Trusted

Crypto Wallet ที่ดีที่สุดในปี 2023

18 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

In Brief

  • Cryptocurrency Wallet คืออะไร
  • Public Key และ Private Key คืออะไร
  • ทำอย่างไรให้ Crypto Wallet ปลอดภัย
  • Crypto Wallet ประเภทต่าง ๆ ที่มีให้บริการ
  • บทสรุป

Crypto Wallet คือ แพลตฟอร์มที่อาจจะอยู่ในรูปแบบของแอ็ปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ โดยใช้เก็บรักษา Cryptocurrency ของเรา

  • Crypto Wallet ใช้เพื่อเก็บสินทรัพย์คริปโต
  • Wallet บน Desktop และโทรศัพท์มือถือเป็นที่นิยมมากที่สุด
  • Hardware Wallet นั้นสำคัญสำหรับคนที่มีแผนจะใช้กลยุทธ์ Hodl
  • สมัคร ฝาก และซื้อขายเพื่อทำยอดได้สูงสุดถึง 130,000 USDC ได้ที่นี่ Trade Now on Bybit!
Crypto Wallet ที่ดีที่สุดในปี 2023

หากคุณเคยลงทุนใน Cryptocurrency มาก่อน คุณย่อมต้องการ Crypto Wallet ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้เพื่อใช้เก็บสินทรัพย์ที่คุณได้ลงทุนไป

Crypto Wallet นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่อยู่บนโทรศัพท์มือถือ ใน Desktop หรือเป็น Hardware Wallet บรรดา Wallet เหล่านี้สามารถใช้ได้กับเหรียญเกือบทุกประเภทในตลาด

จากความหลากหลายของ Crypto Wallet ที่มีให้บริการในท้องตลาดนั้น บทความชิ้นนี้จะพาผู้อ่านไปสำรวจ Crypto Wallet ประเภทต่าง ๆ ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง และเราสามารถใช้งานมันอย่างปลอดภัยได้อย่างไรเพื่อเก็บรักษาหน่วยเงินคริปโตอันมีค่าของเรา

เนื้อหาในบทความชิ้นนี้

Cryptocurrency Wallet หรือ Crypto Wallet คืออะไร

Crypto Wallet คือ แพลตฟอร์มที่อาจจะอยู่ในรูปแบบของแอ็ปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ โดยใช้เก็บรักษา Cryptocurrency ของเรา

Wallet ช่วยให้เราจัดเก็บและรับ-ส่ง Cryptocurrency ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดย Wallet บางตัวนั้นมีฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าตัวอื่น ทั้งยังมีความสามารถในการจัดเก็บ Cryptocurrency จากหลายสกุล ควบคู่ไปกับการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ล้ำหน้ามากกว่าตัวอื่น ๆ

ทั้งนี้ ต้องอย่าลืมคำนึงเรื่อง Hot Wallet และ Cold Wallet โดย Hot Wallet นั้นสามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่เสี่ยงต่อความปลอดภัยมากกว่า ในขณะที่ Cold Wallet นั้นจะจัดเก็บสินทรัพย์ของเราในรูปแบบออฟไลน์โดยสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน Cold Wallet นั้นจำเป็นใช้งานอุปกรณ์ที่มี Cold Wallet อยู่จริง ๆ โดยอาจจะทราบ Private Key หรือทราบ Seed Phrase ตัวหลัก

โดยทั่วไปแล้ว จะมีการใช้ Hot Wallet สำหรับจำนวนเงินทุนจำนวนไม่มากซึ่งต้องใช้งานได้คล่องตัว เช่น ใช้สำหรับการจ่าย การซื้อขาย การชำระเงิน หรือการแลกเปลี่ยน

Cold Wallet มักจะใช้กับผู้ที่ต้องการถือครองสินทรัพย์ระยะยาวซึ่งต้องการจะเก็บรักษาทุนส่วนใหญ่ในพอร์ตโฟลิโอของตนในระยะที่ยาวนานยิ่งขึ้น

