Trusted

Bitcoin Halving คืออะไร ทำไมต้องทำ?

3 mins
โดย
แปลแล้ว Azmi Boonmalert

Bitcoin Halving คือการที่มูลค่าของเหรียญ Bitcoin อันใหม่ที่เพิ่งขุดได้หรือเพิ่งได้ตอบแทนมาถูกแบ่งครึ่ง โดยจะเกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปีโดยประมาณเพื่อควบคุมปริมาณจำนวนของ BTC ทั้งยังเพื่อป้องกันไม่ให้มูลค่าของมันเฟ้อ ทั้งยังมีบทบาทสำคัญอื่น ๆ ที่ช่วยให้แวดวงคริปโตนั้นดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน

หากคุณยังเป็นมือใหม่ในวงการ Bitcoin และอยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ หนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดคือการทำความเข้าใจบล็อกเชนของ Bitcoin ถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุด ในที่นี้ มีหัวข้อให้ศึกษามากมาย แต่ Bitcoin Halving อาจจะถือเป็นหนึ่งในคอนเสปต์ที่ล้ำหน้าที่สุดคอนเสปต์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโต/บล็อกเชนก็ว่าได้

บทความนี้ประกอบไปด้วย

  1. Bitcoin Halving คืออะไร
  2. ทำไม Bitcoin Halving เกิดขึ้นเพราะอะไร
  3. Bitcoin Halving Chart – มูลค่าของ Bitcoin เริ่มแบ่งตั้งแต่เมื่อใด
  4. มูลค่าของ Bitcoin จะแบ่งครึ่งอีกกี่ครั้ง
  5. การแบ่งครึ่งของราคาส่งผลอย่างไรต่อราคา Bitcoin
BTC Bitcoin Price

Bitcoin Halving คืออะไรและทำงานอย่างไร

  • Bitcoin Halving เริ่มขึ้นเมื่อ Satoshi Nakamoto ผู้สร้างบิตคอย์นได้เผยแพร่ White paper for Bitcoin เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2008 โดยเอกสารฉบับนี้ซึ่งนำเสนอคอนเสปต์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งในภายหลังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Cryptocurrency หรือที่เรียกกันว่า Bitcoin (BTC)
  • White Paper อธิบายว่าสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร หน้าตาอย่างไร และทำงานอย่างไร นอกจาก Bitcoin แล้ว White Paper ยังนำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งยังคงเป็นแกนกลางของเงินคริปโตทุกตัว
  • Bitcoin Halving ถือเป็นหนึ่งในคอนเสปต์สำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ในฐานะวิธีการหนึ่งในการยับยั้งภาวะเงินเฟ้อและควบคุมการแจกจ่ายเหรียญชนิดใหม่ ๆ แนวคิดดังกล่าวผูกอยู่กับการทำเหมืองคริปโต โดยผู้ขุดคริปโตนั้นจะใช้คอมพิวเตอร์ของตนในการแก้ปัญหาสมการคณิตศาสตร์ซับซ้อน ซึ่งจะแก้ปัญหาบล็อกต่าง ๆ ในบล็อกเชนของ Bitcoin ได้เช่นเดียวกัน โดยแต่ะบล็อกนั้นจะแสดงรายการธุรกรรมเป็นกลุ่ม ๆ โดยจะถูกตรวจสอบเหมือนบล็อกนั้น ๆ ถูกแก้ปัญหาแล้วและถูกเพิ่มเข้าไปเป็น New Entry ใน Digital Ledger
Simplecoin
  • ผู้ทำเหมืองจะได้การตอบแทนเป็นเหรียญ Bitcoin อันใหม่ อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้มูลค่าของมันเฟ้อ ผลตอบแทนเหล่านี้ออกแบบมาให้มีมูลค่าน้อยลงเรื่อย ๆ ในระหว่างที่การทำเหมืองคริปโตดำเนินไป
  • หากพูดให้เข้าใจง่ายกว่านั้น โปรเจกต์การขุดคริปโตถูกออกแบบมาด้วยกับกระบวนการที่เรียกว่าการแบ่งครึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นทุกครั้งที่ผู้ขุดขุดได้ 210,000 บล็อก เมื่อนั้น บล็อกที่เป็นผลตอบแทนจะถูกแบ่งครึ่ง ทำให้เหรียญใหม่ ๆ ที่เข้าไปสู่ในกระแสเงินคริปโตมีมูลค่าลดลงเรื่อย ๆ ทำให้ราคาค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และไม่ทำให้มูลค่าของเหรียญเหล่านี้ล้นตลาด
  • ในขณะเดียวกัน การทำเช่นนี้ถือเป็นการกระตุ้นผู้ขุดคริปโตที่ดีในระยะยาว เพราะพวกเขาจะมีเป้าหมายในการขุดไปให้ได้ถึง 21 ล้านบล็อก
Marshall Islands Sovereign Cryptocurrency

