Trusted

Curve (CRV) คืออะไร

3 mins
โดย
แปลแล้ว Azmi Boonmalert

Curve Finance คือระบบแลกเปลี่ยนคริปโตแบบไม่มีหน่วยงานกลางควบคุมซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ตัวระบบดังกล่าวแตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ อย่าง Uniswap ในแง่ที่ว่าตัวโปรแกรมเน้นไปที่การแลกเปลี่ยน Stablecoin เป็นหลัก

ระบบนี้อนุญาตให้ DeFi ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Ethereum มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่คาถูกลงและสามารถส่งมอบสลิปเพจได้ในระดับต่ำกว่า นอกจากนี้ CRV ซึ่งเป็นโทเค็นของตัวแพลตฟอร์มยังถือเป็นค่าตอบแทนสำหรับการเพิ่มสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์ม ทั้งยังได้รับสิทธิ์ในการโหวตใน DAO ของ Curve

ความสำเร็จของแพลตฟอร์มได้รับอานิสงค์หลักมาจากความสนใจที่ตัวแพลตฟอร์มเองได้จุดประกายในหมู่ผู้สนใจคริปโตซึ่งเบื่อหน่ายกับความผันผวนของราคาในตลาด

ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นข้อดีที่ผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงหรือไม่ ระบบนิเวศของ Curve ทำงานอย่างไร ในบทความเกี่ยวกับการใช้งาน Curve และ CRV นี้ เราจะลองมาดูกันว่าทำไมควรหันมาลงทุนใน DeFi 

Curve คืออะไร

Curve Defi token CRV - beincrypto.com

แพลตฟอร์ม Decentralized Finance (DeF) ถูกใช้งานมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในโลกคริปโต หนึ่งในแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมคือ Curve ซึ่งมีพื้นฐานมาจากบล็อกเชน Ethereum คล้ายกับ DeFi อื่น ๆ ตัวแพลตฟอร์มอนุญาตให้สามารถซื้อขายได้ผ่านการใช้ Cryptocurrency สกุลอื่น ๆ โดยพื้นฐานแล้ว ผู้ใช้งานจะรับคริปโตเป็นของตอบแทนเวลาที่ตนทำการฝากสินทรัพย์เข้าไปในแพลตฟอร์ม

Curve นั้นคล้ายคลึงกับแพลตฟอร์มอย่าง Balancer หรือ Uniswap ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานคริปโตสามารถได้รับค่าธรรมเนียมจากสินทรัพย์ของตนในขณะที่ผู้ซื้อขายคริปโตสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เหล่านั้นได้ในราคาที่สูงขึ้น

Curve เองยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ เนื่องจากมุ่งเน้นที่สินทรัพย์ที่จับคู่กับสกุลเงินของชาติต่าง ๆ โดยตรง ทั้งยังเป็นที่นิยมของผู้ซื้อขาย Stablecoin เช่นเดียวกับผู้ลงทุนในสภาพคล่องของสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งต้องการจะเพิ่มศักยภาพของสลิปเพจและลดโอกาสการขาดทุน

สลิปเพจคือการคลาดเคลื่อนระหว่างราคาในจุดที่ส่งคำสั่งซื้อขาย กับราคาที่ซื้อขายได้จริง โดยปัจจัยดังกล่าวถือเป็นที่มาของการขาดทุนในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตหลายเจ้า

โฟกัสของ Curve ที่ Stablecoin

Curve โฟกัสที่ Stablecoins เจ้าต่าง ๆ เป็นหลัก เช่น DAI และ USDT เหล่านี้แสดงให้ถึงความพยายามต้องการในการติดตามราคาดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังรองรับ Stablecoins เช่น wBTC หรือ renBTC ที่ติดตามราคาของ Bitcoin แนวคิดหลักของ Curve คือเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมียอดเงินคงเหลือในตลาดคริปโต