Wallet ที่กล่าวถึงในที่นี้อาจจะออกแบบมาให้มีโหมดการใช้งานแบบ Cold-storage อยู่แล้ว หรืออาจจะสามารถสร้าง Seed Phrase ชุดหลักซึ่งสามารถถูกจัดเก็บแบบออฟไลน์ได้อย่างปลอดภัย แล้วจึงนำมาใช้ในการกู้คืนการเข้าถึง Wallet ในภายหลัง

Cryptocurrency Wallet คืออะไร

Public Key และ Private Key คืออะไร

หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ควรทราบเกี่ยวกับ Cryptocurrency Wallet คือเรื่อง Public Key และ Private Key โดยทั้งสองล้วนใช้สำหรับการเข้าถึง Cryptocurrency ของเรา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีการส่ง Cryptocurrency ทาง Wallet ในการส่งนั้น ผู้ส่งใช้สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของเหรียญของตนเองจาก Wallet ของตนโอนมา Wallet ของคุณโดยการใช้ Key ในการรับเหรียญที่โอนมานั้น ผู้รับจำเป็นต้องใส่ Public key ซึ่งเปรียบเทียบได้กับเลขที่บัญชี โดยสามารถแจ้งให้บุคคลทั่วไปรับทราบได้

ที่อยู่ของ Bitcoin Wallet นั้นจึงถือเป็นเวอร์ชันย่อยของ Public Key ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ที่อยู่ของ Wallet นั้นถูกใช้การรับส่ง Cryptocurrency

Public Key จะไม่เผยให้ทราบข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของ Wallet สิ่งนี้ทำให้บล็อกเชนถูกพิจารณาว่าเป็นการทำธุรกรรมแบบไม่ประสงค์ออกนาม

Private key นั้น จากชื่อจะเห็นได้ว่าผู้ใช้งานต้องเก็บข้อมูลเป็นความลับในทุกกรณี เนื่องจาก Private Key ทำหน้าที่แบบเดียวกับรหัส Pin ซึ่งหมายความว่าเมื่อใช้งานร่วมกับ Public Key แล้วนั้น จะสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ในบล็อกเชนได้

กฎข้อหนึ่งของคริปโตที่ต้องจดจำเอาไว้เสมอคือต้องไม่บอก Private Key ของเรากับใคร เนื่องจากรหัสเหล่านี้ไม่ได้ถูกจัดเก็บในบล็อกเชน แต่อยู่ในไฟล์ซึ่งมีการเข้ารหัสเอาไว้ สิ่งนี้ทำให้ไฟล์นั้นสามารถบันทึกจากที่ใดก็ได้และถูกจัดเก็บในรูปแบบออฟไลน์ได้

Private Key นั้นจะต้องถูกเก็บรักษาด้วยวิธีการและสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วิธีการที่เหมาะสมคือจัดเก็บในกระดาษหรือ Hardware Wallet

ถ้าอย่างนั้น Key ทำงานร่วมกับ Wallet อย่างไร

ง่ายนิดเดียว! ลองนึกภาพว่า Wallet นั้นคือคีย์การ์ดที่มีการเข้ารหัสไว้ซึ่งบันทึกข้อมูลทุกชนิดที่ใช้ในการเข้าถึงสินทรัพย์ของเรา Wallet ของเรานั้นรวบรวมและบรรจุข้อมูลที่อยู่ของ Wallet เอาไว้ เช่นเดียวกับ Public Key และ Private Key

Public Key และ Private Key คืออะไร

ทำอย่างไรให้ Wallet ปลอดภัย

ระดับความปลอดภัยนั้นหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของ Wallet ทั้งนี้ การบันทึกรหัสผ่านของเราในรูปแบบออนไลน์ย่อมเป็นตัวเลือกที่มีความเสี่ยงสูงกว่าแบบออฟไลน์เนื่องจากอุปกรณ์ของเรานั้นมีโอกาสที่จะถูกแฮ็คหรือโจรกรรมข้อมูลได้

วิธีการเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับ Wallet นั้นยังรวมถึงการแบ็คอัพข้อมูลใน Wallet การหมั่นอัพเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ และมีการเพิ่มวิธีการรักษาความปลอดภัย เช่น การใช้ 2FA และการยืนยันผู้ใช้งาน (Identity Verification)