Bitcoin Halving เกิดขึ้นเพราะอะไร

จุดประสงค์หลัก ๆ ได้แก่

  1. ป้องกันภาวะมูลค่าเฟ้อ
  2. เพิ่มมูลค่าของ BTC
  3. ให้เวลาอุตสาหกรรมคริปโตได้เติบโต

รายละเอียดของแต่ละจุดประสงค์นั้น ดังนี้

  1. ป้องกันภาวะมูลค่าเฟ้อ

Bitcoin เป็นมาตรการตอบโต้วิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 ซึ่งในขณะนั้น ธนาคารต่าง ๆ ล้วนร่วมพิสูจน์แล้วการมีหน่วยงานกลางเพื่อทำหน้าที่ควบคุมค่าเงินไม่ส่งผลดีอีกต่อไป ทั้งยังพร้อมท้าทายมาตรฐานดังกล่าวหากนั่นทำให้ธนาคารทั้งหลายมีรายได้มากขึ้น

ดังนั้น Nakamoto จึงได้สร้างวิธีการของเขาซึ่งไม่ขึ้นอยู่กับธนาคารกลาง โดยพยายามกำจัดอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดกับอุตสาหกรรมการเงินซึ่งมักเกินขึ้นบ่อยเกินไปในแวดวงการเงินตามขนบ หนึ่งในนั้นคือภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งปกติแล้วหน่วยงานการเงินกลางมักจะแก้ด้วยการพิมพ์ธนบัตรออกมาเพิ่มเพื่อทดแทนสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การเพิ่มปริมาณเงินในกระแสไหลเวียนเงินสดลดมูลค่าของเงินที่พิมพ์ขึ้นใหม่ ทำให้อุตสาหกรรมการเงินทั้งหมดต้องประสบความยากลำบาก เหตุการณ์ที่เงินทั้งสกุลไร้มูลค่านั้นเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ดังนั้น Satoshi  จึงออกแบบ Bitcoin ออกมาในปริมาณจำกัดแค่ 21 ล้านหน่วยเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ซึ่งนั่นถือเป็นจำนวนสูงสุดแล้วที่เคยผลิตมาและจะไม่มีวันผลิตได้เกินกว่านี้

ในขณะเดียวกัน เขาตระหนักว่าเขาต้องการสร้างช่องทางที่จะปล่อยเหรียญเหล่านี้เข้าสู่ระบบอย่างช้า ๆ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ทำเหมืองคอยตรวจสอบรายการธุรกรรมต่าง ๆ โดยจะมีการตอบแทนผู้ทำเหมืองโดยการให้เหรียญในจำนวนที่ได้ระบุเอาไว้ต่อบล็อกหนึ่งบล็อก อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะให้ BTC ได้พัฒนาและเติบโตอย่างเหมาะสม เขายังได้พัฒนาให้จำนวนของผลตอบแทนลดลงเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ปริมาณเหรียญทั้ง 21 ล้านหน่วยนั้นหมดลง

