ตามรายงานของ Bitwise Investments ทุนสถาบันที่ไหลเข้าสู่ Bitcoin (BTC) จะถึง 426.9 พันล้าน USD ภายในปี 2026
การไหลเข้าของทุนนี้จะเทียบเท่ากับประมาณ 4.2 ล้าน BTC ซึ่งคิดเป็น 20% ของอุปทานทั้งหมดที่อาจถูกซื้อโดยประเทศ บริษัท และแพลตฟอร์มการจัดการสินทรัพย์ภายในเวลานั้น
การยอมรับ Bitcoin ของสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตามรายงานของ Bitwise Investments เอลซัลวาดอร์ ปัจจุบันถือครอง 6,133 BTC มูลค่า 521 ล้าน USD ขณะที่จีนมี 190,000 BTC มูลค่าเกือบ 16.1 พันล้าน USD แม้ว่าจะห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลก็ตาม สหรัฐอเมริกานำหน้าโดยมี 198,012 BTC มูลค่าประมาณ 16.8 พันล้าน USD

แพลตฟอร์มการจัดการสินทรัพย์หลักอย่าง Morgan Stanley และ Fidelity ได้เข้าร่วมอย่างแข็งขันตั้งแต่ปี 2024 โดย BlackRock’s Bitcoin ETF (IBIT) จัดการ Bitcoin มูลค่า 71 พันล้าน USD Strategy ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันชั้นนำในการถือครอง Bitcoin ได้เพิ่มการถือครองเป็น 576,230 BTC มูลค่า 63.7 พันล้าน USD คิดเป็น 2.74% ของอุปทานทั้งหมดและ ยังคงสะสมต่อไป
ผู้มาใหม่อย่าง Metaplanet ก็พยายาม รวบรวมหรือรวม BTC เป็นสินทรัพย์ในงบดุลของพวกเขา

รัฐในสหรัฐอเมริกาเช่น เท็กซัส ไม่ได้นั่งเฉยๆ กองทุนบำนาญครูของรัฐลงทุน 500 ล้าน USD ใน Bitcoin ETFs กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เช่น Norges Bank ของนอร์เวย์และ Abu Dhabi Investment Authority ก็ได้ทดลองจัดสรร Bitcoin เช่นกัน
การมีส่วนร่วมของสถาบันนี้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่ออุปทานของ Bitcoin โดยมีการคาดการณ์ว่า 4.2 ล้าน BTC จะไหลเข้าสู่มือของสถาบัน ซึ่งคิดเป็น 20.3% ของอุปทานทั้งหมด และมีการออก BTC ประมาณ 164,250 BTC ต่อปีหลังจาก การ Halving ของ Bitcoin ในปี 2024 ด้วยอัตรารางวัลบล็อกที่ 3.125 BTC ตลาดกำลังเผชิญกับการขาดแคลนอุปทานอย่างรุนแรง

สิ่งนี้อาจมีส่วนทำให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2025 เมื่อมันทำสถิติสูงสุดใหม่ การพัฒนาตลาดในเชิงบวกและตัวชี้วัดบนเครือข่ายสนับสนุนการคาดการณ์ว่า BTC อาจแตะ 200,000 USD ในรอบนี้
อย่างไรก็ตาม คลื่นนี้ยังมีความเสี่ยงอย่างมาก การขาดแคลนอุปทานอาจทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น แต่ตลาดอาจเผชิญกับความผันผวนอย่างมากหากสถาบันใหญ่ขายออกพร้อมกัน ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบก็เป็นข้อกังวลสำคัญ โดยที่ SEC ของสหรัฐฯ เพิ่มการตรวจสอบ Bitcoin ETFs ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเสถียรของกระแสเงินทุนของสถาบัน
นอกจากนี้ ปัจจัยมหภาคเช่นอัตราดอกเบี้ยของ Fed คาดว่าจะ ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งอาจทำให้กระแสเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเช่น Bitcoin ช้าลง
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
