หมู่เกาะเคย์แมนสร้างฮับคริปโตหน้าประตูบ้านสหรัฐฯอย่างไร

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หมู่เกาะเคย์แมนได้เปลี่ยนตัวเองอย่างเงียบๆ ให้เป็นศูนย์กลางคริปโตระดับภูมิภาค โดยมีบริษัท Web3 กว่า 125 แห่งตั้งอยู่ อีกทั้ง BeInCrypto ได้เจาะลึกประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมท้องถิ่นนี้ กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ และการเติบโต

Charlie Kirkconnell ซึ่งเป็น CEO ของ Cayman Enterprise City ตกลงให้สัมภาษณ์เชิงลึกกับ BeInCrypto ร่วมกับเพื่อนร่วมงานบางคนของเขา

หมู่เกาะเคย์แมน: ศูนย์กลางคริปโตแห่งใหม่?

ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา หมู่เกาะเคย์แมนได้ดำเนินงานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามแห่ง ซึ่งรวมเรียกว่า Cayman Enterprise City (CEC)

แม้สหรัฐอเมริกาจะพยายามล่าสุดที่จะกลายเป็นแหล่งสวรรค์ด้านกฎระเบียบ แต่ CEC ในปัจจุบันมีบริษัทคริปโตและ Web3 กว่า 125 แห่ง แล้วความลับคืออะไร

เพื่อพูดคุยถึงการก้าวขึ้นสู่ความโดดเด่นด้านคริปโตของหมู่เกาะเคย์แมน BeInCrypto ได้สัมภาษณ์พิเศษ Charlie Kirkconnell ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO ของ CEC ตั้งแต่ปี 2013:

เขากล่าวว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงการเติบโตของพวกเรา ในปี 2017 เรามีธุรกิจหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก จากกระแส ICO บูม จากนั้นเกิดโควิด และเมื่อเราเปิดอีกครั้ง เราพบว่า มีอุปสงค์ที่ถูกกดทับอยู่มาก สิ่งต่างๆ เริ่มทะยานขึ้นจริงจัง และแนวโน้มขาขึ้นนั้นยังคงต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ เขากล่าว

โดยเฉพาะ Charlie Kirkconnell ระบุว่า หมู่เกาะเคย์แมนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของอุปสงค์คริปโต เมื่อ CEC สร้างความน่าเชื่อถือมั่นคงในฐานะศูนย์กลาง Web3 ระดับโลก

เดิมทีหมู่เกาะเคย์แมนเป็นจุดหมายที่น่าดึงดูดอยู่แล้ว เช่น สถานะที่มั่นคงในโลก TradFi แต่ CEC ต้องสร้างความน่าเชื่อถือชุดใหม่ขึ้นมาตั้งแต่ศูนย์

การแข่งขันหรือภาวะพึ่งพาอาศัยกัน?

อย่างไรก็ตาม Charlie Kirkconnell โต้แย้งแนวคิดที่ว่าหมู่เกาะเคย์แมนกำลังแข่งขันกับสหรัฐอเมริกา หรือผู้เล่นรายใหญ่รายอื่น เพื่อสถานะศูนย์กลางระดับภูมิภาค เขากลับมองว่าเป็นความสัมพันธ์พึ่งพาอาศัยกัน โดย CEC มอบประโยชน์ต่อการขยายตัวและการบูรณาการ

เขากล่าวว่า หมู่เกาะเคย์แมนมีความเหมาะสม เช่นเดียวกับโมเดลในโลกอุตสาหกรรมกองทุน มีโครงสร้าง feeder แบบ onshore และ offshore ที่ป้อนเข้าสู่กองทุนลงทุน และแนวทางนั้นก็สมเหตุสมผลสำหรับโครงการในวงการคริปโตเช่นกัน เขากล่าว

เขาเพิ่มเติมว่า ผมนึกย้อนไปปี 2017 ตอนที่บางโครงการพยายามหาทนายความท้องถิ่นที่เข้าใจพื้นที่ Web3 ข้ามมาถึงวันนี้ สำนักงานกฎหมายรายใหญ่บนเกาะแทบทุกแห่งล้วนมีทีมที่โฟกัสคริปโต ที่นี่มีความเชี่ยวชาญระดับสูง หาได้ยาก เข้าถึงง่าย และมีความเข้มข้นสูง Kirkconnell กล่าวเพิ่มเติม