ผลลัพธ์ก็คือเมื่อมูลค่าของการตอบแทนถูกแบ่งครึ่งไปเรื่อย ๆ ผู้ทำเหมืองจะได้รับผลตอบแทนน้อยลงครึ่งต่อครึ่งในทุก ๆ ครั้ง เพราะฉะนั้น หากผลตอบแทนเริ่มต้นอยู่ที่ 50 BTC ต่อบล็อก หลังจากการแบ่งครึ่งในครั้งแรก ผลตอบแทนจะลดลงเป็น 25 BTC ต่อบล็อกแทน และหลังจากการแบ่งครึ่งครั้งที่สอง จะได้รับแค่ 12.5 BTC วิธีคิดเช่นนี้ดำเนินเรื่อยไป

bitcoin

2. เพิ่มมูลค่าของ BTC

Satoshi ไม่สามารถคาดคะเนว่าเมื่อไรที่ราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นได้มากสุดเท่าใด อย่างไรก็ตาม เขาคาดหวังให้ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ราคาแรกของ Bitcoin เกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็วหลังจากที่ได้เปิดตัวไป

อย่างที่ทราบกันดีว่า Bitcoin ไม่มีสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงเพื่อที่จะค้ำยันและสร้างมูลค่าให้กับตัวมันเอง ทั้งนี้ มูลค่าของ BTC ตั้งอยู่บนฐานของความเป็นประโยชน์ของตัวเองมันเองในฐานะเงินตราที่ไม่มีหน่วยงานกลางใดกำกับดูแล หลังจากที่ Satoshi ได้สาธิตให้เห็นมูลค่าของเงินตราที่ไม่มีหน่วยงานกลางคอยควบคุมเป็นที่เรียบร้อย สาธารณชนจึงตระหนักได้ว่านี่อาจจะเป็นอีกทางเลือกทางการเงินในอนาคต และคิดว่าพวกเขาไม่ต้องการธนาคารซึ่งอาจจะแช่แข็งบัญชีของพวกเขาเมื่อใดก็ได้ และไม่จำเป็นต้องคิดว่าธนาคารจะนำเงินฝากไปใช้ในรูปแบบใด และที่สำคัญคือไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนใด ๆ อีกต่อไป

เหล่านี้คือสาเหตุที่ผู้คนหันมาสนใจ Bitcoin มากขึ้น และยิ่งมีผู้ใช้งานมากขึ้นเท่าใด มูลค่าของมันก็เพิ่มขึ้นตามตัว เงินดิจิทัลสกุลนี้จึงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผู้คนคิดเกี่ยวเงินดิจิทัลไปโดยสิ้นเชิง

Bitcoin

ทั้งนี้ Satoshi รู้ดีว่าผู้คนจำเป็นต้องใช้เวลาที่จะคุ้นชินและมีความรู้เพียงพอเกี่ยวกับเงินสกุลใหม่นี้ เขาเองยังคาดหวังให้หน่วยงานทางการทั้งหลายพยายามจะสะกัดกั้นการใช้งานเงินดิจิทัลเช่นกัน โดยอาจจะผ่านการไม่รณรงค์ให้คนหันไปใช้งานเงินคริปโตผ่านข้อมูล หรือมิเช่นนั้นก็พยายามไม่ให้สาธารณชนรับรู้เรื่องนี้

นั่นหมายความว่า Bitcoin ต้องกลายเป็นองหายากเพื่อให้ผู้ลงทุนในระยะแรกไม่ครอบครองมันมากจนเกินไปเพื่อให้มูลค่าของมันค่อย ๆ เติบโตและทำให้คนอยากครอบครองมันมากขึ้น นี่คือที่มาของการเกิด Halving Process กล่าวคือ เมื่อจำนวนเหรียญที่อยู่ในระบบลดลง ทุก ๆ ครั้งที่เกิดการแบ่งขึ้น มูลค่าของเหรียญจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปทานต่ำลง และอุปสงค์เพิ่มขึ้น สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทุกวันนี้พิสูจน์แล้วว่า Satoshi คิดถูกเพราะมันกำลังทำงานในแบบที่เขาเคยคาดการณ์ไว้