ไม่ว่าจะใช้ Wallet ประเภทใดก็ตาม หากทำ Private Key สูญหาย คุณจะไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณได้ ทั้งนี้ สามารถศึกษา 10 วิธีเพิ่มความปลอดภัยเพิ่มเติมได้เพื่อเพิ่มเติมการรักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ของคุณ

จากการที่ตลาด Cryptocurrency มีความนิยมและราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผู้ใช้งานจึงควรอย่างยิ่งที่จะเข้าใจวิธีการรักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ของตนเอง

มาป้องกันคริปโตของเราด้วยการใช้ Multi-currency Wallet อย่าง StormGain กันเถอะ

เข้าใช้งาน StormGain ได้เลย!

Crypto Wallets ประเภทต่าง ๆ ที่มีให้บริการ

เมื่อเราได้ศึกษาข้อมูลพื้นฐานว่า Crypto Wallet คืออะไรและทำงานอย่างไรแล้ว ลองมาดูกันว่า Wallet ประเภทต่าง ๆ ที่มีให้บริการอยู่นั้นมีอะไรบ้าง

วันนี้ BeInCrypto ได้รวบรวม Wallet เจ้าใหญ่ ๆ ที่มีให้บริการทั้งสำหรับ Bitcoin และ Cryptocurrency ที่กำลังเป็นที่นิยมเจ้าอื่น ๆ

1.) Desktop Wallet

Desktop Wallet

Desktop Wallet สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท ได้แก่ Bitcoin only และ Multi-coin โดยทั้งคู่นั้นถือเป็น Hot Wallet แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีการให้บริการการจัดเก็บสินทรัพย์แบบออฟไลน์ควบคู่ไปด้วย โดย Wallet ทั้งหมดในที่นี้สามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows Mac และ Linux

a.) Multi Coin Wallet for Desktop ที่ดีที่สุด

จากความนิยมของ Altcoin นั้น Wallet เจ้าต่าง ๆ เริ่มให้บริการพื้นที่จัดเก็บสำหรับเหรียญจากหลายเครือข่ายและฟังก์ชัน Multi-coin wallet ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมส่วนใหญ่ให้บริการผู้ใช้งานด้วยกับระบบอินเตอร์เฟสเดี่ยวเพื่อใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอที่มีสินทรัพย์หลากหลาย

i.) OWNR Wallet

OWNR Wallet จากเอสโตเนียเปิดให้ใช้งานในปี 2018และถือเป็น All-in-one Wallet ซึ่งให้ความสำคัญกับการใช้งายภายใต้ Crypto Ecosystem ขนาดใหญ่ หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของ OWNR Wallet คือการเป็น Wallet ซึ่งสามารถใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม โดยผู้ให้บริการไม่ได้รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังใช้ได้กับระบบเติมเงิน ทั้งยังเป็นตัวช่วยแบบสำเร็จรูปให้กับองค์กรในการเป็นช่องทางการทำงานผ่านระบบ API เพื่อใช้ในการซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนคริปโต

OWNR Wallet สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์หลายประเภท ทั้ง Android iOS Linux macOS และ Windows ทั้งยังสามารถใช้ได้กับเหรียญประเภทหลัก ๆ เช่นเดียวกับเหรียญ ERC-20 ทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สกุลเงินปกติในการซื้อคริปโตได้โดยชำระผ่านบัตร Visa MasterCard และ UnionPay

เนื่องจากผู้ใช้งานต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวเอง ดังนั้น ผู้ใช้งานจึงถือสิทธิ์ขาดในการเข้าถึงสินทรัพย์ นอกจากนี้ยังสามารถจัดเก็บ Seed Phrase ได้ในแปดภาษาแตกต่างกัน ผู้ถือครอง Bitcoin อาจจะชื่นชอบที่ Wallet ตัวนี้รองรับ SegWit ซึ่งช่วยให้ทำธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

