CSO ของ Upexi อธิบายว่าทำไมการเงินองค์กรในอนาคตจึงย้ายขึ้นสู่ On-Chain

โครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชนเติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และผลกระทบของมันกำลังขยายตัวไกลออกไปเกินกว่าการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) แล้ว

ตามที่ Brian Rudick หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์แห่ง Upexi กล่าว แนวโน้มการเงินองค์กรระลอกต่อไปจะเกิดขึ้นบนเชน โดยบริษัทต่างๆ กำลังเริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาใช้มากขึ้น

การเงินองค์กรกำลังย้ายสู่บล็อกเชน

ในการสัมภาษณ์พิเศษกับ BeInCrypto นั้น Rudick ได้เน้นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของ สินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ถูกสร้างเป็นโทเค็น (RWAs) ว่าเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่าการเงินองค์กรกำลังเปลี่ยนไปสู่สภาพแวดล้อมบล็อกเชน

เขาชี้ให้เห็นตัวเลขที่เกี่ยวข้อง: มูลค่าประมาณ 36 พันล้าน USD ของ RWAs มีการสร้างเป็นโทเค็นบนบล็อกเชน ซึ่งตัวเลขนี้ได้เติบโตขึ้นถึง 160% ภายในปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเครดิตส่วนตัว พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนการลงทุนทางเลือก และหุ้น

“เรายังเห็นบริษัทใหญ่ในวงการการเงินและเทคโนโลยีทดลองใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้นเรื่อยๆ” เขากล่าว

ทั้งนี้การทดลองนี้กำลังเปลี่ยนไปสู่การใช้งานจริงเร็วๆ นี้ในปี 2025 ข้อมูลจาก BeInCrypto ที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ระบุว่าหลายองค์กรรายใหญ่ได้ย้ายเข้าสู่การพัฒนาโดยใช้บล็อกเชนอย่างจริงจัง

ตัวอย่างเช่น SWIFT กำลังสร้างบันทึกบัญชีร่วมแบบเรียลไทม์เชื่อมโยงธนาคารกว่า 30 แห่งทั่วโลก Google Cloud ได้เปิดตัวบล็อกเชนชั้นที่ 1 ที่เป็นกลางชื่อ Universal Ledger (GCUL) ซึ่งออกแบบมาเพื่อธนาคารและตลาดทุนโดยเฉพาะ

ในขณะเดียวกัน บริษัทอย่าง Citigroup, Mastercard และ Visa กำลังนำเสนอบริการต่าง ๆ หรือเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนให้กับลูกค้าของพวกเขา

“เราคาดว่าจะเห็นการเร่งตัวถ้าหากสหรัฐผ่านกฎหมายโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล” Rudick เสริม

ผลกระทบจริงของ Blockchain คือการแทนที่ระบบเดิม

เมื่อพูดถึง “การเงินองค์กรบนเชน” นั้น อาจหมายถึงเรื่องต่างๆ เช่น บริษัทใส่ งบดุลบนบล็อกเชน การทำควบรวมกิจการโดยใช้โทเค็น หรือการระดมทุนด้วยสินทรัพย์ที่ถูกสร้างเป็นโทเค็น

แต่ในความเห็นของ Rudick นี่ไม่ใช่จุดที่บล็อกเชนจะส่งผลกระทบใหญ่ที่สุดในตอนนี้ เขาเชื่อว่าโอกาสที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่บังคับให้ทุกงานด้านการเงินองค์กร เช่น การวางแผนและการวิเคราะห์การเงิน มาอยู่บนบล็อกเชน

แต่ควรอยู่ในแทนที่โครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัยซึ่งเป็นพื้นฐานของการเงินสมัยใหม่มากกว่า เขากล่าวว่า

“โอกาสในการที่เทคโนโลยีบล็อกเชนจะปฏิวัติการเงินแบบดั้งเดิมนั้นคือการทำให้ระบบการเงินที่เก่าแก่ของเรา เช่น ระบบ ACH หรือตัวเครือข่ายผู้ออกบัตรเครดิตที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อนและมีความช้าและแพงนั้นได้รับการจินตนาการใหม่”

รูดิคแย้งว่าแม้ว่า การระดมทุนบนบล็อกเชนอาจให้ ข้อดีเช่นการเข้าถึงนักลงทุนที่กว้างขึ้น แต่การดิจิทัลทางการเงินของบริษัททั้งหมดจะยังล้าหลังเนื่องจากสองปัจจัยหลัก:

1) ประโยชน์ที่อาจมากกว่าและเกิดขึ้นทันทีของช่องทางการเงินใหม่ เช่น การจ่ายเงินที่เกือบจะทันทีและฟรีด้วย stablecoins เมื่อเทียบกับโครงสร้างการเงินของบริษัทในปัจจุบันที่ทำงานได้ดีเปรียบเทียบกัน และ 2) กฎระเบียบที่ไม่ยุ่งยากและกำหนดไว้แล้วในบางพื้นที่ เช่น การจ่าย stablecoin เมื่อเทียบกับกฎเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจนสำหรับการระดมทุนบนบล็อกเชน

ถึงกระนั้น รูดิคชี้ว่า สินทรัพย์ที่มีโทเคนสนับสนุนได้สะท้อนพฤติกรรมเรียบร้อยแล้วที่ CFOs ใส่ใจ: กระแสเงินสด, สภาพคล่อง, และอัตราผลตอบแทน

มีความละเอียดบางอย่างที่อาจใช้เวลาสำหรับการสร้างสภาพคล่องบนบล็อกเชน แต่สภาพคล่องสามารถมีได้อยู่นอกช่วงเวลาตลาดดั้งเดิม เมื่อการเงินเคลื่อนไหวครบถ้วนบนบล็อกเชนแล้ว ประโยชน์จะมีมากกว่าความท้าทายเริ่มต้น เขาเปิดเผยกับ BeInCrypto

ทำไม Solana เป็นระบบนิเวศชั้นนำสำหรับการเงินบนเชน

เมื่อถูกถามว่าอีโคซิสเต็มใดที่เหมาะที่สุดในการสนับสนุนชั้นการเงินบนบล็อกเชนที่เกิดขึ้นใหม่นี้ ผู้บริหารชี้ไปที่ Solana ด้วยความมั่นใจ รูดิคซึ่งดูแลกลยุทธ์คริปโตเคอเรนซีของ Upexi หนึ่งใน บริษัทเทรเชอรีที่มุ่งเน้น Solana ชั้นนำ ได้กล่าวถึงหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการประเมินของเขา

Solana เป็นบ้านธรรมชาติสำหรับการเงินบนบล็อกเชน เนื่องจากความเร็ว, ต้นทุน, ความน่าเชื่อถือที่ยอดเยี่ยม และถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับสิ่งนี้ ในความจริง เข็มทิศดาราของ Solana คือสิ่งที่เรียกว่า Internet Capital Markets ที่ที่สินทรัพย์ทั่วโลกทำการแลกเปลี่ยนในสถานที่เดียวกัน สามารถเข้าถึงได้ตลอด 24/7 โดยทุกคนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เขาแสดงความคิดเห็น

รูดิคเน้นย้ำว่าสถาบันการเงินชั้นนำ รวมถึง FiServ, Western Union, Société Générale, PayPal, Visa, Franklin Templeton, BlackRock, Apollo และอีกหลายแห่ง กำลังใช้ Solana มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำการเงินสู่บล็อกเชนและคว้าประโยชน์จากมัน