ย้อนกลับ

ความแตกต่างระหว่างนักลงทุนหุ้นกับคริปโตบอกสัญญาณอนาคตอย่างไร

sameAuthor avatar

เขียนและแก้ไขโดย
Kamina Bashir

15 ธันวาคม พ.ศ. 2568 19:16 ICT
เชื่อถือได้
  • นักลงทุนรายย่อยคิดเป็นประมาณ 20% ของปริมาณการซื้อขายหุ้นในสหรัฐฯ ช่วงไตรมาส 3 ปี 2025
  • ตลาดคริปโตในไทยขับเคลื่อนโดยสถาบัน หลังนักลงทุนรายย่อยถอนตัว
  • บาร์เคลย์คาดการณ์ปี 2026 คริปโตซบเซา
Promo

นักลงทุนรายย่อยเข้ามามีส่วนร่วมถึงประมาณ 20% ของปริมาณการซื้อขายหุ้นในสหรัฐอเมริกาในไตรมาส 3 ปี 2025 ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับสองที่เคยบันทึกไว้ ขณะเดียวกัน ตลาดคริปโตกลับมีแนวโน้มตรงกันข้าม โดยเงินทุนสถาบันเป็นฝ่ายครองตลาดในขณะที่การเข้าร่วมของนักลงทุนรายย่อยกลับลดลง

ความแตกต่างนี้ระหว่างตลาดหุ้นและสินทรัพย์ดิจิทัลจึงนำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับความเติบโต ความผันผวน และทิศทางของสินทรัพย์ทั้งสองประเภทเมื่อปี 2026 กำลังจะมาถึง

Sponsored
Sponsored

หุ้นกลายเป็นตลาดรายย่อย ส่วนคริปโตมุ่งสู่สถาบัน

การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมจากนักลงทุนรายย่อยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญในโครงสร้างตลาดหุ้น โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Kobeissi Letter นักลงทุนบุคคลมีสัดส่วนการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ในไตรมาส 3 ปี 2025 และเข้าใกล้จุดสูงสุดช่วง memestock ไตรมาส 1 ปี 2021 ด้วย

ก่อนปี 2020 สัดส่วนเฉลี่ยของนักลงทุนรายย่อยอยู่ที่ประมาณ 15% ต่อเนื่องหลายปี ดังนั้น ตัวเลข 20% ในปัจจุบันจึงถือว่ามีนัยสำคัญทีเดียว

US equity trading volume by participant type showing retail surge to 20% in Q3 2025
ขณะนี้นักลงทุนรายย่อยครองสัดส่วน 20% ของการซื้อขายหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่มา: X/The Kobeissi Letter

การเข้าร่วมของนักลงทุนรายย่อยแซงหน้าหมวดหมู่สถาบันแต่ละกลุ่ม โดยกองทุนรวมที่ลงทุนระยะยาวและกองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิมต่างมีส่วนแบ่งปริมาณซื้อขายประมาณ 15% ในไตรมาสที่ผ่านมา หรือเพียงครึ่งเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2015 นอกจากนี้ กองทุนทุกประเภทซึ่งรวมถึงกองทุนควอนต์ ต่างรวมกันเป็นเพียง 31% ในไตรมาส 3 นี้

ทาง Kobeissi Letter ระบุว่า นักลงทุนรายย่อยกำลังเข้ามามีบทบาทหลักในตลาดด้วยความเร็วในประวัติศาสตร์

ในขณะเดียวกัน ตลาดคริปโตกลับแสดงโครงสร้างคนละแบบกับตลาดหุ้น เพราะถึงแม้ว่านักลงทุนรายย่อยจะเคยเป็นแรงผลักดันรอบกระทิงในอดีต แต่ปี 2025 ได้เกิด การเปลี่ยนแปลงชัดเจนสู่ฝั่งสถาบัน นอกจากนี้ JPMorgan ได้ กล่าวถึงว่า สัดส่วนการเข้าร่วมของรายย่อยลดลงไป ตามข้อมูลของธนาคาร