การร่วมมือกับผู้ให้บริการบัตรเครดิตเจ้าต่าง ๆ ยังถือเป็นว่าเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ เนื่องจากระบบเติมเงินโดยใช้บัตร Visa ทำให้สามารถหาประโยชน์จากทุนคริปโตได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ภาคธุรกิจอาจลองเข้ามาใช้งานฟังก์ชันนี้และนำระบบบัตรเติมเงินนี้ไปใช้กับการจ่ายเงินเดือนพนักงานด้วยกับเงินสกุลคริปโตแทน

ii.) Atomic Wallet

Atomic Wallet
ที่มา: Chrome Web Store

รีวิว Atomic Wallet

Atomic Wallet คือหนึ่งใน Multi-coin desktop wallet ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ถือครอง Cryptocurrency เนื่องจากมีการให้บริการระบบความปลอดภัยและการจัดการสินทรัพย์อย่างเหนือระดับ

Atomic Wallet นั้นสามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows Mac และ Linux เช่นเดียวกันกับบน Android และ iOS นอกจากนี้ตัวแอ็ปพลิเคชันยังมีหน้าตาที่ดูเรียบง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีความรู้และประสบการณ์กับ Cryptocurrency ทุกระดับ

Atomic Wallet ยังให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยอันยอดเยี่ยม ควบคู่ไปกับฟังก์ชันที่ชื่อว่า Atomic Swap ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนสกุลเงินของ Cryptocurrency ใน Wallet ของตนไปมาได้ตามต้องการ

iii.) Exodus Wallet

Exodus Wallet
ที่มา: Exodus Wallet

Exodus Wallet ถือเป็นหนึ่งใน Cryptocurrency Wallet เจ้าแรก ๆ เนื่องจากเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2016 และยังคงเป็นหนึ่งใน Multi-coin desktop wallet ที่ยังเป็นที่นิยมในตลาดมาจนถึงปัจจุบัน

Exodus Wallet ปลอดภัยไหม

Exodus Wallet นั้นให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมสินทรัพย์ทุกรายการ ควบคู่ไปกับระบบสนับสนุนการใช้งานสินทรัพย์จากต่างเครือข่ายอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับ ส่ง และจัดเก็บเหรียญที่ชื่นชอบใน Exodus Wallet ได้อย่างสะดวกสบาย

Wallet ทั้งสองตัวหลังนั้นถือเป็นว่าตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วงการ Cryptocurrency เนื่องจากทั้งคู่รองรับเหรียญหลายชนิดจากหลายเครือข่าย ทั้งยังสามารถจัดการที่อยู่ได้จำนวนมาก และถือเป็นแอ็ปพลิเคชันซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้กับแพลตฟอร์มอย่าง Shapeshift ได้

นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังสามารถใช้งานได้บนโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถใช้ซิงค์เข้ากับพอร์ตโฟลิโอทั้งด้วยวิธีการแบบออนไลน์และยังรอบรับ Hardware Wallet เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยด้วยเช่นกัน

พบความปลอดภัยเหนือชั้นและตัวเลือกคริปโตไม่อั้น เพียงสมัครใช้งาน StormGain วันนี้เพื่อจัดการสกุลเงินคริปโตต่าง ๆ

เข้าใช้งาน StormGain ทันที!

b.) Bitcoin Wallets ที่ดีที่สุด

Wallet บางเจ้านั้นให้บริการเฉพาะเงินสกุล Bitcoin เท่านั้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ถือครอง Bitcoin ซึ่งกำลังมองหาตัวเลือกที่เต็มไปด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ พร้อมด้วยความปลอดภัยเต็มรูปแบบ

i.) Electrum

Electrum Wallet
Image credit: Electrum

Electrum เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งาน Bitcoin เนื่องจากมีอินเตอร์เฟสเรียบง่าย ใช้งานง่าย และไม่กินพื้นที่ในอุปกรณ์มากนัก ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการติดตั้ง ทั้งยังสามารถตรวจสอบยอดคงเหลือได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้สามารถทำธุรกรรมทั้งการทำจ่ายและการทำรับได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ อินเตอร์เฟสของ Electrum นั้นไม่ซับซ้อนมากนัก แต่อาจจะยังทำให้ผู้ใช้งานใหม่และผู้ที่ยังไม่คุ้นชินกับ Wallet ที่ดูเรียบง่ายสับสนได้