เป้าหมายของการซื้อขาย Stablecoin คือการลดค่าธรรมเนียมและการเปลี่ยนแปลงราคาซึ่งมักเกิดขึ้นจากการมีตัวเลือกหลายตัวในตลาด Curve ยังอนุญาตการซื้อขาย Stablecoin สกุลต่าง ๆ เช่น DAI USDT USDC GUSD TUSD BUSD UST EURS PAX sUSD USDN USDP RSV, และ LINKUSD ทั้งยังสามารถซื้อขาย ETH LINK และสินทรัพย์ BTC ที่ถูกทำให้เป็นโทเค็นบางรายการ เช่น wBTC หรือ renBTC

จุดกำเนิดของ Curve

Curve Finance นั้นหลายคลึงกับกลุ่ม DeFi คริปโตอื่น ๆ ในแง่ที่ว่านี่ถือเป็นแพลตฟอร์มใหม่ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2019 Michael Egorov นักฟิสิกส์ชาวรัสเซีย ได้เสนอร่างแนวคิดการกำเนิด Curve ขึ้น โดยตัวแพลตฟอร์มเปิดให้ใชงานตั้งแต่ปี 2020

Egorov ไม่ถือเป็นหน้าใหม่ในวงการคริปโตเนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม DeFi เจ้าต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2018 เขาจบการศึกษาจาก Moscow Institute of Physics and Technology ก่อนจะจบปริญญาเอกด้านฟิสิกส์จาก Swinburne University of Technology เขาเองยังมีส่วนร่วมในการก่อตั้งบริษัท NuCypher และ LoanCoin

โมเดล Curve AMM

Curve ตั้งเป้าจะเป็นแพลตฟอร์ม Automated Market Maker (AMM) โดยใช้ประโยชน์จาก Market-making Algorithm และแพลตฟอร์ม Cryptocurrency สกุลต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน สถาบันแลกเปลี่ยนทางการเงินที่ไม่มีหน่วยงานการควบคุมทั่วไปใช้งานตลาดแบบ Peer-to-peer ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานคริปโตสามารถซื้อขายกันเองได้

Curve มีจุดเด่นที่อัตราสลิปเพจขั้นต่ำและบัญชี Fiduciary Savings สำหรับผู้ลงทุนในสภาพคล่อง เหล่านี้ล้วนจัดการโดยสัญญาอัจฉริยะที่ทำงานกับสกุล Ethereum

Egorov สร้างระบบนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนที่จะเป็นตัวเชื่อม Stablecoin ที่ไม่มีหน่วยงานกลางควบคุม (เช่น DAI) และที่มีหน่วยงานการควบคุม (USDT) โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ตลาดเติบโต

ตัวเชื่อมระหว่าง Stablecoins มีจุดประสงค์เพื่อให้ทำหน้าที่เวลาที่ค่าธรรมเนียมเสถียรภาพซึ่งเกิดจากแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น ในกรณีเช่นนี้ ผู้ใช้งานจะไม่สามารถสับเปลี่ยนเหรียญสกุลต่าง ๆ ได้เนื่องจากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ Curve จึงมุ่งที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากตัวเลือกที่ดีที่สุดที่มีให้บริการในตลาดในขณะนั้น

รู้จัก Curve

curve pools

สภาพคล่องของ Curve นั้นคล้ายกับโมเดลของ Uniswap ที่จริงแล้ว Curve เองมักถูกเรียกว่าเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ Uniswap ซึ่งเป็น DeFi ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตลาด

Liquidity pool คือพื้นที่ที่สัญญาอัจฉริยะควบคุม สินทรัพย์คริปโตจำนวนมากถูกรวบรวมโดยฉีดเข้าสู่ระบบโดยผู้ลงทุนในกระแสสภาพคล่อง(Liquidity Provider) กระแสสภาพคล่องเหล่านี้ถูกใช้งานเพื่อเอื้อให้กับการกู้ยืมและการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คริปโต ซึ่งจำเป็นต้องมีการชำระดอกเบี้ยจำนวนหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้ผู้ลงทุนในกระแสสภาพคล่องได้กำไร ซึ่ง Curve เองทำงานบนฐานของโดมเดลนี้ อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของแพลตฟอร์มที่แท้จริงคือการสร้างกำไรให้ผู้ลงทุนในกระแสสภาพคล่องนี่เอง ที่สำคัญที่สุดคือตัวแพลตฟอร์มเองเน้นไปทาง Stablecoins มากกว่าสินทรัพย์ที่มูลค่าผันผวน