ตลาดคริปโตเริ่มเปลี่ยนจากระบบนิเวศคล้าย Venture Capital ไปสู่สินทรัพย์ทางเศรษฐกิจมหภาคที่เทรดได้ทั่วไป โดยมีสภาพคล่องจากสถาบันสนับสนุน แทนที่จะเป็นการเก็งกำไรของรายย่อย

Sponsored
Sponsored

โดยควรสังเกตว่าการปรับฐานของตลาดคริปโตส่งผลให้ความต้องการกองทุน ETF ลดลง รวมถึงกดดันบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล (DAT) อย่างมาก อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความสนใจในการซื้อยังคงชะลอลงมากกว่าหายไปโดยสิ้นเชิง

สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึง ช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน ข้อมูลจาก CryptoQuant ระบุว่าการถือครอง Bitcoin โดยสถาบันยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2025 ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยต่างเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้าม

การถือครอง Bitcoin ของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนรายใหญ่ ที่มา: CryptoQuant

เหตุผลที่ความแตกต่างนี้สำคัญ

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของตลาดส่งผลลึกซึ้งมากกว่าระดับการเข้าร่วมลงทุน เพราะกิจกรรมของนักลงทุนรายย่อยที่สูงใน ตลาดหุ้น มักสะท้อนถึงสภาวะที่ราคาได้รับอิทธิพลจากอารมณ์นักลงทุน เรื่องราวระยะสั้น กลยุทธ์ไล่ราคา และพฤติกรรมฝูงชน เมื่อบุคคลธรรมดาครองสัดส่วนการซื้อขายสูง ตลาดก็มักตอบสนองต่อปัจจัยใหม่ ๆ ได้รวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คริปโตมองว่าการที่สถาบันครองตลาดมากขึ้นถือเป็นสัญญาณของความเป็นผู้ใหญ่และเสถียรภาพในอนาคต เพราะเมื่อทุนสถาบันเพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องที่ลึกขึ้น ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น และโดยทฤษฎีแล้วมีความผันผวนน้อยลง สถาบันขนาดใหญ่โดยมากมีระยะเวลาลงทุนที่ยาวนานและการบริหารความเสี่ยงที่ดีกว่า ซึ่งอาจทำให้ราคามีโอกาสเติบโตอย่างสม่ำเสมอแทนความผันผวนรุนแรง

ถึงกระนั้น ความคาดหวังสำหรับคริปโตก็ยังคงต้องระมัดระวัง โดย Barclays คาดการณ์ ว่าปี 2026 จะเป็นปีที่ตลาดคริปโตชะลอตัว และในเมื่อขาดปัจจัยกระตุ้นสำคัญ การเติบโตเชิงโครงสร้างจึงดูจำกัด แม้ว่าบรรยากาศทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาจะเป็นมิตรกับคริปโตมากขึ้นในปีนี้ แต่ Barclays มองว่าแนวโน้มดังกล่าวถูกสะท้อนในราคาตลาดไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นกับคริปโตจึงชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างใน ลักษณะของความเสี่ยงที่แสดงออกในแต่ละตลาด กล่าวคือ เมื่อการเข้าร่วมของรายย่อยที่เพิ่มขึ้นทำให้ตลาดหุ้นกลายเป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์มากขึ้น ฐานนักลงทุนสถาบันที่เติบโตของคริปโตกลับสะท้อนถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่มากขึ้น แต่โมเมนตัมกลับไม่ร้อนแรงเท่าเดิม และอีกไม่นานเราจะได้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงชั่วคราวหรือเป็นการเปลี่ยนผ่านระยะยาวเมื่อปี 2026 ใกล้มาถึง

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิดเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ ทั้งนี้เป็นไปตาม แนวทางของ Trust Project ของเรา และโปรดอ่าน ข้อกำหนดและเงื่อนไข, นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ ของเรา

ผู้สนับสนุน
ผู้สนับสนุน