Electrum ใช้โหนดที่เชื่อถือได้ในการตรวจสอบรายการธุรกรรม ทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ รวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก

แอ็ปพลิเคชันตัวนี้ถอดระบบรักษาความปลอดภัยและระบบควบคุมของตนเองไปขั้นหนึ่ง ต่างจากที่ Wallet ซึ่งกินความจุมากตัวอื่น ๆ ทำ เนื่องจาก Electrum ใช้เซิฟเวอร์ที่ต่างออกไปในการทำจ่าย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสินทรัพย์ของผู้ใช้งานแต่อย่างใด

Electrum อนุญาตให้คุณเข้ารหัสไฟล์ Wallet ในระหว่างขั้นตอนการติดตั้งได้ และยังให้บริการ Cold Storage เพื่อสร้างบัญชี Wallet ที่สามารถดูยอดได้เพียงอย่างเดียวด้วยเช่นกัน

ii.) Wasabi

Wasabi Wallet
ที่มาของรูป: Wasabi

แรกเริ่มเดิมทีนั้น Wasabi มีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานและจัดการง่าย แม้จะไม่ใช่ Wallet ที่ออกแบบมาอย่างแยบยลเหมือนเจ้าอื่น แต่ Wasabi มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณลงทะเบียนเข้าใช้งานเรียบร้อย คุณจะพบว่า Wasabi Wallet มีความปลอดภัยมากที่สุดในตลาดสำหรับเงินสกุล Bitcoin

ตัวเลือกอื่น ๆ ได้แก่ Armory ซึ่งถือเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กซึ่งรองรับ Cold Storage และสามารถจัดการ Wallet พร้อมกันได้หลายอันอย่างง่ายดาย ตัวอินเตอร์เฟสนั้นอาจไม่น่าใช้งานนักสำหรับผู้ใช้ใหม่ แต่ถือว่าเข้าใจได้ง่ายสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับ Desktop Wallet แล้ว

Wasabi เป็น Bitcoin Wallet แบบ Open Source ซึ่งใช้งานได้ทั้งบน Windows macOS และ Linux โดยมุ่งเน้นไปที่ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

Wasabi ได้พิสูจน์แล้วว่าตนเองเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวให้กับสินทรัพย์ของตนผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Coinjoin

พวกเขายังใช้เครือข่าย TOR เพื่อช่วยซ่อนที่อยู่ IP ของผู้ใช้งานและรายการธุรกรรม การติดตั้ง Wasabi Wallet อาจจะดูสับสนเนื่องจากตัวแอ็ปพลิเคชันให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาก ดังนั้น จึงควรใช้ระบบช่วยติดตั้งของ Wasabi ในการเริ่มต้นการใช้งาน

2.) Mobile Wallet

MyEtherWallet mobile

Mobile Wallet นั้นเหมาะสำหรับจัดการพอร์ตโฟลิโอแบบออนไลน์และสำหรับการโอนและรับ Cryptocurrency จากเพื่อนและครอบครัว

ในขณะที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ให้บริการแอ็ปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือแค่ในฐานะส่วนเสริมของผลิตภัณฑ์หลักบน Desktop ยังมี Mobile Wallet อีกหลายเจ้าที่พิสูจน์แล้วว่าตนไม่เป็นสองรองใครในสังเวียน Mobile Apps สำหรับผู้ถือครอง Cryptocurrency

a.) Trust Wallet

Trust Wallet
ที่มาของรูปภาพ: Trust Wallet

Trust Wallet เป็นแอ็ปพลิเคชันที่ให้บริการแค่เฉพาะบนโทรศัพท์มือถือที่เป็นที่นิยมที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเก็บรักษาและจัดการสินทรัพย์ของตนเองได้อย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานยังถือสิทธิ์ขาดในการเป็นผู้ทราบ Private Key

