ตามรายงานของ CNBC แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต อย่าง FTX และบริษัทชำระเงินข้ามพรมแดน Ripple (XRP) กำลังมองหาโอกาสในการควบรวมกิจการเพื่อเพิ่มฐานผู้ใช้ แม้ว่าตลาดคริปโตจะอยู่ในจุดวิกฤต แต่พวกเขาเชื่อว่าการสร้างผู้ใช้งานใหม่ยังเป็นไปได้
การเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพอาจเป็นโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มรายได้และจำนวนผู้ใช้ของบริษัทในช่วงที่ตลาดตกต่ำ กล่าวคือ ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากำลังปิดตัวลงในเมืองเซี่ยงไฮ้ในเดือนเมษายน 2022 9.2% การเข้าซื้อกิจการ 9.2% ของ Twitter ของ Elon Musk ช่วยให้โทเค็นดิจิทัลของเทสลาสามารถรักษาราคาไว้ได้ และอาจเพิ่มขึ้นในบางจุด
ข้อมูลจาก CNBC เผยว่าในทำนองเดียวกัน Ripple และ FTX รู้สึกมั่นใจว่าตนมีทุนเพียงพอ เข้าซื้อสตาร์ทอัพเพื่อขยายกิจการและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้งานของตนแม้ว่าสถานการณ์คริปโตจะไม่สู้ดีนัก
Brett Harrison ประธานของ FTX.US กล่าวกับ CNBC ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งว่าบริษัทของตนยังคงประคองตนได้แม้ และมองหาช่องทางควบรวมกิจการอื่น ๆ นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Harrison เผยว่า FTX ต้องการผู้ใช้งานหรือใบอนุญาตทางกฎหมายมากขึ้นผ่านการเข้าซื้อบริษัทอื่น ๆ
“เราทำแบบนี้ในทุกประเทศที่ดำเนินการเลย ทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ดูไบ เราอาจจะจับมือกับบริษัทท้องถิ่นหรือซื้อบริษัทนั้น ๆ เพื่อให้ได้ใบอนุญาตบางอย่าง ทำให้เราไม่ต้องขอเอง” Harrison กล่าว
ข้ออ้างเหล่านี้ปรากฎขึ้นในขณะที่ผู้ก่อตั้ง FTX และ Sam Bankman-Fried ผู้เป็น CEO ได้ประกาศว่าจะลงทุนอีก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะมาถึง ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม FTX สาขาสหรัฐอเมริกาได้นำเข้าแพลตฟอร์มเวอร์ชันเบตาที่สามารถใช้ซื้อขายหุ้นได้โดยปลอดคอมมิชชัน
นอกจากนี้ Bankman-Fried ได้ซื้อหุ้นไปร้อยละ 7.6 ในตลาด Robinhood เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2022 การลงทุนครั้งนี้ช่วยให้ส่วนแบ่งของ Robinhood เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 ในขณะที่ CEO ของ FTX กล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์พิเศษใด ๆ
ปัญหาของ Ripple อาจสิ้นสุดลงในไม่ช้า
ข้อมูลจาก CNBC เผยว่าแม้ Ripple จะมีปัญหาเชิงกฎหมายกับ U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) แต่ Brad Garlinghouse ผู้เป็น CEO ของ Ripple อ้างว่าพวกเขายัง “ทำกำไรได้เพียงพอ” ที่จะเข้าซื้อหรือควบรวมสตาร์ตอัพต่าง ๆ
“ผมคิดว่าจะเกิดกระแสเข้าซื้อและควบรวมกิจการในแวดวงบล้อกเชนและคริปโต แต่เรายังไม่ได้เห็นมันตอนนี้ แต่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เราจะหันมาพิจารณาตัวเลือกนี้” Garlinghouse กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ที่ World Economic Forum (WEF) ณ กรุง Davos ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
CEO ของ Ripple ยังกล่าวว่าตนกำลังสำรวจการขายหุ้นให้สาธารณะ (Initial Public Offering – IPO) เมื่อคดีฟ้องร้อง SEC เรื่องเงินมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสิ้นสุด โดยเขากล่าวว่าบริษัทของตนอยู่ในช่วงเติบโต ซึ่งเราควรจะอยู่ในสถานะของผู้ซื้อมากกว่าผู้ขาย”
นอกจากนี้ รายงานจาก PricewaterhouseCoopers’ (PwC) ยังชี้ให้เห็นว่าอัตราการเข้าซื้อและควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2021 คิดเป็นมูลค่า 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ตัวเลขลักษณะดังกล่าวในปี 2020 คิดเป็น 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