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผลกระทบลูกโซ่เกิดขึ้นเมื่อศูนย์กลางคริปโตของหมู่เกาะเคย์แมนยิ่งมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ มุมมองการแข่งขันอาจไปรบกวนข้อได้เปรียบเหล่านั้น

เดิมทีมีบุคลากรกฎหมายอยู่แล้ว เพราะหมู่เกาะมีความเชื่อมโยงระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง แต่ต้องใช้เวลาหลายปีของการเติบโต เพื่อให้บุคลากรเหล่านั้นสั่งสมความเชี่ยวชาญด้านคริปโตของตนเอง

แม้ผู้เล่นรายใหญ่บางรายจะโหมกระแสการย้ายไปยังจุดหมายอย่างเอลซัลวาดอร์ เพื่อหนีกฎระเบียบของสหรัฐฯที่ถูกมองว่าไม่เป็นมิตร. แต่มุมมองนั้นไม่ได้ให้ผลเสมอไป. เส้นทางของหมู่เกาะเคย์แมนในการพัฒนาคริปโตกลับเป็นการพยายามเพิ่มพูนความสัมพันธ์เกื้อกูลเหล่านี้ให้สูงสุด.

Isabel Forde ตำแหน่ง Head of Global Mobility ของ CEC อธิบายประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจน. เมื่อถูกถามว่าโครงสร้างแบบกระจายศูนย์ของคริปโตช่วยให้บริษัทในหมู่เกาะเคย์แมนเชื่อมกับตลาดโลกหรือไม่ เขากล่าวว่าอาจไม่ส่งผลใดๆ. ท้ายที่สุดแล้ว หมู่เกาะนี้บูรณาการกับการเงินระหว่างประเทศอยู่แล้ว. Kirkconnell ได้ขยายความต่อว่า:

เขากล่าวว่า ในการเงินดั้งเดิม แนวทางจะค่อนข้างอนุรักษนิยมมากกว่าเล็กน้อย. ธรรมชาติแบบกระจายศูนย์ของวงการนี้มีความเป็นนักผจญภัย. บริษัทคริปโตเองมีความกระจายศูนย์มากขึ้น และกำลังคนก็ยังกระจายศูนย์มากขึ้น. เขาเห็นว่าสิ่งนั้นทำให้ผู้คนย้ายมาหมู่เกาะเคย์แมน ส่วนการเงินดั้งเดิมเกิดขึ้นช้ากว่ามาก.

มุมมองนี้ชี้ให้เห็นอะไรหลายอย่าง. อุตสาหกรรม Web3 มีชื่อเสียงเรื่องการทำให้การชำระเงินข้ามพรมแดนเป็นจริง ส่งเสริมการเชื่อมโยง และชุมชนระดับโลก เป็นต้น.

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์กว่า 14 ปี แนวโน้มเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยสร้างศูนย์กลางคริปโตของหมู่เกาะเคย์แมนมากนัก. ทัศนคติแบบคริปโตต่างหากที่ขับเคลื่อนการขยายตัวนี้ ไม่ใช่เทคโนโลยีบล็อกเชน.

การทำซ้ำกลยุทธ์

ด้วยเหตุผลที่ชัดเจน Kirkconnell จึงลังเลเล็กน้อยที่จะบอกว่า ศูนย์กลางคริปโตหน้าใหม่ที่มุ่งสร้างสรรค์จะนำแนวทางของหมู่เกาะเคย์แมนไปใช้ได้สำเร็จ. แต่มุมมองนั้นไม่ได้เกิดจากความผูกพันกับบ้านระยะยาวของเขาเพียงอย่างเดียว. ปัจจัยอย่างสายสัมพันธ์กับสหรัฐฯที่มีอยู่เดิม และโครงสร้างพื้นฐานการเงินดั้งเดิม มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของ CEC.

ดังนั้น หากเขตอำนาจศาลอื่นพยายามแทนที่ข้อได้เปรียบที่จับต้องไม่ได้เหล่านี้ด้วยความฮึกเหิมด้านกฎระเบียบ จะเกิดอะไรขึ้น? ส่วนหนึ่งที่ทำให้ CEC เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ คือการให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรและความชัดเจนด้านกฎระเบียบ.

อย่างไรก็ดี ความเป็นมิตรนั้นต้องไม่แลกกับการกำกับดูแล มิฉะนั้นอาจเกิดหายนะตามมา.