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถจัดเก็บเหรียญจากเครือข่ายหลักต่าง ๆ ด้วยกับตัวเลือกที่เสริมเข้ามาเพื่อสำรองข้อมูลสินทรัพย์สินที่ใช้งานได้เพื่อช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยอีกขั้นให้กับ Wallet

ระบบเบราเซอร์แบบ Web3 ที่ติดมากับ Wallet นั้นทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วมกับ DApps อื่น ๆ ได้ผ่าน Trust Wallet นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถเข้าถึงการซื้อขายคริปโตบนแอ็ปพลิเคชั่นผ่านระบบสนับสนุน Trust Wallet/WalletConnect

และเนื่องจาก Trust Wallet รองรับเหรียญจากหลายสกุล จึงเอื้อให้ผู้ใช้งานสามารถลงทุนกับเหรียญสกุลที่ชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย

ตัวเลือกอื่น ๆ ได้แก่ Mycelium ซึ่งเป็นอีก Wallet ที่เป็นที่นิยมอย่างมากซึ่งให้บริการมาหลายแล้ว ตัวแพลตฟอร์มให้บริการเฉพาะกับสกุล Bitcoin แต่ยังเอื้อให้สามารถสร้างชุด Seed Phrase หลักในการกู้ Wallet ซึ่งสามารถใช้ในการแก้ปัญหา Cold Storage ได้เช่นกัน

Samourai Wallet ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับ Bitcoin เท่านั้น โดยเน้นไปที่การลดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน Segwit ทั้งยังสามารถแจ้งเตือนการทำธุรกรรมได้ด้วยวิธีการออฟไลน์โดยใช้ SMS

BRD (เป็นที่รู้จักก่อนหน้านี้ในชื่อ Breadwallet) รองรับเงินสกุล Bitcoin Bitcoin Cash Ethereum และเหรียญ ERC-20 ตัวแอ็ปพลิเคชันมีหน้าตาเรียบง่าย และมีชื่อเสียงเรื่องระบบดูแลลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้ง Mycelium และ BRD สามารถใช้งานได้ทั้งบน Android และ iOS ในขณะที่ Samourai Wallet สามารถใช้งานได้บน Android เท่านั้น

การเก็บคริปโตไว้ใน Crypto Wallet ที่ดี ก็จะปลอดภัย

หากคุณเริ่มลองใช้งาน Bitcoin แล้วและกำลังมองหา Ethereum wallet สักอันหนึ่งท่ามกลางตัวเลือกจำนวนมาก ลองศึกษาผ่าน Ethereum wallet guide เพื่อเลือกตัวที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ

b.) ZenGo Wallet

ZenGo Wallet

ZenGo คือ Mobile Wallet ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งบน iOS และ Android และเป็นระบบที่ผู้ให้บริการไม่เข้ามาก้าวก่ายข้อมูลของลูกค้าโดยสิ้นเชิง ทั้งยังไม่มีการใช้รหัสผ่าน ตัว Wallet ออกมาให้ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูง ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Wallet เสร็จได้ภายใน 20 วินาที

ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ ซื้อ แลกเปลี่ยน และส่งคริปโตซึ่งรองรับสินทรัพย์กว่า 70 รายการ รวมถึงสกุลหลัก ๆ ทั้งหมด ตัวแอ็ปพลิเคชันมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมสามรูปแบบ (แบบประหยัด แบบธรรมดา แบบรวดเร็ว) ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับ BTC ETH และ เหรียญ ERC-20 นอกจากนี้ยังสามารถยกเลิกหรือเร่งรายการธุรกรรมได้ก่อนยืนยันได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างรายได้ได้ถึง 8% APY ETH และ stablecoin

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการใช้งานพิเศษอย่างการที่สามารถซื้อเหรียญ Terra  ได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งยังสามารถได้ cashback มูลค่า $10 คืนในรูปของเหรียญ BTC สำหรับทุกการใช้จ่ายยอด $200 เพียงแค่ใช้โค้ด ZENX0B4G