Bitcoin BTC Satoshi Supply

3. ให้เวลาคริปโตได้เติบโต

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการทำเหมืองคริปโตนั้นค่อนข้างอาศัยต้นทุนในระดับหนึ่งเนื่องจากต้องใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก รวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีราคาแพงและไฟฟ้าจำนวนมาก BTC นั้นออกแบบมาให้สามารถขุดได้ทั้งด้วยคนทำเหมืองตั้งแต่คนเดียวไปจนถึงล้านคนโดยที่ไม่มีความแตกต่างนัก เป็นเพราะว่า Satoshi ได้ออกแบบให้วิธีการขุดเหมืองนั้นมีความยากลำบากผ่านการใช้อัลกอริธึมซึ่งสามารถลดหรือเพิ่มความลำบากในการขุดได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่เข้ามาขุดและปริมาณคอมพิวเตอร์ที่กำลังใช้งานอยู่

การออกแบบมาในลักษณะนี้ทำให้ทุก ๆ การขุดนั้นใช้เวลา 10 นาทีโดยเฉลี่ยโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ขุดคนนั้นใช้คอมพิวเตอร์ที่มีกำลังมากน้อยเพียงใด ถึงอย่างนั้น หากมีผู้ขุดมากย่อมหมายถึงมีการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น และการใช้ทรัพยากรมากขึ้นนี่เองที่จะทำให้ขุดบล็อกได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเช่นกัน กระบวนการเหล่านี้ทำให้สามารถขุดเหรียญ BTC ทั้ง 21 ล้านหน่วยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

หากนี่คือสิงที่จะเกิดขึ้น จะไม่มีใครสนใจที่จะทำเหมืองต่อเพียงเพื่อจะคงไว้ซึ่งเงินดิจิทัลสกุล Bitcoin โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวซึ่งผู้คนจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ใช้เหรียญคริปโตในการทำธุรกรรม

ความยากลำบากในวิธีขุดนี่เองที่ท้ายที่สุดแล้วทำให้ผู้ขุดทั้งหลายยังคงสนใจที่จะขุด Bitcoin ต่อไป เปิดโอกาสให้มันได้เติบโต ขยับขยายและดึงดูดผู้สนใจหน้าใหม่ ๆ เข้ามาในแวดวง หลังจากที่เหรียญทั้งหมดถูกขุดได้แล้ว ผู้ขุดสามารถแสวงหาผลกำไรจากค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่เกิดขึ้นแทนที่การแสวงหาเหรียญใหม่ ๆ แต่เพื่อจะไปให้ถึงขั้นนั้น Bitcoin ต้องกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลกระแสหลักและถูกใช้งานทั่วโลก

Bitcoin BTC ETF

Bitcoin Halving Chart – มูลค่าของ Bitcoin เริ่มแบ่งตั้งแต่เมื่อใด

ในเดือนเมษายน 2020 เกิด Bitcoin Halving ครั้งที่สามขึ้น จากการที่มีบล็อกใหม่ ๆ ถูกขุดได้เสมอ ปัจจัยดังกล่าวถือว่าเร่งการเกิด Bitcoin Halving โดยปกติแล้ว ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปีซึ่งเป็นเวลาโดยเฉลี่ยในการที่ 210,000 จะถูกขุดได้ ทั้งนี้ การเกิด Bitcoin Halving ครั้งแรกเกิดขึ้นวันที่ 29 พฤศจิกายน 2012 ชาร์ตด้านล่างนี้แสดงให้เห็นการเกิด Bitcoin Halving ที่ผ่านมา

bitcoin halving chart

Bitcoin Halve จะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง

ปรากฏการณ์ครั้งที่สามเกิดขึ้นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2020 และมีการคาดการณ์ว่าครั้งถัดไปน่าจะเกิดในปี 2024 และครั้งที่ห้าน่าจะเกิดในปี 2028 เรื่อยไป ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นไปเรื่อย ๆ อีกหลายทศวรรษตามที่มันถูกออกแบบมา โดยมูลค่าของผลตอบแทนที่ได้จะลดลงเรื่อย ๆ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะขุดบล็อกที่มีมูลค่าน้อยที่สุดซึ่งเป็นบล็อกสุดท้ายที่ชื่อ last Satoshi ได้

