หรือว่า Crypto Winter กำลังจะเกิดขึ้นหลัง Bitcoin กำลังดิ้นรนในตลาดขาลง และสหรัฐพบว่าอัตราการเติบโตของงานในเดือนพฤษภาคมชะลอตัว
Crypto Winter อาจมาถึงแล้วหรือไม่?
เมื่อราคาของ Bitcoin ลดลงอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดมที่เพิ่งทำสถิติไม่สามารถปิดราคาที่ขาขึ้น 9 สัปดาห์ติดต่อกันเป็นประวัติการณ์ จึงเป็นที่มาที่นักวิเคราะห์ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งคำถามว่า “Crypto winter” ใกล้มาเยือนแล้วหรือไม่?
คำว่า “Crypto winter” ถูกบัญญัติขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ในปี 2018 เมื่อราคาของ Bitcoin ลดลงถึง 73% ในช่วงเวลาเพียงปีเดียว ตามมาด้วยความผิดพลาดในการตั้งราคาสำหรับโทเค็นที่เพิ่งสร้างเสร็จที่ด้านบนของตลาดผ่านการเสนอเหรียญเริ่มต้น
หรือจะเป็นเหตุการณ์ที่บริษัท Cryptocurrency ประกาศปลดพนักงาน คนขุดแร่ Bitcoin ซึ่งทำให้ตลาดปั่นป่วนและความเชื่อมั่นลดลงอย่างน่าใจหายในทำให้เกิดการแช่แข็งของตลาด หรือไม่มีการเคลื่อนไหวของตลาด Crypto ในช่วงเวลาดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นสัญญาณในปัจจุบัน
เมื่อกลับมาพิจารณาหลังจากที่ราคาร่วงลง 35% นับตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นสัญญาณว่าอาจถึงเวลาที่จะต้องลดระดับลงอีกครั้ง
มาตรการลดต้นทุน ล่าสุดโดยการแลกเปลี่ยนของ Coinbase และ Gemini แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กำลังกังวลและให้ความสำคัญกับสิ่งนี้
Riot Blockchain หนึ่งในบริษัทขุด Bitcoin ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ขนถ่าย Bitcoin ที่เพิ่งขุดได้ในเดือนพฤษภาคมมากกว่าครึ่ง นอกจากนี้ เมื่อราคาของ BTC ลดลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักขุดจำนวนมากกำลังปิดหรือขายการถือครองของตนเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงาน เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงกดดันกำไรจากด้านต้นทุน
วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น
Bitcoin กำลังดิ้นรนเพื่อหาทิศทางของตนเอง หลังจากรายงานของรัฐบาลสหรัฐ พบว่าอัตราการเติบโตของงานในเดือนพฤษภาคมชะลอตัวลง อาจเป็นสัญญาณว่าการเคลื่อนไหวล่าสุดของ Federal Reserve เพื่อทำให้เศรษฐกิจเย็นลงอาจเริ่มส่งผลกระทบ
ผู้ค้าและนักวิเคราะห์ Crypto ได้ติดตามการกระทำของ Fed เพราะหลายคนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐที่พิมพ์เงินได้มากกว่า 4 ล้านล้านเหรียญในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาได้กระตุ้นราคาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
ดังนั้น การที่ Fed และประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐประกาศให้คำมั่นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อที่ทำความเร็วสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษส่งผลกระทบโดยตรงกับราคาของ Bitcoin และราคาหุ้นที่กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
นอกจากนี้ จากข้อมูลของ MarketWatch ระบุว่าราคาทองคำลดลงหลังจากรายงานว่าการเติบโตของงานเร็วกว่าที่คาดไว้ นักวิเคราะห์กล่าวว่าทองคำจะต่อสู้ดิ้นรนตราบใดที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งในทางทฤษฎีสาเหตุเกิดจากกรณีที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