Wallet รายนี้สามารถใช้งานได้เพียงในยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ระบบดูแลลูกค้าให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนายังวางแผนจะเชื่อมต่อ Wallet และเข้าถึง Smart Contractในอนาคต

3.) Exchange Wallets

ผู้ถือครอง Cryptocurrency ยังสามารถเลือกที่จะเก็บเหรียญของตนเองเอาไว้เพื่อนำไปใช้ใน Wallet สำหรับการแลกเปลี่ยนอย่าง Binance StormGain หรือ Coinbase

Exchange Wallets

นี่ถือเป็นโปรแกรมในอุดมคติสำหรับการจัดเก็บเหรียญเมื่อคืนเริ่มเข้าสู่วงการ Cryptocurrency

Wallet สำหรับแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่นั้นปลอดภัยเนื่องจากมีประกัน ช่วยเพิ่มการคุ้มครองอีกขั้นหนึ่งในกรณีที่เกิดการแฮ็คหรือมีข้อมูลรั่วไหล

มีสำนวนที่พูดกันในแวดวงคริปโตว่า “ถ้านั่นไม่ใช่รหัสนาย นั่นไม่ใช่เหรียญนาย” สิ่งนี้ควรค่าแก่การระลึกถึงเสมอเมื่อเก็บเหรียญสกุลต่าง ๆ เอาไว้แลกเปลี่ยน

โดยปกติแล้ว ผู้ที่ไม่ได้เล่นบิตคอย์นเป็นอาชีพควรโอนทรัพย์ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดไปยัง Hot Wallet ซึ่งควบคุมได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่ใน Cold Storage

Exodus vs Electrum

ทั้ง Exodus และ Electrum ถือว่าเป็น Cryptocurrency Wallet ที่นิยมทั้งคู่ แต่อันไหนดีกว่ากันนะ ที่จริง มันขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานมันเพื่ออะไรต่างหาก

Electrum นั้นรองรับเฉพาะ Bitcoin ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนอาจไม่ชอบใจนัก โดยเฉพาะเมื่อกำลังมีกระแส Altcoin เกิดขึ้น ตัวแอ็ปพลิเคชันมีหน้าตาเรียบง่าย และอาศัยโหนดส่วนตัวเพื่อตรวจสอบรายการธุรกรรมต่าง ๆ ซึ่งถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับ Crypto Wallet นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Cold Wallet ในแอ็ปได้อีกด้วย ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าสินทรัพย์นั้นอยู่ในสภาพออฟไลน์สมบูรณ์ โดยตัวแอ็ปอนุญาตผู้ใช้งานให้แค่ดูแต่ไม่สามารถขายหรือเคลื่อนไหวสินทรัพย์เหล่านั้นได้

ในทางตรงกันข้าม Exodus ถือเป็น Wallet ที่หน้าตาสวยงาม ใช้งานง่ายดายอย่างยิ่ง และรองรับสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก ทั้งยังมีระบบแลกเปลี่ยนติดตั้งมาเรียบร้อย ทั้งในเวอร์ชันโทรศัพท์และ Desktop และสามารถใช้งานได้กับ hardware wallets เช่นเดียวกัน

Electrum สามารถใช้งานได้แค่กับ Bitcoin แต่ Exodus นั้นสามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลได้มากกว่า

Ethereum Wallets ที่ดีที่สุด

ในขณะที่ลิสต์ข้างบนนั้นพูดถึง Cryptocurrency Wallet ทั่วไป ในที่นี้ จะพูดถึง Ethereum Wallets ที่ดีที่สุดในตลาดกันบ้าง

MetaMask

MetaMask เป็น Wallet บนเว็บไซต์ที่ใช้งานควบคู่ไปกับเว็บเบราเซอร์อย่าง Brave หรือ Chrome ผู้ใช้งานสามารถซื้อ Ethereum ได้จากตัว Wallet ทั้งยังสามารถระงับและแลกเปลี่ยนเงินสกุล ERC-20 ต่าง ๆ ได้