ผู้ลงทุนในสภาพคล่องสามารถอัดฉีด Stablecoin เช่น DAI หรือ USDT เข้าไปในแพลตฟอร์ม จากนั้น แพลตฟอร์มจะใช้สภาพคล่องเหล่านี้เพื่อเสนอการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตโดยคิดค่าธรรมเนียมเล็กน้อย กระบวนการเหล่านี้ในท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่การทำกำไรให้ผู้ลงทุน

ตัวสัญญาอัจฉริยะเองทำหน้าที่จัดการอัตราการแลกเปลี่ยนเหล่านี้ด้วยตนเอง หากแพลตฟอร์มเสนอการแลกเปลี่ยน DAI/USDT และมีการจับคู่ระหว่างเหรียญของทั้งสองสกุล (1,000 DAI และ 1,000 USDT) ในกรณีเช่นนี้ อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ 1 ต่อ 1 หากอัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนค่า (เช่น 800 DAI หรือ 1,200 USDT) อัตราการแลกเปลี่ยนจะเพิ่ม DAI ขึ้น การปรับสมดุลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีสภาพคล่องอยู่เสมอ

หลักการนี้คือสิ่งที่ Uniswap ใช้งานเช่นกัน เนื่องจากทำให้ระบบสามารถถูกจัดประเภทเป็น AMM ได้ ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ให้บริการแต่ละเจ้าจะเป็นตัวกำหนดผลกำไรที่ผู้ลงทุนในสภาพคล่องได้ หากผู้ลงทุนมีพูลในตลาดมากขึ้น ก็จะทำกำไรได้มากขึ้น

การร่วมกับ DeFi เจ้าอื่น ๆ

Curve ร่วมมือกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในการให้บริการช่องทางการแลกเปลี่ยนคริปโตเสริม นำไปสู่ผลกำไรที่มากขึ้น อันเป็นสาเหตุที่พูลสภาพคล่องยังมีอยู่ในเงินสกุลอย่าง  Yearn Finance Uniswap และ Compound กล่าวคือ Curve มีจุดประสงค์สองประการ คือทำหน้าที่เป็นตัวแลกเปลี่ยนและสร้างสภาพคล่องให้สกุลอื่น ๆ

แพลตฟอร์มของ Curve อนุญาตให้ผู้ใช้งานชำระค่าธรรมเนียมน้อยลง 0.04% ต่อหนึ่งรายการธุรกรรมสำหรับฟังก์ชัน Direct Swap แนวทางการสื่อสารของเงินสกุลนี้ยืนยันว่าจะลดค่าสลิปเพจลง ในขณะเดียวกัน จะเน้นไปที่อัลกอริธึมที่สร้างผลกำไรแทน

รู้จัก Curve DAO

What is a decentralized autonomous organization?

Curve เริ่มต้นให้บริการในเดือนสิงหาคม 2020 โดยแรกเริ่มได้ออก DAO (decentralized autonomous organization) ของตนเองโดยมีจุดประสงค์เพื่อจัดการความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในแพลตฟอร์ม

Curve ตอบแทนผู้ใช้งานด้วยการมอบคริปโตและให้เข้าใช้งานแพลตฟอร์ม DeFi อื่น ๆ Governance Token ทำให้ผู้ถือครองโทเค็นมีสิทธิ์ในการโหวตและควบคุม DAO ส่วนใหญ่ CRV token เองยังทำหน้าที่ควบคุม DAO ของ Curve เช่นกัน

DAO รับผิดชอบการทำงานของระบบนิเวศทั้งหมดของ Curve นี่หมายความว่าขั้นตอนธุรการใด ๆ จะสามารถดำเนินการไปได้ก็ต่อเมื่อการลงคะแนนใน DAO เสร็จสิ้น