Kirkconnell ระบุว่า หมู่เกาะเคย์แมนใช้แนวทางที่พอเหมาะและอนุรักษนิยมในการสร้างกฎระเบียบคริปโต. Web3 มักมีความเสี่ยงสูง แต่ความสำเร็จแบบความเสี่ยงต่ำต้องสะสม หากศูนย์กลางจะยั่งยืน. โดยสรุป CEC ต้องใช้เวลา และอุตสาหกรรมไม่ได้คุ้นกับการเดินเกมอย่างระมัดระวังเสมอไป:

เขาต้องการสร้าง…สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจให้กับเขตอำนาจศาล ไม่ใช่ความอับอาย. บางครั้งเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้น. การเร่งเกินไปและรับความเสี่ยงมากเกินไป อาจเป็นหลุมพรางที่เขตอำนาจศาลอื่นควรระวัง. มันใช้เวลาหลายปีและงานหนักมาก กว่าจะมาถึงจุดนี้ เขากล่าว.

แม้เขาจะยินดีที่ภูมิภาคอื่นลุกขึ้นมาท้าทาย แต่ Kirkconnell ยืนยันว่า CEC จะทำงานหนักต่อไป เพื่อคงความสามารถในการแข่งขัน. อย่างน้อยก็ในมุมของตลาดคริปโตที่ยึดสหรัฐฯเป็นศูนย์กลาง.

ในประเด็นแทรกนี้ เขาได้ชี้ให้เห็นจุดที่ภาวะพึ่งพาเกื้อกูลและการแข่งขันทับซ้อนกัน. หมู่เกาะเคย์แมนมุ่งช่วยเหลือบริษัทคริปโตที่มีสายสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ไม่ใช่แย่งบทบาทศูนย์กลางจากสหรัฐฯ.

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์เชิงความร่วมมือนี้ไม่ได้ต้องการให้ภูมิภาคอื่นพยายามดึงทุนและท่อส่งบุคลากรความสามารถของตนออกไป

นอกจากนี้ ฮับอื่นที่มีศักยภาพอาจพยายามตั้งฐานของตนในจุดร้อนระดับภูมิภาคอื่น เช่น สิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ทำ. กระนั้นก็ตาม สหรัฐอเมริกายังคงไร้คู่เปรียบในฐานะมหาอำนาจคริปโตระดับโลก

ขณะเดียวกัน ไม่ว่า ยุโรป จีน หรือมหาอำนาจโลกใด ๆ ก็ไม่มีความตั้งใจหรือขีดความสามารถที่จะท้าทายสหรัฐอเมริกาใน Web3

ประโยชน์ระยะยาว

อย่างไรก็ดี แม้กระบวนการจะยาวนานและยากลำบาก Kirkconnell เน้นย้ำว่าผลลัพธ์คุ้มค่า ช่วงเริ่มต้นช้า แต่หมู่เกาะเคย์แมนเกิดเอฟเฟกต์ก้อนหิมะ และฮับคริปโตได้รับการสถาปนาอย่างสมบูรณ์

ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันไม่มีประเภทธุรกิจ Web3 ที่ได้เปรียบในการไปตั้งดำเนินงานที่นั่น เพราะ CEC มีชุมชนที่เติบโตเองตามธรรมชาติและมีชีวิตชีวา:

พวกเรามีธุรกิจทุกช่วงขั้นและทุกขนาด บางโครงการเป็นสตาร์ทอัป และบางส่วนก็ตั้งมั่นแล้วในระดับ [ทั่วโลก] เคย์แมนเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับไม่ว่าโครงการของคุณจะทำอะไร และผมคิดว่าระดับความเชี่ยวชาญ โครงสร้างพื้นฐาน และสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ เอื้อให้เกิดโครงการที่หลากหลาย เขาระบุ

สุดท้าย Kirkconnell เชิญชวนบริษัทคริปโตที่สนใจให้ลองมาสัมผัสเคย์แมนด้วยตัวเอง เขาระบุว่า CEC สามารถจัดตั้งโครงการพร้อมใบอนุญาต วีซ่า พื้นที่สำนักงาน และอื่น ๆ ได้ภายในสี่ถึงหกสัปดาห์

โดยรวมแล้ว หวังว่าชุมชนธุรกิจนี้จะเดินหน้าสร้างนวัตกรรมต่อไปได้อีกหลายปีข้างหน้า