Kraken ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคริปโตรายล่าสุดที่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการใน UAE ได้
แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลซึ่งมีผู้ใช้มากกว่าแปดล้านคนทั่วโลก กลายเป็นแพลตฟอร์มสินทรัพย์เสมือนล่าสุดที่ได้รับอนุญาตให้มีการซื้อขายโดยหน่วยงานจดทะเบียนของ Abu Dhabi Global Market และหน่วยงานกำกับดูแลด้านบริการทางการเงินแห่งอาหรับเอมิเรตส์
Dhaher bin Dhaher ซีอีโอของ Abu Dhabi Global Market’s Registration Authority กล่าว “Kraken มีสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคตะวันออกกลางแล้วและต้องการเริ่มดำเนินใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโต ซึ่งได้รับการควบคุมอย่างเต็มรูปแบบ ในเมืองอาบูดาบีภายในไตรมาสที่สองหรือสามของปี 2022 นี้”
“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อที่สามารถเริ่มต้นการดำเนินงานของเราที่ ADGM [Abu Dhabi Global Market] เพื่อดำเนินการแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะถูกใช้งานควบคู่ไปกับเงินดิรฮัมซึ่งเป็นสกุลเงินประจำชาติ อันจะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนในภูมิภาค” Curtis Ting หัวหน้าของ Kraken ภูมิภาค EMEA บอกกับ CNBC
FTX ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่ง ได้รับใบอนุญาตผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลในดูไบในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ Bybit และ Crypto.com กำลังมองหาช่องทางขยายกิจการในประเทศแห่งนี้
Bybit ได้แจงแผนการที่จะเปิดตัวสำนักงานใหญ่ระดับโลกในดูไบภายในเดือนเมษายน 2022 นี้ ในขณะที่ Crypto.com จะสร้างศูนย์กลางระดับภูมิภาคที่นั่น และเริ่มดำเนินการรับสมัครพนักงาน ซึ่งจะถือเป็นการเสริมทัพให้กับภูมิภาคนี้ต่อไป
นโยบายก้าวหน้า
ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลรายนี้ตั้งเป้าไปที่ UAE เนื่องจากวิสัยทัศน์ในการกำกับดูแลเงินคริปโต “ความแน่นอนและความน่าเชื่อถือที่ดูไบรับรองในการปฏิบัติตามสัญญาเหล่านี้ทำให้ FTX สามารถดำเนินการตามกลยุทธ์โดยรวมในการขยายขนาดบริษัทไปสู่การเป็นผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรกที่เข้าสู่ตลาดโลกในลักษณะที่มีการกำกับดูแลโดยสมบูรณ์” Patrick Grhn จาก FTX Europe กล่าว
“เพื่อให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ เรากำลังสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อธุรกิจด้วยกฎระเบียบที่แข็งแกร่งเพื่อดึงดูด รักษา และเปิดโอกาสให้กับบริษัทที่มีการเติบโตสูง” Thani Al Zeyoudi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าว
เมื่อต้นปีนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เริ่มผลักดันในการออกใบอนุญาตของรัฐบาลกลางหลายฉบับให้กับ VASP เพื่อแข่งขันกับศูนย์กลางทางการเงินที่โดดเด่นอื่นๆ เช่น สิงคโปร์และฮ่องกง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ทำการประเมินความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิทัลเมื่อปีที่แล้วโดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ 14 รายและภาคเอกชนอีก 16 ราย ผลการศึกษาพบว่า ถึงแม้ว่าสกุลเงินดิจิทัลจะมีแนวโน้มถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางอาญา การออกกฎหมายกำกับดูแลเงินดิจิทัลย่อมดีกว่าการแบนไปเสียเลย
Dubai Multi Commodities Center ได้ให้ใบอนุญาตจำนวน 22 ใบ ขณะที่ Dubai Silicon Oasis Authority ได้ออกใบอนุญาตอย่างน้อย 1 ใบ
ตามข้อมูลของ Chainalysis ระบุว่าUAE เป็นศูนย์กลางการเงินคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับสามในตะวันออกกลาง รองจากตุรกีและเลบานอน ด้วยปริมาณธุรกรรมมูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