แน่นอนว่าการขุดย่อมเกิดขึ้นเรื่อยไปหากยังมีคนสนใจ แต่ ณ จุดหนึ่ง ค่าตอบแทนจากการขุดนั้นย่อมไม่คุ้มค่าอีกแล้ว สิ่งนี้อาจไม่เกิดขึ้นภายในอีกหลายทศวรรษ หรืออาจเป็นศตวรรษ หากเราคาดว่า BTC ยังจะคงมีอยู่ มีบางการคาดการณ์ระบุว่าการทำเหมือง BTC จะดำเนินเรื่อยไปจนถึงปี 2140 แต่เมื่อถึงตอนนั้น โลกทั้งโลกอาจจะถูกพลิกโฉมไปแล้วโดยอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม และเมื่อถึงตอนนั้นเหรียญหน่วยสุดท้ายอาจจะถูกขุดได้แล้ว หนึ่งในหนทางที่จะไปให้ถึงเหรียญสุดท้ายเร็วขึ้นคือการใช้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้ผู้ทำเหมืองแทนอย่างที่อธิบายไปแล้วเบื้องต้น แต่การพัฒนา BTC และความคิดใหม่ ๆ นั้นเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เหรียญหน่วยสุดท้ายอาจถูกขุดได้เร็วกว่าที่คิด

การแบ่งครึ่งของราคาส่งผลอย่างไรต่อราคา Bitcoin

อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่า Bitcoin halving ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากระแสเงินที่ไหลเข้าไปในระบบจะค่อย ๆ ลดลง ในขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีคนเข้ามาลงทุนใน Bitcoin มากขึ้น เหล่านี้คือผลกระทบที่สามารถเกิดขึ้นได้ต่อเศรษฐกิจ Bitcoin โดยรวม

แม้ Bitcoin Halving จะฟังดูน่าสนใจในเชิงทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติจะเป็นอย่างไร

นับตั้งแต่ Bitcoin ให้บริการมา 11 ปีและมีการเกิด Bitcoin Halving ไปบ้างแล้ว เราสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อประเมินได้ว่าแผนการของ Satoshi จะสัมฤทธิ์ผลไหม

  1. พฤศจิกายน 2012 – Bitcoin Halving ครั้งแรก
Bitcoin Halving

ข้อมูลจากช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่เชื่อถือไม่ค่อยได้สำหรับคนที่ต้องการจะมองเห็นผลกระทบที่แท้จริงที่ BTC อาจจะเกิดขึ้นได้ เหตุผลเนื่องจากในขณะนั้น มีบริการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลไม่กี่รายที่ให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่ปิดทำการไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ว่า ณ ช่วงเวลานั้นการขาย Bitcoin ยังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากการฝากเงินนั้นยังยากลำบาก ดังนั้นกระแสเงินสดจึงยังไม่ใช่แบบที่เห็นเช่นทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เรามีจากช่วงเวลาดังกล่าวเผยให้เห็นว่าการทำเหมือง Bitcoin ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยทันทีต่อราคา BTC แต่เหรียญสกุลดิจิทัลนี้ใช้เวลาประมาณ 11 เดือนในการเติบโต ราคาของมันเพิ่มขึ้น 7,562% และราคาขึ้นมาจาก 12 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเกิด Halving ครั้งแรก มาจนถึงราคา 1,100 ดอลลาร์สหรัฐใน 11 เดือนถัดมา มูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ดึงดูดผู้ลงทุนเข้ามาเพิ่ม นำไปสู่ความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวมเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังนำไปสู่การเกิดเหรียญตัวเลือก (altcoins) ที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นในปีถัดมา อย่างไรก็ตาม สาธารณชนโดยรวมยังไม่ได้รู้จัก Cryptocurrency มากนัก

Bitcoin Halving

2. กรกฎาคม 2016 – การเกิด Bitcoin Halving ครั้งที่สอง

ในช่วงที่เกิด Bitcoin Halving ครั้งที่สอง ราคาของ BTC มีความเสถียรมากขึ้นจากครั้งแรก โดยราคา ณ ตอนนั้นขึ้นสูงสุดถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐและหลังจากนั้นราคาจึงค่อย ๆ ลดลงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ จุดนี้นี่เองที่นำไปสู่การเกิด Bitcoin Halving ครั้งที่สอง ถือเป็นการเพิ่มขึ้นของราคาครั้งใหญ่ที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน

ในเดือนพฤษภาคม 2017 BTC เริ่มเติบโตขึ้นอีกครั้ง นำไปสู่สภาวะที่ราคาเหรียญขึ้นสูงสุดที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ BTC ราคานี้เพิ่มขึ้นจากค่า ATH ก่อนหน้านี้ 18 เท่าภายในไม่กี่เดือน นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงธันวาคม 2017

เหตุการณ์นี้ทำให้ทั่วโลกรู้จัก Bitcoin และ Cryptocurrency มากขึ้น การที่ราคาเพิ่มขึ้นเช่นนี้นำไปสู่ผู้ที่เข้ามาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโตนับล้าน หลังจากนั้น Altcoin นับพันถือกำเนิดขึ้น โดยมี Bitcoin เป็นเหรียญหลักในแวดวง ทำให้มูลค่าของเหรียญทั้งหลายเพิ่มขึ้นเช่นกัน

เหตุการณ์ครั้งนี้ยังช่วยให้เกิดการพัฒนา Cryptocurrency ในอีกหลายปีถัดมา ยิ่งเกิด Bitcoin Halving เท่าใด เมื่อมูลค่าของมันสูงขึ้น ทำให้มีผู้สนใจมาลงทุนใน BTC มากขึ้นเช่นกัน การที่มีผู้เข้ามาลงทุนในแวดวงนี้มากขึ้นสามารถนำไปสู่การทำให้มูลค่าของเหรียญเพิ่มขึ้นโดยปริยาย

บทสรุป

Bitcoin นั้นยังคงไม่หยุดพัฒนาและดึงดูดผู้ใช้ใหม่ ๆ ทั้งมูลค่าของมันเองยังผันแปรอยู่เรื่อย ๆ สถานการณ์เช่นนี้อาจดำเนินไปอีกหลายปีจนกระทั่งมันกลายมาเป็นสกุลเงินหลัก ระหว่างนี้ สถานการณ์ของ BTC ย่อมเต็มไปด้วยความผันผวน ความไม่แน่นอน และความเสี่ยง แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่โลกที่การเงินไม่ได้ถูกรวมศูนย์อีกต่อไป

จากทุก ๆ นวัตกรรมที่เกิดขึ้นซึ่งเริ่มต้นจาก Bitcoin การเกิด Bitcoin Halving ถือเป็นสิ่งที่ทำให้ Bitcoin เติบโตมาได้จนถึงจุดนี้ เนื่องจากได้พิสูจน์แล้วว่าหน่วยงานกลางไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องมาตรวจสอบการทำงานของเงินสกุลหนึ่ง นอกจากนี้ ยังถือเป็นการซื้อเวลาให้ BTC ได้เติบโตและเป็นที่รู้จักเพราะเป็นที่ยืนยันแล้วว่าเหรียญ BTC นั้นจะไม่หมดไปง่าย ๆ เหล่านี้ล่วนยืนยันว่า Bitcoin Halving คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Bitcoin ยังก้าวหน้าและพัฒนาต่อไป ทั้งยังส่งผลต่อระบบการเงินในโลกอย่างเลี่ยงไม่ได้

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน