ราคา HBAR เสี่ยงร่วง 28% หลังรูปแบบ Bear Flag ถูกทำลาย แต่ยังมีปัจจัยหนึ่งให้ความหวัง

ราคา HBAR ยังคงสร้างความผิดหวังอย่างต่อเนื่อง โดยโทเคนนี้ลดลงประมาณ 26% ตลอดเดือนที่ผ่านมา และร่วงลงเกือบ 67% เมื่อเทียบกับปีต่อปี สะท้อนถึงความอ่อนแอที่ต่อเนื่องทั้งด้านราคาและการมีส่วนร่วม ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำให้ขณะนี้มีความสำคัญมากขึ้นก็คือ HBAR กำลังซื้อขายอยู่ในโซนที่อาจกลับไปทดสอบระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนที่เคยเกิดขึ้นครั้งล่าสุดในเดือนตุลาคม 2024 อีกครั้ง

กราฟเทคนิคแสดงสัญญาณชัดเจนว่าราคาได้หลุดแนวรับหลัก ขณะที่แรงซื้อก็ค่อย ๆ ลดน้อยลงเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขหนึ่งที่ต่างจากปกติกลับบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงนี้อาจใกล้หมดแรงแล้ว ซึ่งคำถามสำคัญตอนนี้คือแล้วปัจจัยบริบทนี้จะทำให้ภาพใหญ่เปลี่ยนไปได้หรือไม่

สัญญาณการทะลุ Bear Flag ชี้ความเสี่ยงแนวโน้มต่อเนื่อง

บนกราฟ 4 ชั่วโมง HBAR ได้ยืนยันการหลุดจากรูปแบบ bear flag อย่างสมบูรณ์แบบ โดย bear flag นั้นเกิดขึ้นเมื่อราคาดิ่งลงอย่างแรง ตามมาด้วยการแกว่งในกรอบแคบที่มีทิศทางขึ้นหรือออกข้างเล็กน้อย แล้วหลังจากนั้นจึงดิ่งต่อ ซึ่งถือเป็นสัญญาณต่อเนื่อง ไม่ใช่สัญญาณกลับตัว

ราคาของ HBAR ได้หลุดกรอบ flag ลงมาสั้น ๆ ใกล้ระดับ 0.109 USD โดยราคาก็ยังอยู่ในโซนนั้นโดยไม่มีการรีบาวด์อย่างเห็นได้ชัด

การยืนต่ำกว่าระดับนี้จึงมีความสำคัญสูง โดยถ้าใช้ความสูงของเสาธงตั้งต้น ก็จะคาดการณ์ว่าการหลุดแนวรับรอบนี้อาจนำไปสู่การปรับตัวลงราว 28% นับจากกรอบบนของ flag และจากระดับปัจจุบัน หมายถึงเป้าหมายอยู่แถวโซน 0.068 USD อย่างไรก็ตาม หากแท่งเทียน 4 ชั่วโมงสามารถปิดเหนือเส้นแนวโน้มล่างของ bear flag ได้ ความเสี่ยงด้านขาลงก็อาจจะอ่อนกำลังลงชั่วคราว

ระดับนี้สอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับโซนต่ำสุดที่เคยซื้อขายช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2024 ด้วยเหตุนี้ การร่วงครั้งนี้จึงมีความเสี่ยงจะเกิดจุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน ไม่ใช่แค่การลงระยะสั้น

หลักฐานยืนยันลำดับถัดไปก็มาจากข้อมูลการไหลของเหรียญในกระดานเทรด ซึ่งแรงซื้อก็อ่อนแรงลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ข้อมูล net outflow แสดงสัญญาณของการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมี HBAR ออกจากกระดานแลกเปลี่ยนกว่า 4.09 ล้านเหรียญ แต่หลังจากนั้น พฤติกรรมดังกล่าวก็ถดถอยลงเรื่อย ๆ โดยจนถึงวันที่ 24 ธันวาคม net outflow เหลือเพียง 314,830 HBAR เท่านั้น