แต่หากคุณอยากจะลองใช้ DeFi หรือใช้งาน dApps ต่าง ๆ ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Ethereum ตัว MetaMask สามารถผนวกเอาโปรแกรมเหล่านั้นเข้ามาให้คุณใช้งานได้บนเว็บเบราเซอร์ เรียกได้ว่าใช้งานได้อย่างง่ายดาย ด้วยกับอินเตอร์เฟสที่เป็นมิตรตั้งแต่การติดตั้ง การซื้อ ไปจนถึงการโอน

แต่อย่าลืมว่านี่เป็นเพียง Web Wallet เท่านั้น ดังนั้นเงินดิจิทัลของคุณจะมีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากธุรกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นผ่านรูปแบบออนไลน์ตลอดเวลา

MyEtherWallet

MyEtherWallet เป็น Wallet ที่ให้บริการมายาวนานสำหรับจัดเก็บ Ethereum Ethereum Classic และสกุล ERC-20 อื่น ๆ ตัวแอ็ปใช้งานง่ายและเป็นระบบ Open-source ทำให้มี plug-ins เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานจำนวนมาก

ตัวแอ็ปพลิเคชันมีการใช้ระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน มีระบบ Swap จาก Bitcoin ไป Ethereum เสร็จสรรพ ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับ Hardware wallets ได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ได้โดยใช้ MyEtherWallet และส่งออก Private Key ไปยัง Paper Wallet สำหรับการเก็บรักษาข้อมูลระยะยาว

Argent Wallet

Argent Wallet เป็น Wallet ระบบ Smart Contract ซึ่งใช้ได้เฉพาะบนโทรศัพท์มือถือเท่านั้น โดยรองรับเฉพาะสกุล Ethereum โดยตัวแอ็ปพลิเคชั่นนั้นทำงานเช่นเดียวกับ MetaMask ซึ่งอนุญาตให้สามารถเข้า dApps ต่าง ๆ ของ Ethereum ได้ ช่วยสร้างความมั่นใจว่าผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบล็อกเชนจากเครือข่าย ๆ ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ รายการธุรกรรมต่าง ๆ สามารถทำได้ฟรีใน Wallet ตัวแอ็ปพลิเคชันเองยังมีเครื่องมือสำหรับกู้คืนรหัสส่วนตัวในกรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับบัญชี

ตัวเครื่องมือมีระบบที่เรียกว่า “ผู้พิทักษ์” อันหมายถึงเพื่อนที่ไว้ใจได้หรือสมาชิกในครอบครัวซึ่งสามารถช่วยกู้คืนรหัสผ่านได้โดยไม่ต้อง Seed Phrase ฟังก์ชันนี้ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากหากโทรศัพท์ถูกขโมย

ในท้ายที่สุด Wallet ใช้ระบบ Ethereum Name Service (ENS) ซึ่งสามารถสร้างที่อยู่สาธารณะซึ่งมนุษย์สามารถเข้าใจได้เพื่อใช้ในการทำธุรกรรม ความคล่องตัวในการทำธุรกรรมเช่นนี้จะทำให้คนหันมาใช้งาน Ethereum มากขึ้น

บทสรุป

หากคุณเป็นผู้ถือครอง Cryptocurrency ซึ่งกำลังมองหา Wallet ที่น่าไว้วางใจ ตอนนี้คุณคงจะได้ตัวเลือกในใจแล้ว! Wallet แต่ละตัวนั้นมาพร้อมกับประโยชน์และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และผู้ใช้งานจำนวนมากอาจจะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคน

แม้ว่า Wallet เหล่านี้จะมีแนวโน้มที่จะใช้งานง่ายขึ้นและมีความปลอดภัยรัดกุมยิ่งขึ้น แต่ในขณะนี้ผู้ใช้งานต้องเป็นผู้ระมัดระวังความปลอดภัยในสินทรัพย์ของตนด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น Wallet บน Desktop โทรศัพท์มือถือ เบราเซอร์ หรือ Wallet สำหรับแลกเปลี่ยนหรือ Hardware Wallet มั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ทุกประเภทมีโปรแกรมรองรับเป็นที่เรียบร้อย เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณคัดสรร Wallet ที่เหมาะสมกับคุณได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน