให้บิริหารจัดการการโอนเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยจุดนี้เองก็เริ่มเห็นได้ในข้อมูลปริมาณการใช้งาน และปริมาณ USDC ที่ออกบน XDC ก็ยังคงเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 200 ล้าน USD ไปแล้ว แสดงให้เห็นว่าการใช้งานได้ขยายจากการทดลองสู่กิจกรรมเป็นประจำ ดังนั้นตัวเลขเหล่านี้จึงสะท้อนให้เห็นการใช้งานที่ต่อเนื่องโดยกลุ่มผู้ใช้งานที่เคลื่อนย้ายเงินบ่อย

แหล่งที่มาของภาพ: USDC.COOL

ทางด้าน XDC การเชื่อมระบบอย่าง Bybit นั้นเน้นเรื่องการใช้งานที่ตอบโจทย์เป็นหลัก โดยเครือข่ายนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่การโอน stablecoin สามารถเกิดขึ้นอย่างน่าเชื่อถือมากกว่าการพยายามดึงดูดความสนใจด้วยตัวมันเอง

XDC ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงกระแสการชำระเงินขององค์กรด้วย ซึ่งในกรณีนี้ ความสามารถในการชำระเงินที่คาดเดาได้และต้นทุนที่คงที่มีความสำคัญมากกว่าการปรับแต่งเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น นอกจากนี้ สิ่งนี้จึงเหมาะสมกับธุรกิจและสถาบันการเงินที่ต้องการโอน stablecoin ครั้งละจำนวนมาก เพราะหากเกิดความล่าช้าหรือค่าธรรมเนียมผันผวน ก็จะกลายเป็นปัญหาด้านการปฏิบัติงานในทันที

นอกจากนี้จุดเด่นนี้ยังสะท้อนออกมาผ่านการใช้งานของเครือข่ายอย่างชัดเจน เพราะนอกเหนือจากการโอนแบบพื้นฐานแล้ว XDC ยังรองรับเวิร์กโฟลว์ทางการเงินที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ทั้งการชำระเงินข้ามประเทศ การชำระบัญชีในรูปแบบ tokenized และการเพิ่มสภาพคล่องด้วย stablecoin ซึ่งสินทรัพย์อย่าง USDC ก็ถูกนำมาใช้ในเวิร์กโฟลว์เหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในฐานะหลักประกัน โดยในปัจจุบันได้มีการ tokenized และชำระบัญชีสินทรัพย์บนเครือข่ายไปแล้วกว่า 500 ล้าน USD

ที่มาของภาพ: TradeFi Network

กิจกรรมลักษณะนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับวงการเทรดไฟแนนซ์และการชำระเงินข้ามประเทศ เนื่องจากเงินทุนจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายข้ามเขตอำนาจศาลได้อย่างน่าเชื่อถือ มากกว่าที่จะถูกแปรเปลี่ยนไปตามสภาวะตลาด เมื่อกระบวนการชำระเงินและการค้าจำนวนมากขยับมาอยู่บนบล็อกเชน ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการโอนธุรกรรมจำนวนมากอย่างมั่นคงจึงไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็น

สรุปท้ายบท

ในท้ายที่สุด การตัดสินใจของ Bybit ที่รองรับ USDC บน XDC นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่งหรือกลยุทธ์โปรโมชั่นเป็นหลัก หากแต่สะท้อนให้เห็นว่ากระดานเทรดกำลังปรับตัวสู่ตลาดที่เติบโตขึ้น ดังนั้นสำหรับกระดานเทรด การเพิ่มทางเลือกในการเคลื่อนย้าย USDC จึงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ โดยต้องมั่นใจว่าประสบการณ์ใช้งานจะยังราบรื่น ไม่เฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดสงบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงช่วงที่กิจกรรมเพิ่มขึ้นและจุดสะดุดเล็กๆ เริ่มมีผล ซึ่งบทบาทของ XDC ในการตั้งค่าระบบนี้จึงแสดงให้เห็นว่าการเลือกใช้งานโครงสร้างพื้นฐานได้กลายมาเป็นความรับผิดชอบของกระดานเทรด แม้จะเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังก็ตาม

O’Callaghan สรุปว่า โครงสร้างพื้นฐานที่ดีไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจแก่ตัวเอง เพราะเมื่อมันทำงานได้อย่างถูกต้อง ผู้ใช้แทบไม่เคยนึกถึงมันเลย และนั่นก็คือเป้าหมายโดยทั่วไป