สํานักงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (Consumer Financial Protection Bureau – CFPB) จับตามองการทำธุรกรรมคริปโตเป็นพิเศษ โดยหันมาเน้นประเด็นการคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ใช้งานงานชาวอเมริกัน
รายงานของ Reuters ระบุว่า CFPB มีแผนที่จะให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์คริปโตของบริษัทเทคโนโลยีมากขึ้น เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีมูลค้าหลายพันล้านดอลลาร์เหล่านี้ได้ก้าวเข้าสู่การให้บริการทางการเงินเป็นที่เรียบร้อย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Big Tech ได้ทดลองกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่บริการทางการเงินซึ่ง Rohit Chopra ผู้อํานวยการของ CFPB อ้างว่าอาจนําไปสู่ การเกิด Avalanche ได้ ในการให้สัมภาษณ์กับ Reuters ตั้งคําถามถึงความพร้อมของประเทศสําหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโตนี้
“อเมริกาพร้อมหรือยังสําหรับการที่บริษัทเทคฯ เข้าสู่โลกของการเงิน เราได้เริ่มเห็นว่าพวกเขาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องการชำระเงินอย่างไรบ้าง” Chopra กล่าว “นั่นทําให้เกิดคําถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของบริการทางการเงิน”
ข้อกังวลอันดับต้น ๆ สําหรับหน่วยงานกํากับดูแลคือความเสี่ยงโดยธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล เช่น การฉ้อโกง และข้อผิดพลาด Chopra กล่าวว่า CFPB จะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับ “การชําระเงินแบบเรียลไทม์” โดยใช้สกุลเงินดิจิทัล
Libra ของ Facebook กระตุ้นให้ผู้กำกับดูแลออกมาดำเนินการ
หน่วยงานกํากับดูแลใช้มาตรการเชิงตั้งรับต่อสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากในช่วงแรก ๆ คริปโตถือเป็นสินทรัพย์ชายขอบ อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Facebook แสดงความทะเยอทะยานผ่านการออก Libra เพื่อให้บริการทางการเงินแก่ผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคน
“หน่วยงานกํากับดูแลทั้งหมดเหมือนตื่นจากภวังค์หลัง Facebook บอกว่าจะให้บริการ Libra ซึ่งอาจเป็นสกุลเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอย่างรวดเร็วในเครือข่ายของ Facebook” Chopra กล่าว
Libra ของ Facebook ไม่ได้ถูกยกเลิกหลังจากการต่อต้านอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกํากับดูแล แต่ทําให้เกิดการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Amazon และ Google เป็นต้น
Chopra กำลังรับมือกับบททดสอบอันยากลำบาก
Chopra ในฐานะหัวหน้าของ CFPB ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เข้ารับมือกับ Bureau de Change โดยกลุ่มบริษัทเอกชนกล่าวหาว่าเขา “ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ มีมาตรการรุนแรง และไม่ประสงค์จะมีปฏิสัมพันธ์กับวงการคริปโต”
Chopra ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยอ้างว่าได้หารือกับสถาบัน “หลายร้อยแห่ง” เพื่อขอคําแนะนําเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา
นอกเหนือจากความสนใจเรื่องการชำระเงินด้วยเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว Chopra ยังตั้งข้อสังเกตว่าคณะกรรมาธิการกําลังตรวจสอบและศึกษาการที่บริษัทเทคโนโลยีกำลังทะยานเข้าสู่นโยบาย Buy Now, Pay Later (BNPL)
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