ผู้ใช้งานคนใดก็ได้สามารถเสนอการปรับปรุง Curve และจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งโหวตล็อก CRV การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมและวิธีการใช้งานด้านอื่น ๆ อีกประเด็นที่

Curve ถือเป็นแพลตฟอร์มใน DeFi ที่กำลังเป็นที่นิยม ความ สำเร็จส่วนใหญ่มาจากการให้ความสำคัญกับเสถียรภาพที่เกิดก่อนช่วงเกิดความผันผวนและการเก็งกำไร ตัวแพลตฟอร์มออกแบบมาให้สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ใน DeFi ได้ ด้วยกับการทำงานของโทเค็น CRV ซึ่งทำงานเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมตัวแพลตฟอร์ม ตัวโทเค็นเองสามารถทำงานในฐานะกลไกที่ไม่มีสิ่งใดมากำกับควบคุมได้ ทำให้ผู้ใช้งานมีอำนาจในการควบคุมความเป็นไปในแพลตฟอร์มได้เต็มที่

รับผลตอบแทนจากแพลตฟอร์ม

ในแพลตฟอร์ม AMM สำหรับแลกเปลี่ยนอย่าง Uniswap ผู้ใช้งานจะได้รับผลตอบแทนเมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น Curve นั้นมีค่าซื้อขายถูกกว่า Uniswap ยิ่งกว่านั้น ยังสามารถรับผลตอบแทนโดยโทเค็นที่ใช้งานได้นอกแพลตฟอร์มอีกด้วย

CRV คือเหรียญของระบบนิเวศ Curve ซึ่งสามารถซื้อได้โดยตรงจากผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตที่รองรับสกุลนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถได้รับโทเค็น CRV จากการทำ Yield Farming กล่าวคือ เมื่อมีการฝากสินทรัพย์เข้าไปในกองทุนสภาพคล่อง จะได้รับเหรียญเป็นแรงจูงใจ เช่น เมื่อ ได้รับโทเค็น CRV โดยการฝาก DAI เข้าไปในพูลสภาพคล่องของ Curve การกระทำดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มผลกำไรและค่าธรรมเนียมไปพร้อม ๆ กัน

การทำ Yield Farming กับโทเค็นเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ใช้คริปโตทั่วไปกลายเป็นผู้ลงทุนในสภาพคล่องของ Curve คุณจะได้รับไม่ใช่แค่สินทรัพย์ทางการเงิน แต่ยังได้เป็นเจ้าของหุ้นในโปรโตคอล DeFi ที่มีค่าแข็งแรง

สิ่งที่ทำให้ Curve แตกต่าง

คุณสมบัติเด่นของ Curve เช่น

  • ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้สินทรัพย์ของตนเองจากแพลตฟอร์มใดทุกเมื่อ
  • มีความเสี่ยงต่ำเหมือนเทียบกับโปรโตคอล DeFi อื่น ๆ ค่าซื้อขายและสลิปเพจถูกกว่าเพราะมุ่งเน้นที่ Stablecoin
  • สามารถลงทุนในสินทรัพย์ CRV ซึ่งจะให้ผลตอบแทนและโอกาสในการลงคะแนนใน Curve DAO
  • โทเค็น CRV ปรากฎทั่วระบบนิเวศ DeFi ทำให้ Curve ใช้งานง่ายมาก

ทั้งนี้ Curve มีจุดเด่นเหล่านี้ได้เนื่องจากการออกแบบตัวแพลตฟอร์มเอง

การควบรวมฟังก์ชันหลักของ Curve

ลำดับแรก แพลตฟอร์มการซื้อขายของ Curve ตั้งอยู่บนคณิตศาสตร์เพื่อเอื้อให้ Stablecoin มีการซื้อขายได้ในราคาที่ดีที่สุด นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Bonding Curve

