มีการใช้เงินดิจิทัลและโทเค็น NFT ทั่วแอฟริกาเพื่อเป็นทุนในโครงการสวัสดิการและการพัฒนา
ตามรายงานของ Reuters โครงการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงวิถีชีวิตในท้องถิ่นและมุ่งเน้นไปที่การศึกษาไฟฟ้าการดูแลสุขภาพและที่อยู่อาศัย
ตามที่ Roselyne Wanjiru นักวิจัยของสมาคมบล็อกเชนเคนยากล่าว ตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสและปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตามมาทําให้ช่องทางการระดมทุนแบบดั้งเดิมลดลงบางส่วนถูกแทนที่ด้วยเงินดิจิทัล
“Cryptocurrency ช่วยลดอุปสรรคในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศและเป็นวิธีที่รวดเร็วในการระดมทุนเพื่อสังคม เพราะดำเนินการได้ง่ายกว่าระบบการเงินแบบเดิม” Wanjiru กล่าว “เราพบว่าบริษัทและนิติบุคคลจํานวนมากขึ้นใช้มันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในชุมชน”
โครงการคริปโต
หลังจากระดมทุนด้วยการขาย NFT ศิลปินและนักเคลื่อนไหวรายหนึ่ง นามว่า Benjamin Von Wong ได้สร้างประติมากรรมสูง 30 ฟุต (9 เมตร) จากขยะที่เก็บรวบรวมในชุมชนแออัด Kibera ของไนโรบี พร้อมกับนักเคลื่อนไหว Casson Trenor และชุมชนผู้ใช้งาน NFT ซึ่งต่อต้านพลาสติก นามว่า Degenerate Trash Pandas นอกจากนี้ Von Wong ยังระดมทุนได้ประมาณ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐสําหรับการติดตั้ง
“การระดมทุนผ่านเงินดิจิทัลเป็นสิ่งใหม่สําหรับเรา” Byrones Khainga ผู้อํานวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิคของ Human Needs Project ซึ่งตั้งอยู่ใน Kibera กล่าว “แต่ตอนนี้ มันทำให้เราเห็นว่าเราดําเนินกิจกรรมเกี่ยวกับสวัสดิการต่อสังคมของเราอย่างไรได้บ้าง เพราะเราได้เห็นแล้วว่าเราสามารถระดมทุนได้เร็วแค่ไหน”
เมื่อต้นปีนี้มูลนิธิ Celo และ Mercy Corps Ventures ได้เปิดตัวโครงการนำร่องไมโครเวิร์คในเคนยาเช่นกัน ทั้งนี้ แพลตฟอร์มนี้เอื้อให้เยาวชนหลายร้อยคนเข้าถึงอาชีพต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการงานขนาดใหญ่หลายโครงการ ซึ่งแยกย่อยเป็นตำแหน่งเล็ก ๆ อีกจำนวนมาก
โดยเยาวชนเหล่านี้จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสกุลดอลลาร์ Celo ซึ่งเป็น stablecoin ที่มีมูลค่าเท่ากับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกส่งไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลโดยตรงเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากของระบบการชําระเงินข้ามพรมแดน
การขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงิน
จากข้อมูลของ Scott Onder กรรมการผู้จัดการอาวุโสของ Mercy Corps Ventures กล่าวว่าเงินดิจิทัลสามารถช่วยผลักดันการรวมทางการเงินโดยการสร้างโอกาสการจ้างงานดิจิทัลใหม่ ๆ รวมถึงการลดต้นทุนการชําระเงินข้ามพรมแดน “เงินดิจิทัลช่วยขจัดอุปสรรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงนี้และมีศักยภาพในการสร้างวิธีใหม่ๆ สําหรับคนหนุ่มสาวในการสร้างรายได้ ใช้จ่าย ประหยัด และโอนเงิน” เขากล่าวในแถลงการณ์
จากข้อมูลของ UNCTAD หน่วยงานการค้าแห่งสหประชาชาติพบว่าส่วนแบ่งการเป็นเจ้าของ Cryptocurrency สูงสุดทั่วโลกสามารถพบได้ในแอฟริกา รวมถึงในแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และเคนยา การชําระเงินและการโอนเงินแสดงให้เห็นว่าการใช้งานเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในสามประเทศข้างต้น ในเคนยาเพียงอย่างเดียว ประมาณ 8.5% จากประชากร 56 ล้านคนถือครองเงินดิจิทัลตามข้อมูลของ UNCTAD ในขณะเดียวกันสาธารณรัฐแอฟริกากลางได้นํา Bitcoin มาใช้เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในเดือนเมษายน 2022
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