อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่นแตะ 1.98% การปรับอัตราดอกเบี้ยของ BOJ กระทบราคาทองคำ เงิน และ Bitcoin

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสูงถึง 1.98% ในเดือนธันวาคม 2025 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 ทั้งนี้เพราะตลาดต่างเตรียมพร้อมรับมือกับการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 19 ธันวาคม

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้กระตุ้นให้ราคาทองคำและเงินปรับตัวขึ้นทั่วโลก โดยทองคำและเงินพุ่งขึ้น 135% และ 175% ตามลำดับ ตั้งแต่ต้นปี 2023 ขณะเดียวกัน Bitcoin กลับเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากมีการขายแบบบังคับทวีความรุนแรงในตลาดแลกเปลี่ยนของเอเชีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของปฏิกิริยาตลาดต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่นแตะ 1.98%

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ เพื่อเป็นเสาหลักของสภาพคล่องโลกผ่านกลยุทธ์ yen carry trade

นักลงทุนกู้ยืมเงินสกุลเยนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงในประเทศอื่นๆ จึงส่งออกอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดขั้วไปทั่วโลก

การ คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ย 25 จุด สู่ระดับ 0.75% อาจดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเชิงตัวเลข แต่จังหวะของการเปลี่ยนแปลงนั้นสำคัญกว่าระดับดอกเบี้ยที่เปลี่ยนไป

Carry trade กำลังเสี่ยง: ไม่มีใครรู้ว่า ผลกระทบที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่การปรับครั้งนี้น่าจะดูดสภาพคล่องออกจากตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบลูกโซ่ผ่านการถูกบังคับปิดสัญญาและลดคันโยกต่างๆ ได้ CEO ของ i3 Invest, Guilherme Tavares กล่าวเตือนใน โพสต์

นักวิเคราะห์เห็นว่าการดำเนินการของ BOJ มีความหมายเกินกว่าแค่การปรับนโยบายในประเทศ

เมื่ออัตราผลตอบแทนของญี่ปุ่นเคลื่อนไหว ทุนทั่วโลกจะจับตาดู ทองคำและเงินไม่ได้ตอบรับกับข่าวเงินเฟ้อ แต่พวกมันกำลังประเมินความเสี่ยงของงบดุลรัฐบาล ญี่ปุ่นไม่ใช่เพียงเรื่องข้างเวทีอีกต่อไป แต่คือศูนย์กลาง Simon Hou-Vangsaae Reseke กล่าวไว้ใน โพสต์

ราคาทองและเงินพุ่งสูงจากความเสี่ยงต่อความมั่นคงของรัฐที่เพิ่มขึ้น

โลหะมีค่ามีการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ตามรายงานของ Global Market Investor ราคาทองคำและเงินเคลื่อนไหวสอดคล้องกับพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นแทบจะสมบูรณ์แบบ ซึ่งสะท้อนว่าโลหะมีค่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงหลักต่อภาระหนี้ภาครัฐที่สูงขึ้น

มันไม่ใช่เรื่องของอัตราผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว แต่มันคือสิ่งที่การเคลื่อนไหวนั้นสะท้อนออกมา ได้แก่ ความเสี่ยงของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น สภาพคล่องทั่วโลกที่ตึงตัวขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของสกุลเงิน โดยทองคำตอบสนองในฐานะเครื่องมือปกป้องความเสี่ยง และเงินจะสะท้อนตามมาด้วยความผันผวนที่มากกว่า, นักวิเคราะห์ EndGame Macro แสดงความคิดเห็น

ตลาดเงินกำลังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของกระแสเก็งกำไรอย่างหนัก กองทุนฟิวเจอร์สเงินของจีนเพิ่งซื้อขายเหนือราคาทองคำจริงที่มันติดตามอยู่ถึง 12% ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการการลงทุนที่มีเลเวอเรจนั้นกำลังแซงหน้ามูลค่าทรัพย์สินที่แท้จริง

ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างพากันใช้ทองคำและเงินเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านมหภาคในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ป้องกันเงินเฟ้อเท่านั้น

บิทคอยน์เผชิญแรงกดดันเมื่อการทำ Carry Trade ถูกยกเลิก

อย่างไรก็ตาม ราคาของ Bitcoin ก็เริ่มได้รับแรงกดดันจากสภาพคล่องของเงินเยนที่ตึงตัวขึ้น

ตลาดซื้อขายในเอเชียเผชิญกับแรงขาย Spot อย่างต่อเนื่อง สำรองของนักขุดลดลง เกิดแรงขายเพราะถูกบังคับ ไม่ใช่เพราะเลือก…ผู้ถือระยะยาวในเอเชียต่างเริ่มขายต่อ…ราคาจะยังอ่อนตัวจนกว่าปริมาณซัพพลายที่ถูกบังคับขายจะหมด, CryptoRus เขียนโดยอ้าง XWIN Research Japan

สถาบันในสหรัฐฯ ยังคงซื้ออย่างต่อเนื่องโดยCoinbase Premium อยู่ในแดนบวก แต่แรงขายที่ถูกบังคับในเอเชียและอัตรา hashrate ของ Bitcoin ที่ร่วงลง 8% ก็เพิ่มแรงกดดันขาลงให้กับราคา

ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ ในอดีตมักเกิดขึ้นพร้อมกับการร่วงลงอย่างหนักของ BTC ในตอนนี้นักลงทุนจับตาว่าราคาจะลดลงต่อไปใกล้ 70,000 USD หรือไม่

ปฏิกิริยาที่แตกต่างกันของโลหะมีค่าและ Bitcoin แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านการรับความเสี่ยง โดยทองคำและเงินนั้นกำลังได้รับกระแสเงินปลอดภัยท่ามกลางความเสี่ยงจากรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ Bitcoin เผชิญแรงกดดันด้านราคาจากการถูกบังคับขาย อย่างชัดเจน

นักวิเคราะห์ระบุว่า ในอนาคตหากธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ย อาจช่วยลดผลกระทบจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ แต่ทั้งนี้ความรวดเร็วของการเปลี่ยนนโยบายก็มีความสำคัญอย่างมากเช่นกัน