Bonding Curve ในที่นี้ขึ้นอยู่กับ Stablecoin เท่านั้น นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อขาย Stablecoin ได้มากขึ้นในราคาที่ต่ำลง

นอกจากนี้ Curve ยังสนับสนุนให้ผู้ที่สนใจคริปโตลงทุนสภาพคล่องเข้าไปในพูลของตน พวกเขาถือเป็นผู้ลงทุนในสภาพคล่อง ในลงทุนสภาพคล่องนั้น คนกลุ่มนี้จะได้รับ CRV จำนวนหนึ่งมาเป็นแรงจูงใจ

พูลสภาพคล่องใช้งานอัลกอริธึมในการกำหนดราคาของสินทรัพย์ โปรโตคอล AMM ถือเป็นสัญญาอัจฉริยะที่อนุญาตให้การซื้อขายเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้ Order Book ไม่มีความจำเป็นต้องใช้คู่สัญญา

ในท้ายที่สุด แพลตฟอร์มเองยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานลงทุนกับ CRV ของแพลตฟอร์มตนเอง ผู้ใช้ Curve จะได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายของโปรโตคอล ทั้งยังสามารถโหวตล็อก CRV ของตนในการเพิ่มผลตอบแทนสภาพคล่องได้ ผู้ถือครอง CRV สามารถมีส่วนร่วมในการกระบวนการตัดสินใจโดยการลงคะแนนผ่านกระบวนการบริหารจัดการ Curve

โทเค็น CRV มีบทบาทอย่างไร

Curve DAO Token (CRV) Validates Support Area in Place for 206 Days, Holding Above $2 - beincrypto.com

โทเค็น CRV ถือเป็นแกนกลางของแพลตฟอร์ม Curve ทั้งยังมีประโยชน์หลายประการ

โทเค็น CRV เข้ากับ Curve ได้อย่างไร

CRV เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Curve และทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum นอกจากนี้ DEX ใช้งาน CRV ตลอดกระบวนการส่วนใหญ่ทั่วทั้งแพลตฟอร์ม Curve ใช้งานโมเด็ล AMM เพื่อเอื้อให้ผู้ใช้งานซื้อขาย Stablecoin ได้ เหรียญนั้นสามารถซื้อหรือได้รับเป็นรางวัลหรือเป็นโบนัสมาเมื่อมีการเพิ่มสภาพคล่องเข้าไปในพูลสภาพคล่องของแพลตฟอร์ม

แพลตฟอร์ม Curve ให้บริการโทเค็นของตัวเองตั้งแต่ปี 2020 ภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากแพลตฟอร์มเปิดให้บริการ จนถึงปัจจุบัน มีการผลิต CRV ราว ๆ 3 พันล้านอัน โทเค็นเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้การกระทำต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม

การแจกจ่ายโทเค็น CRV

ในช่วงแรก โทเค็นเป็นสิ่งตอบแทนผู้ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม ผู้ใช้งานซึ่งได้ล็อคเหรียญบนแพลตฟอร์มได้รับโทเค็น CRV ประมาณ 60% ทีมงานและผู้ลงทุนใน Curve ได้รับ 30% ของผู้ตอบแนทั้งหมด ที่เหลือสงวนไว้สำหรับพนักงานในแพลตฟอร์มและสำรองไว้สำหรับตัวสกุลเงินเอง

ในปัจจุบัน มีการปล่อยโทเค็น CRV ราว 2 ล้านเหรียญต่ออัน นั่นหมายความว่าในแต่ละปีมีเหรียญปล่อยออกไป 750 ล้านเหรียญ โทเค็นเหล่านี้สามารถใช้เพื่อลงคะแนนสำหรับข้อเสนอซึ่งจะส่งผลต่อกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการปกครองระบบนิเวศของ Curve นอกจากนี้ Curve มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง CRV จึงได้กลายเป็นการลงทุนประเภทหนึ่ง

ประโยชน์ของ CRV token

CRV มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมสภาพคล่อง CRV เป็นโทเค็นที่ทำหน้าที่กำกับดูแลแพลตฟอร์มโดยรวม ทั้งยังมีกลไกการลงคะแนนเสียงคงค้าง

