เจ้าหน้าที่ของอินเดียได้เริ่มปฏิบัติการปราบปรามครั้งใหญ่ต่อโครงการ Ponzi ด้านคริปโตที่ถูกกล่าวหาว่าสร้างความเสียหายแก่ผู้ลงทุนเป็นจำนวนราว 254 ล้าน USD
กรณีนี้สะท้อนปัญหาระดับโลกที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เมื่อการแฮกคริปโตในปี 2025 เพิ่มสูงขึ้น การหลอกลวงก็เพิ่มขึ้นควบคู่กันด้วย โดยผู้ไม่หวังดีที่มีความชำนาญมากขึ้นต่างก็แสวงหาประโยชน์จากผู้ถือสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านวิธีการโกงที่มีเป้าหมายและซับซ้อน
Sponsoredทางการอินเดียเปิดโปงแชร์ลูกโซ่คริปโตหลายแพลตฟอร์ม
สำนักงานบังคับใช้กฎหมายของอินเดีย (ED) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตรวจค้นในพื้นที่ 8 แห่ง ในรัฐหิมาจัลประเทศและปัญจาบ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันการฟอกเงิน (PMLA) โดยการสอบสวนครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่อธิบายว่าเป็นโครงการ Ponzi และการตลาดแบบหลายชั้น (MLM) ขนาดใหญ่ที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซีปลอมในการหลอกลวงนักลงทุนหลายแสนราย
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ ED นักลงทุนสูญเงินประมาณ 2,300 ล้านรูปี หรือประมาณ 254 ล้าน USD ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน สำหรับโครงการนี้ ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการโดย Subhash Sharma ซึ่งได้หลบหนีออกจากอินเดียในปี 2023
ED ได้เริ่มการสอบสวนจากการที่สถานีตำรวจในรัฐหิมาจัลประเทศและปัญจาบหลายแห่งได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ Subhash Sharma ผู้บงการของโครงการหลอกลวงนี้รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องตามมาตราต่าง ๆ ของ IPC, 1860 พระราชบัญญัติ Chit Funds ปี 1982 พระราชบัญญัติห้ามระบบฝากเงินที่ไม่ได้รับการกำกับดูแล ปี 2019 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามรายงาน ข่าวประชาสัมพันธ์
เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวหาว่า Sharma และบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ก่อตั้งและดำเนินโครงการเหล่านี้ผ่าน หลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Korvio, Voscrow, DGT, Hypenext และ A-Global โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้ถือเป็นระบบที่สร้างขึ้นเองและไม่ได้ถูกกำกับดูแล ซึ่งดำเนินกลไกเสมือน โครงการ Ponzi แบบคลาสสิก
Sponsored Sponsoredเจ้าหน้าที่ระบุว่านักลงทุนที่ขาดประสบการณ์ถูกหลอกล่อด้วยคำสัญญาผลตอบแทนที่สูงเกินจริง
ED ยังเปิดเผยอีกว่าผู้ต้องหาได้ทำการปรับเปลี่ยนราคาของ token สมมติอย่างฉ้อฉล รวมถึงเปลี่ยนชื่อ สร้างและปิดแพลตฟอร์มเป็นระยะ เพื่อปกปิดการฉ้อโกง
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเหล่านี้ถูกฟอกผ่านการเก็บเป็นเงินสด บริษัทนอมินี รวมถึงบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ต้องหาและญาติของพวกเขา
จากข่าวประชาสัมพันธ์ มีการระบุว่ามีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากทำหน้าที่เป็นตัวแทนรับค่านายหน้า และแต่ละคนสามารถทำเงินจำนวนมากจากการดึงนักลงทุนรายใหม่เข้าสู่โครงการนี้ นอกจากนี้ เครือข่ายดังกล่าวยังถูกกล่าวหาว่าใช้สิ่งจูงใจจากการเดินทางต่างประเทศและกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อเร่งเพิ่มจำนวนสมาชิกและขยายขอบเขตการดำเนินงานอีกด้วย
แม้จะมีคำสั่งอายัดที่ออกเมื่อ 04-11-2023 โดยหน่วยงานที่มีอำนาจ (โดยอ้างอิงจากการสอบสวนของตำรวจรัฐ) และได้แจ้งต่อเลขาธิการกระทรวงการคลัง ศาลที่เคารพ และหน่วยงานด้านรายได้ของรัฐบาลปัญจาบอย่างเหมาะสมแล้ว แต่ที่ดิน 15 แปลงในเมือง Zirakpur รัฐปัญจาบกลับถูกขายโดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม (โดยตำรวจรัฐหิมาจัลประเทศในปี 2025) คือ Vijay Juneja โดยฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดเจน อ้างอิงจากคำกล่าวของ ED
ต่อเนื่องจากการตรวจค้น ED ได้ยืนยันว่าได้อายัดตู้เซฟสามตู้ ยอดเงินในบัญชีธนาคาร และเงินฝากประจำ รวมเป็นมูลค่าประมาณ 1.2 สิบล้านรูปี (ประมาณ USD 132,000)
Sponsored Sponsoredนอกจากนี้ ยังได้ยึดเอกสารต้องสงสัยหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเบนามี ซึ่งถูกได้มาโดยกลุ่มผู้ต้องหาโดยใช้ PoC ที่สร้างขึ้นผ่านโครงการแชร์ลูกโซ่ ฐานข้อมูลนักลงทุน โครงสร้างค่าคอมมิชชัน พร้อมทั้งอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการสร้างและฟอก PoC ในวงกว้าง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ยืนยันด้วยว่าการสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป
วิกฤตการณ์หลอกลวงคริปโตทั่วโลกพุ่งสูง
การปราบปรามในประเทศอินเดีย เกิดขึ้นท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของการฉ้อโกงคริปโตทั่วโลก เมื่อเดือนที่แล้ว BeInCrypto รายงานว่า กลุ่มมิจฉาชีพในประเทศออสเตรเลียได้ปลอมแปลงรายงานอาชญากรรมไซเบอร์และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขโมยทรัพย์สินของเหยื่อ
Sponsoredผู้กระทำผิดเหล่านี้ยังปรับกลยุทธ์ให้เหนือชั้นขึ้น โดยมีแนวโน้มที่จะ ออกแผนฉ้อโกงในช่วงวันหยุด ที่การซื้อขายออนไลน์และธุรกรรมดิจิทัลมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ รายงานอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตประจำปี 2024 ของ FBI ได้ บันทึกเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 150,000 เรื่อง
ความสูญเสียรวมทั้งสิ้น 9.3 พันล้าน USD เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 การฉ้อโกงการลงทุนก่อให้เกิดความเสียหาย 5.8 พันล้าน USD และตามข้อมูลของ TRM Labs การหลอกลวงเกี่ยวกับคริปโตได้ดูดเงินไปอย่างน้อย 53 พันล้าน USD ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา
หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกต่างเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย โดยมาตรการของอินเดียสะท้อนให้เห็นถึงขบวนการขนาดใหญ่ที่มุ่งดำเนินคดีกับมิจฉาชีพและทวงคืนเงินทุน อย่างไรก็ตาม อุปสรรคยังคงอยู่ เพราะเมื่อคริปโตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น การแข่งขันระหว่าง กลุ่มมิจฉาชีพและผู้ต่อสู้กับการฉ้อโกง ก็ยังคงดำเนินต่อไป