แพลตฟอร์มคริปโต DBS Digital ได้รายงานปริมาณการซื้อขายคริปโตซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเดือนมิถุนายนโดยคําสั่งซื้อคิดเป็น 90% ของการซื้อขายที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ปริมาณ Bitcoin ที่ซื้อโดยสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าตั้งแต่เดือนเมษายนในขณะที่จํานวน Ethereum เพิ่มขึ้น 65%
สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเมื่อการล่มสลายของโครงการ Stablecoin Terra ทําให้เกิดคลื่นการชําระบัญชีการล้มละลายและการปลดพนักงานในภาคส่วนคริปโต
Lionel Lim ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ DBS Digital Exchange กล่าวกับ Bloomberg ว่านักลงทุนในปัจจุบันกําลังมองหาพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อซื้อขายและจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของตนแทนท่ามกลางความผันผวนของตลาดที่กําลังดําเนินอยู่
บริษัทยังระบุด้วยว่าตนกําลังดําเนินการในหลายโครงการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการให้นักลงทุนรายย่อยมีการซื้อขายคริปโต ปัญหาทางเทคนิคและการต่อต้านด้านกฎระเบียบถูกอ้างว่าเป็นสาเหตุของการขาดความก้าวหน้าในวงการคริปโต
ธนาคาร DBS เปิดรับแนวคิดในการควบคุมคริปโตเคอเรนซี
Piyush Gupta ซีอีโอของ DBS Bank Group ซึ่งเป็นหนึ่งในวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสิงคโปร์กล่าวว่าธนาคารกลางทั่วโลกควรเริ่มควบคุมสกุลเงินดิจิทัลและขจัดความกลัวว่าสกุลเงินดิจิทัลจะแทนที่เงินปกติ
Gupta แนะนําว่าหน่วยงานการเงินของสิงคโปร์ (MAS) มองหาวิธีควบคุมสกุลเงินดิจิทัลอย่างเหมาะสมหลังจากออกคำแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ
ผู้ว่าการแห่ง DBS ยังปฏิเสธความกังวลว่าสกุลเงินดิจิทัลและโทเค็น NFT (NFT) หรือ Stablecoin จะเข้ามาแทนที่เงินสด โดยเขาอธิบายว่าสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางข้ามพรมแดน (CBDC) สามารถใช้ในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างไรบ้าง
Gupta กล่าวว่า CBDC ยังคงประสบปัญหา เช่น “ถ้าเอาตรง ๆ นะ พลเมืองทุกคนเปิดบัญชีโดยตรงกับธนาคารกลางและมันจะทำการชำระเงินโดยใช้ CBDC โดยตรง”
สิงคโปร์พิจารณาวิธีควบคุมการซื้อขายคริปโตแบบค้าปลีก
MAS ก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องกฎระเบียบเพื่อออกกฎเกี่ยวกับการกํากับดูแลและสร้างแนวทางสําหรับประชาชน MAS ได้เตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องว่าการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในฐานะผลิตภัณฑ์การลงทุน ทั้งยังไม่เหมาะสําหรับประชาชน
ในเดือนมกราคม MAS ได้ออกคําแนะนําที่จํากัดการสนับสนุนบริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลต่อสาธารณะ ในเดือนเดียวกันนั้น ผู้ให้บริการเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) คริปโตเคอเรนซีในสิงคโปร์เริ่มปิดตู้เอทีเอ็มของพวกเขาหลังจากถูกแบนการใช้งานในสิงคโปร์
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