ผู้ลงทุนในสภาพคล่องของ Curve จะได้รับ $CRV เป็นค่าตอบแทนในการลงทุน การกระทำดังกล่าวทำให้โปรโตคอลสามารถให้บริการค่าธรรมเนียมและสลิปเพจต่ำ การเพิ่มการล็อกคะแนนเสียงเป็นแรงจูงใจในการถือ CRV กล่าวคือ ผู้ลงทุนในสภาพคล่องสามารถเพิ่มผลตอบ CRV ในระดับรายวันได้

ราคาและการคาดการณ์ราคา

Curve (CRV) price
CRV Price: TradingView

มูลค่าของ CRV ณ ขณะที่บทความกำลังถูกเขียนนั้นอยู่ที่ราว 2.27 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าของเหรีญในตลาดนั้นมากกว่า 880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีปริมาณการซื้อขายรายวันมากกว่า 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าของเหรียญมีแนวโน้มสูงขึ้น การวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่ผ่านมา

ข้อมูลชุดนี้ทำให้นักวิเคราะห์หลายรายมีเหตุผลให้เชื่อว่ามูลค่าของ CRV อาจเพิ่มขึ้นในระยะกลางและระยะยาว ปัจจัยหลายประการส่งผลต่อการพัฒนาครั้งนี้ รวมถึงมูลค่าตามราคาตลาดและปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้น รวมถึงความนิยมในโปรโตคอล DeFi และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นใน Stablecoin ทั่วโลกคริปโต

นักวิเคราะห์เชื่อว่ามูลค่า CRV ในระยะสั้นอาจสูงถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2022 บ้างคาดการณ์ว่าราคาเหรียญอาจสูงถึง 5 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงสิ้นปี

จากการวิเคราะห์บทเดียวกัน การเติบโตจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มูลค่าอย่างน้อย 4.38 ดอลลาร์สหรัฐ และอาจจะเท่าเดิมภายในปี 2024 มูลค่าของ CRV สามารถเพิ่มขึ้นอีก 10 ดอลลาร์สหรัฐช่วงสิ้นปี 2025

นอกเหนือจากนั้น การวิเคราะห์เชิงบวกของนักวิเคราะห์คริปโตคาดการณ์ว่ามูลค่าของ CRV สามารถเพิ่มได้มากสุดถึง 25.45 ดอลลาร์สหรัฐ หากการคาดการณ์เหล่านี้ถูกต้อง CRV ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ควรค่ากับการพิจารณาในระยะยาว

ซื้อ CRV ได้ที่ไหน

โทเค็น Curve DAO (CRV) มีให้บริการในผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Binance Coinbase Huobi KuCoin Gate.io Bitstamp และอื่น ๆ

อนาคตของ Curve

Curve นั้นตั้งเป้าจะเป็นผู้ disrupt โปรโตคอลที่เป็นนิยมอย่าง Uniswap โดยคุณสมบัติหลักของ Curve เองคือความสม่ำเสมอ ทั้งยังเน้นที่การซื้อขาย Stablecoin ผ่านโมเดล AMM

จากการที่มีผู้ลงทุนในคริปโตมากขึ้น กล่าวได้ว่า ระบบการเงินแบบไม่มีหน่วยงานกลางนี้เองก็เติบโตขึ้นเช่นกัน Curve ให้ผลตอบแทนโดยตรง ทั้งยังมอบโอกาสให้ผู้ใช้งานในการสร้างความก้าวหน้าให้กับกลไกการทำงานของแพลตฟอร์มเอง เมื่อพิจารณาทุกองค์ประกอบรวมกัน Curve ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่จะยังคงมีอิทธิพลในโลกคริปแต่

Curve (CRV) เป็นการลงทุนที่ดีไหม

Curve ถือเป็น Stablecoin หรือไม่

Curve (CRV) คืออะไร

CRV ทำหน้าที่อะไร

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน