งานวิจัยที่เพิ่งเปิดเผยล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์บล็อคเชนอย่าง Chainalysis ได้วิเคราะห์ผลกำไรจากซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจากทั่วโลกในปีที่แล้ว พบว่า Ethereum ลอยลำ
รายงานที่ชื่อว่า “2021 Cryptocurrency Gains by Country” ของ Chainalysis ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกำไรสูงสุดเรียงตามประเทศและประเภทของสินทรัพย์คริปโตที่สร้างรายได้ดีที่สุด ทั้งนี้ การวิจัยเผยให้เห็นถึงผลตอบแทนจากการลงทุนที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละประเทศตามประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัล “ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือผลตอบแทนจาก Ethereum”
ผลตอบแทนจาก Ethereum แตะ 76,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากข้อมูลที่มีเปิดเผยนั้น ผลตอบแทนทั้งหมดที่ได้จาก Ethereum ค่อนข้างสูงกว่าจาก Bitcoin ในช่วงที่ผ่าน กล่าวคือ กำไรของ Ethereum อยู่ที่ 76,300 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก เทียบกับ 74,700 ล้านดอลลาร์สำหรับ Bitcoin สาเหตุมาจาก ความต้องการบริโภค DeFi โดยมี Ethereum ทำหน้าที่เป็นมาตรฐานสากล
“เราเชื่อว่านี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ Ethereum อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของ DeFi ในปี 2021 เนื่องจากโปรโตคอล DeFi ส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนฐานของ Ethereum blockchain และใช้ Ethereum เป็นสกุลเงินหลัก”
ราคา ETH เพิ่มขึ้น 400% ในปี 2021 ในขณะที่ Bitcoin นั้นขึ้นเพียง 62% ในรอบสิบสองเดือน
ผลกำไรจากคริปโตในแต่ละประเทศ
Chainalysis รายงานว่านักลงทุนทั่วโลกได้รับผลกำไรรวม 162,700 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้น 400% จากเพียง 32,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2020
นอกจากนี้ ยังเสริมว่าสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำที่ชัดเจนในการได้ทำกำไรได้จากคริปโต ด้วยยอด 47,000 ล้านดอลลาร์หรือ 29% ของทั้งหมด โดยมีสหราชอาณาจักร เยอรมนี และญี่ปุ่นตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม จีนอยู่ในอันดับที่ห้าสำหรับกำไรจากคริปโตด้วยยอดเงิน 51,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งค่อนข้างแปลกเนื่องจากการซื้อขายถูกห้ามในสาธารณรัฐประชาชน โดยระบุว่า “การซื้อขายในประเทศจีนลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ”
สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี มียอดผลกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 400% จากกำไรในปี 2020 ในขณะที่การผลตอบแทนของจีนต่ำกว่า 200%
งานวิจัยพบว่ามีหลายประเทศที่มีผลการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลโดยรวมซึ่งดูเหมือนจะสูงกว่าผลประเมินในดัชนีประมวลเศรษฐกิจความมั่งคงปกติ โดยประเทศเหล่านั้น ได้แก่ ตุรกี เวียดนาม ยูเครน สาธารณรัฐเช็ก และเวเนซุเอลา
2022 การเติบโตแบบทุลักทุเล
ตลาดซื้อขายคริปโตเติบโต 196% คิดเป็น 154 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดโดยรวมดูจะลดลงในปีนี้
CoinGecko เผยว่านับตั้งแต่ต้นปี ราคาซื้อขายในตลาดลดลง 13.7% โดยเงินทุนราว 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหายไปจากตลาดคริปโตนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 ทำให้ตัวเลขตลาดสามารถลดลงมาเหลือที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ได้
อีกปลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตแบบทุลักทุเลในปี 2022 นั้นส่วนหนึ่งมาจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นของระบบสำรองเงินตราของรัฐบบาลกลางเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางรายเชื่อว่าความล้มเหลวของธนาคารกลางเป็นสัญญาณที่ดีในการเติบโตของตลาดคริปโต
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
