รายงานจาก United States Federal Reserve Board เผยว่านักลงทุนใน Cryptocurrency ส่วนใหญ่ยังถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อจุดประสงค์ด้านการลงทุนและส่วนใหญ่มีแนวโน้มกลายเป็นผู้ทำรายได้สูง
United States Federal Reserve Board เผยแพร่รายงาน Economic Well-Being of the U.S. Households report เมื่อปี 2021 และมีหลายประเด็นที่ต้องการจะกล่าวถึงการใช้งานเงินดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา ทาง Federal Reserve Board ต้องการจะเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ทำให้เงินดิจิทัลอยู่ในแบบสำรวจเป็นครั้งแรก
รายงานเน้นย้ำว่าเงินดิจิทัลถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการลงทุนเป็นหลัก มากกว่าเพื่อทำธุรกรรมหรือชำระหนี้สิน นอกจากนี้ มีผู้ใหญ่เพียงร้อยละ 3 ที่ใช้ในการจับจ่ายสินค้าและโอนค่าธุรกรรมต่าง ๆ
แต่ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจที่สุดจากรายงานฉบับนี้น่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ถือครองคริปโตส่วนใหญ่เพื่อจุดประสงค์ด้านการลงทุนเป็นผู้มีรายได้สูง โดยร้อยละ 46 มีรายได้เกิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ร้อยละ 29 มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขเหล่านี้ทำให้เห็นว่ายังมีโอกาสสำหรับการหันมาเลือกลงทุนในเงินดิจิทัลอยู่ ทั้งนี้ มีผู้ใหญ่เพียงร้อยละ 12 ที่เคยถือครองหรือใช้งาน Cryptocurrency ในปี 2021 หากเงินดิจิทัลสามารถหาจุดแข็งของตนได้ จะทำให้ผู้คนหันมาใช้งานมากขึ้น แม้ในปัจจุบันตัวเลขผู้ใช้งานจะยังไม่สูงมากนัก
เมื่อกล่าวถึงสถานการณ์ของผู้ถือครองคริปโตด้วยรวม สภาพความเป็นอยู่ทางการเงินอยู่ในจุดสูงสุดนับตั้งแต่แบบสำรวจถูกสร้างตั้งแต่ปี 2013 แม้จะมีพาดหัวข่าวเรื่องเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ผู้ใหญ่ร้อยละ 48 ที่ประเมินเศรษฐกิจท้องถิ่นว่าอยู่ในสภาพดีหรือยอดเยี่ยม
คริปโตเติบโตแม้ตลาดวุ่นวาย
Federal Reserve ให้ความสำคัญกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น โดยร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ความนิยมที่เพิ่มขึ้นได้บังคับให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่จะรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ในส่วนนี้ Fed กำลังพิจารณาใช้งานสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง
นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนเชื่อว่าทีท่าของ Federal Reserve จะนำไปสู่ราคาคริปโตและราคาทองที่เพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ซึ่งถือเป็นอัตราการเพิ่มดอกเบี้ยที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000
ตลาดคริปโตเติบโตควบคู่ไปกับตลาดอื่น ๆ และยังได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับการเงินรูปแบบปกติ บรรดาผู้ออกกฎหมายต่างกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครองนักลงทุนและผลกระทบที่คาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งกลายเป็นความสนใจเชิงกฎเกณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน หากมีการใช้งานมากขึ้นและมูลค่าในตลาดมีความสวิงสวาย ความสนใจดังกล่าวควรจะกลายเป็นกฎหมายในที่สุด
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