Jane Street ทำให้บิตคอยน์ร่วงรอบ 10 โมงเช้าวันนี้อีกหรือไม่

ข้อกล่าวหาว่าบริษัทเทรดวอลล์สตรีท Jane Street เป็นผู้จุดชนวนให้เกิดการเทขาย Bitcoin เวลา 10 โมงเช้าทุกวันได้กลับมาอีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคม หลังจาก BTC ร่วงลงอย่างรุนแรงในช่วงกลางวัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสื่อโซเชียลจะกล่าวโทษเทรดเดอร์สถาบันและผู้สร้างสภาพคล่องของ ETF ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่เมื่อพิจารณาข้อมูลเชิงลึก กลับนำไปสู่เรื่องราวที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น

เรื่องราว Jane Street 10 a.m. คืออะไร

ทฤษฎีนี้เสนอว่า Bitcoin มักถูกขายทิ้ง ในช่วงเวลา 9:30-10:00 น. ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มเปิดทำการ โดย Jane Street มักถูกเอ่ยชื่อ เพราะเป็นทั้งผู้สร้างสภาพคล่องรายใหญ่และผู้เข้าร่วมที่ได้รับอนุญาตสำหรับ spot Bitcoin ETF ในสหรัฐ

ข้อกล่าวหาระบุว่าบริษัทเหล่านี้ช่วยกันฉุดราคาลงเพื่อให้เกิดการบังคับขาย ก่อนจะเข้าซื้อคืนในราคาถูกลง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยมีหน่วยงานกำกับดูแล ตลาดหลักทรัพย์ หรือแหล่งข้อมูลใดยืนยันว่ามีการกระทำดังกล่าวอย่างเป็นระบบ

ข้อมูลฟิวเจอร์ส Bitcoin ไม่พบการขายทิ้งอย่างรุนแรง

Bitcoin เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ตลอดการเปิดตลาดสหรัฐ โดยเคลื่อนไหวแถวๆ 92,000–93,000 USD และไม่มีการเทขายผิดสังเกตในเวลา 10:00 น. ตามเวลาสหรัฐ

การร่วงลงอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อมา ใกล้ช่วงกลางวันของสหรัฐ โดย BTC ลดต่ำกว่า 90,000 USD ก่อนจะกลับมาทรงตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความกดดันเกิดขึ้นล่าช้าแทนที่จะมาจากช่วงเปิดตลาด

Open interest ของฟิวเจอร์ส Bitcoin บนกระดานหลักยังคงทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันเดียวกัน บ่งชี้ว่าไม่มีการเพิ่มสถานะชอร์ตขนานใหญ่แต่อย่างใด

และการเปิดสถานะสัญญาบน CME ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับเทรดเดอร์สถาบัน กลับปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย รูปแบบนี้สะท้อนว่ามีการลดความเสี่ยงหรือปิดสถานะป้องกัน มากกว่าจะเป็นการขายอย่างรุนแรงในทิศทางเดียว

หากบริษัทเทรดเจ้าใหญ่เป็นผู้ก่อให้เกิดเทขายโดยเป็นขบวนการ ข้อมูล open interest ควรมีความเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่นพุ่งขึ้นหรือร่วงลงกะทันหัน ซึ่งครั้งนี้ไม่ปรากฏให้เห็น

การลิกวิดเดชันอธิบายการเคลื่อนไหว

ข้อมูลการบังคับขายดูจะให้คำอธิบายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะในระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยอดการบังคับขายคริปโตทะลุ 430 ล้าน USD โดยสถานะขาขึ้นเป็นสัดส่วนหลัก

เฉพาะ Bitcoin เพียงอย่างเดียวมีการลิควิดมากกว่า 68 ล้าน USD ขณะที่ Ethereum มีการลิควิดในระดับที่สูงยิ่งกว่า ซึ่งชี้ให้เห็นการฟลัชเลเวอเรจทั่วทั้งตลาด และไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดเฉพาะกับ Bitcoin เท่านั้น

เมื่อราคาลดต่ำกว่าระดับสำคัญ การลิควิดแบบบังคับอาจเร่งการปรับฐานลงของราคา ซึ่งมักทำให้เกิดการร่วงลงอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องมีผู้ขายรายใหญ่เพียงรายเดียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทุน ETF แบบ spot ของ Bitcoin ในสหรัฐอเมริกามีเงินไหลออกถึง 77 ล้าน USD ในวันที่ 11 ธันวาคม หลังจากที่มีเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องสองวันติดต่อกัน ซึ่งแรงสะเทือนราคาสั้นๆ ในวันนี้ก็สะท้อนให้เห็นในความเคลื่อนไหวนี้อย่างชัดเจน

ไม่มีตลาดใดนำการเทขาย

การเคลื่อนไหวนี้ถูกกระจายไปยังหลายตลาดแลกเปลี่ยน รวมทั้ง Binance, CME, OKX และ Bybit โดยไม่มีหลักฐานว่ามีแรงขายกดดันอยู่ที่ตลาดหรือสินทรัพย์ใดเพียงแห่งเดียว

เหตุผลที่มีความสำคัญ เนื่องจากการโจมตีแบบประสานงานกันมักจะทิ้งร่องรอยไว้ แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางข้ามตลาด สอดคล้องกับการลดความเสี่ยงแบบอัตโนมัติ

ทำไมนิทาน Jane Street ถึงวนกลับมาอีก

ความผันผวนของ Bitcoin มักจะเกิดคลัสเตอร์ในช่วงเวลาตลาดสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการซื้อขาย ETF, การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค และการปรับสมดุลของพอร์ตโฟลิโอสถาบัน ซึ่งปัจจัยโครงสร้างเหล่านี้สามารถทำให้การเคลื่อนไหวของดูเป็นแบบแผน

ความโดดเด่นของ Jane Street ในตลาดสร้างสภาพคล่อง ETF ทำให้ถูกมองเป็นเป้าหมายของการคาดการณ์อยู่เสมอ แต่การดูแลตลาดเกี่ยวข้องกับการเฮดจ์และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ไม่ใช่โจมตีทิศทางของราคา

การเคลื่อนไหวในวันนี้สอดคล้องกับรูปแบบที่คุ้นเคยในตลาดคริปโต กล่าวคือ เลเวอเรจสะสม, ราคาปรับตัวลง, มีการลิควิดต่อเนื่อง และเกิดเรื่องเล่าตามมา