นั่นคือการลดลงมากกว่า 92% ของแรงซื้อสุทธิในตลาด

พูดง่ายๆ คือ แม้ว่าราคาจะปรับตัวลดลง แต่ผู้ซื้อไม่ได้เข้ามาด้วยความมั่นใจ ตรงกันข้ามกัน กระแสเงินเข้าเปลี่ยนเป็นบวกเป็นระยะๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงขายกลับมาอย่างรวดเร็วหลังจากเกิดการย่อตัวเพียงเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนถึงการเทขายด้วยความตื่นตระหนก เมื่อสัญญาณ bear flag แตกและแรงซื้อหายไปพร้อมกัน ความน่าจะเป็นในการเคลื่อนไหวต่อเนื่องจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมการร่วงลงครั้งนี้จึงไม่ได้ดึงดูดกลุ่มนักซื้อจังหวะย่อตัวแบบรุนแรง เพราะตลาดยังไม่มองเห็นว่าบริเวณนี้มีมูลค่า

ความเห็นกลุ่มน้อยชี้ขาลงอาจมีคนแออัด

ปัจจัยถ่วงดุลเดียวที่ต้านทานแนวโน้มขาลงนี้ได้ มาจากเรื่องความรู้สึกของนักลงทุน

คะแนนความรู้สึกเชิงบวกทางโซเชียลของ HBAR ลดลงจากจุดสูงสุดใกล้ 76.97 ในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนเหลือประมาณ 1.62 ในขณะนี้ ซึ่งเป็นการลดลงเกือบ 98% และสะท้อนถึงความเฉยเมยอย่างยิ่งมากกว่าความกระตือรือร้นอย่างตื่นตระหนก

ตามประวัติแล้ว เมื่อคะแนนความรู้สึกตกต่ำเช่นนี้มักนำไปสู่การดีดตัวชั่วคราวในระยะสั้น เช่น เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ขณะที่คะแนนความรู้สึกแตะจุดต่ำสุด HBAR ราคาได้พุ่ง จากประมาณ 0.17 USD ไปสู่ 0.19 USD ในหนึ่งวัน ซึ่งคิดเป็นการปรับตัวขึ้นประมาณ 12% และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม คะแนนความรู้สึกอ่อนแรงอีกครั้งก่อนที่ราคาจะขยับจาก 0.13 USD ไป 0.14 USD หรือเพิ่มขึ้นราว 14% ภายในสองวัน

ต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ token แบบนี้อีกใช่หรือไม่ สมัครรับจดหมายข่าว Daily Crypto ของ Editor Harsh Notariya ได้ ที่นี่

นี่คือสัญญาณที่นอกกรอบซึ่งยังคงให้ความหวัง

อย่างไรก็ตาม บริบทก็สำคัญ เพราะการเด้งขึ้นเหล่านั้นเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเชิงโครงสร้างยังไม่รุนแรง และยังมีแรงซื้อหลงเหลืออยู่ แต่ทุกวันนี้ ความรู้สึกนักลงทุนกลับถดถอยควบคู่ไปกับสัญญาณ bear flag ที่ได้รับการยืนยันว่าทะลุลงและอุปสงค์หายไป นั่นจึงทำให้สัญญาณนี้ไม่น่าเชื่อถือเท่าเดิม

ในตลาดที่อ่อนแอ ความรู้สึกเชิงลบที่รุนแรงสามารถอยู่ได้นานเกินความคาดหมายของเรา

ราคา HBAR จะเป็นอย่างไรต่อไป

ราคาของ HBAR ขณะนี้อยู่ในจุดเปลี่ยนที่สำคัญ สัญญาณหลักยังคงเป็นขาลง ได้แก่ การเกิดสัญญาณ bear flag แตก แรงซื้อที่หายไป และการที่ราคาหลุดต่ำกว่าระดับแนวรับสำคัญ ดังนั้นตราบใดที่ราคายังอยู่ต่ำกว่า 0.109 USD ความเสี่ยงขาลงไปยังโซน 0.079 USD และอาจต่อเนื่องถึง 0.068 USD (ตามกราฟ 4 ชั่วโมง) ก็ยังมีอยู่

สิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรคต่อเส้นทางนี้คือความเหนื่อยล้าทางความรู้สึก อย่างไรก็ตาม ถ้าความเห็นเชิงลบกระตุ้นการซื้อเก็งกำไรในช่วงที่ราคาตกลงมาอีกครั้ง HBAR อาจเกิดการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นแต่ถ้าไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างชัดเจน การดีดตัวนี้ก็อาจจะจางหายไป ยกเว้นว่าราคาจะสามารถกลับไปยืนเหนือระดับ 0.155 USD ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงได้