กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยืนยันว่าการตกต่ำของตลาด Cryptocurrency ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางการเงินทั่วโลก
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม หน่วยงานระหว่างประเทศได้เน้นย้ำถึงการรุกรานของรัสเซียต่อยูเครนและการล็อกดาวน์จากไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ว่ามันเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลก พวกเขาเชื่อว่าการแยก Bitcoin ออกจากระบบธนาคารทั่วไปจะทำให้มันไม่ก่อให้เกิดอันตรายที่คล้ายคลึงกัน
ท่าทีนี้นั้นขัดกับความรู้สึกที่พวกเขาก่อนหน้านี้ ซึ่งในเดือนเมษายน 2019 Christine Lagarde ซึ่งเป็นประธานของ IMF กล่าวว่า Cryptocurrency นั้นมีผลกระทบอย่างยิ่งต่อระบบการเงินและกำลังยกระดับภาคการธนาคาร
ในเดือนตุลาคม 2021 กองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่า Cryptocurrency คุกคามความมั่นคงทางการเงินทั่วโลกและเรียกร้องให้เหล่าบริษัท Crypto ทั่วโลกอยู่ภายใต้การกำกับดูแล โดยเน้นย้ำถึงการคุ้มครองนักลงทุนในส่วนของ Crypto และ DeFi และประเด็นเรื่องเงินสำรองที่ไม่เพียงพอสำหรับ Stablecoin ที่ออกโดยภาคเอกชนว่าเป็นประเด็นที่สำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบาย
ผลกระทบอาจจะส่งผลตรงกันข้ามได้หรือไม่?
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในพื้นที่ Crypto ต้องเผชิญหน้ากับโรคติดต่อร้ายแรงซึ่งได้แพร่กระจายออกไปและลุกลามเร็วเหมือนไฟป่า ทั้งบริษัท Crypto และกองทุนบริหารความเสี่ยงอย่าง Three Arrows Capital และผู้ให้บริการสินเชื่อ Crypto อย่าง Celsius ต้องยื่นขอล้มละลาย
ภัยคุกคามจากภาวะถดถอยผลักดันให้นักลงทุน Crypto จำนวนมากขายสินทรัพย์ Crypto ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง ทำให้ราคาของ Bitcoin ลดต่ำลงถึง 17,000 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2022 ซึ่งก่อให้เกิดปัญหากับหลักประกันสินเชื่อ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อตลาด Crypto เหล่านี้ส่งผลต่อตลาดการเงินแบบดั้งเดิมน้อยมาก แม้ว่านักลงทุนจะประสบกับการขาดทุนเป็นอย่างมากก็ตาม
แต่สิ่งนี้ขัดแย้งกับรายงานที่ตีพิมพ์ในเดือนมกราคม 2022 ในหัวข้อ “Cryptic Connections: Spillovers between Crypto and Equity Markets” โดยสังเกตว่าราคา Crypto เริ่มสัมพันธ์กับหุ้นและส่งผลกระทบต่อตลาดโลก อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวมีข้อจำกัดความรับผิดชอบ โดยระบุว่าสิ่งที่ค้นพบนี้เป็นผลงานของผู้เขียน และไม่ใช่ความคิดเห็นของ IMF
ราคา Cryptocurrency ได้ปรับตัวขึ้นก่อนหุ้นเป็นครั้งคราวแทนที่จะส่งผลกระทบในทางลบ มันจึงเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะกลับมาซื้อ Bitcoin อีกครั้ง และหุ้นก็จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอย ในกรณีดังกล่าว สกุลเงินดิจิทัลสามารถแยกตัวออกความสัมพันธ์ดังกล่าวได้
ความกังวลที่จะแยก Crypto ออกจาก TradFi
ในเดือนมิถุนายน European Systemic Risk Board กล่าวว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลอาจจะส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรวดเร็วต่อตลาด และแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างสม่ำเสมอว่าตลาดการเงินมีความเสี่ยงต่อสกุลเงินดิจิทัลและการเงินแบบกระจายอำนาจมากเพียงใด
หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังต่อสู้กับการที่ธนาคารจะมีส่วนร่วมในการใช้งาน Crypto ได้ Basel Committee on Banking Supervision ได้เสนอแนะว่าธนาคารควรถือ Bitcoin ในจำนวนที่จำกัด และกำหนดข้อกำหนดด้านเงินทุนซึ่งจะจำกัดการให้บริการสินเชื่อแบบที่มี Crypto สนับสนุนได้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