Terra (LUNA) เป็นบล็อคเชนสาย DeFi ที่เคยเป็นหนึ่งในโปรเจคคริปโตเคอเรนซี่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งด้านดีและด้านร้ายที่นักลงทุนคริปโตควรเรียนรู้ไว้เป็นบทเรียน
LUNA เวอร์ชั่น 2.0 เป็นการ Hardfork ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาการล่มสลาย ส่วนเหรียญ LUNC (Luna Classic) คือเหรียญเวอร์ชั่นเก่าที่ยังคงระบบแบบดั้งเดิมของบล็อคเชน Terra Chain
LUNA และ Terra คืออะไร
LUNA หรือ Terra ก่อตั้งโดย Daniel Shin และ Do Kwon จากเกาหลีใต้เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ DeFi ขึ้นเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เช่น UST Algorithmic Stablecoin, Mirror, Synthetic Asset, และ Lending ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีหมุดหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเชื่อมโลกของตลาดทุนเข้ากับระบบบล็อคเชน
สิ่งเหล่านี้ทำให้ LUNA กลายเป็นที่จับตามองและได้รับความนิยมสูงจนมีมูลค่าทางตลาดสูงถึงอันดับที่ 3 รองลงมาจาก Ethereum เท่านั้น เนื่องจากมีการเติบโตกว่า 12,000% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 2022 เมื่อเหรียญ UST ถูกโจมตีจนล่มสลาย และนำตลาดคริปโตเข้าสู่ตลาดหมี
อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังคงมีเหรียญ LUNA 2.0 อยู่ซึ่งเป็นความพยายามของชุมชนในการฟื้นคืนโปรเจคให้กลับมาโดยการ Hard Fork และยุติโปรเจค UST ในขณะที่เหรียญเก่าจะมีชื่อว่า Luna classic (LUNC)
LUNC โทเคนดั้งเดิมของ Terra
LUNC เป็นเหรียญดั้งเดิมจากเวอร์ชั่นก่อนการอัพเกรด โดยจะยังคงรูปแบบการใช้งานแบบเก่าไว้อยู่ ผู้ถือเหรียญสามารถใช้สำหรับการใช้งานเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ เหมือนกับการใช้ Ethereum (ETH) เพื่อจ่ายค่า Gas นอกจากนี้ LUNC ยังสามารถใช้เป็นหลักประกันมูลค่าสำหรับ USTC Algorithmic Stablecoin อีกด้วย แต่นักลงทุนจำนวนมากก็ยังคงไม่มีความเชื่อมั่นในระบบดังกล่าว เพราะในปี 2022 การล่มสลายของ Terra ก่อให้เกิดหายนะในอุตสาหกรรมที่กระทบนั่งลงทุนไปทั่วโลก
ข้อแตกต่างระหว่าง LUNA และ LUNC ในปัจจุบัน
ดังที่กล่าวมาข้างต้นหลายๆ คนอาจจะยังคงสับสนอยู่ แต่ในปัจจุบันเหรียญที่เราเรียกว่า LUNA จริงๆ แล้วเป็นเวอร์ชั่น 2.0 ที่ทำการ Hard Fork ออกมาจากบล๊อคเชนเก่าที่เคยล่มสลายไป โดยตัวเหรียญดั้งเดิมนี้ปัจจุบันจะใช้ชื่อว่า LUNC แทนนั่นเอง
การ Hard Fork ที่เกิดขึ้นจะแตกต่างจากการ Fork ทั่วๆ ไป ตรงที่ LUNA 2.0 จะไม่มีประวัติธุรกรรมใดๆ จากในอดีตของ Terra นับเป็นการเริ่มต้นใหม่เลยก็ว่าได้
นอกจากนี้เหรียญ Algorithmic Stablecoin อย่าง UST จะมีอยู่แค่บน LUNC เท่านั้น และจะไม่มีเหรียญ Stablecoin ใดๆ บน LUNA (2.0) ไม่ว่าจะเป็น UST, KRT, EUT, และอื่นๆ โดยใช้ชื่อเช่น USTC แทน
เรียนรู้จุดอ่อนและความเสี่ยงของ Terra
- การแทรกแซง
Dapps ต่างๆ ของ Terra ยังคงมีส่วนที่รวมศูนย์อยู่รวมถึงระบบที่สำคัญอย่างนโยบายการกำหนดอัตราการแลกเปลี่ยนต่างๆ ในการควบคุมหรือแทรกแซงกลไกตลาดและมูลค่าของเหรียญทั้ง LUNA และ UST
- ระบบความเชื่อมั่น
หากความเชื่อมั่นในระบบนิเวศน์และบล็อคเชนของ Terra หายไปจะทำให้กลไกการตรึงมูลค่าระหว่าง LUNA และ UST ล่มสลายลง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ LUNA ล่มสลายลงไปและทำให้นักลงทุนทั่วโลกสูญเสียเงินเป็นจำนวนมหาศาลในปี 2022
- สภาพคล่อง
อีกหนึ่งต้นตอที่ทำให้ Terra มีช่องโหว่คือสภาพคล่องในตลาดที่ต่ำทำให้สินทรัพย์มีความผันผวนสูงและเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนที่มีเงินหนามากพอสามารถควบคุมราคาตลาดและใช้ประโยชน์จากกลไกเงินสำรองของ Terra ได้ เพราะทางโปรโตคอลมีการนำเงินสำรองมาคอยพยุงมูลค่าไว้ การโจมตีดังกล่าวเป็นต้นตอที่ทำให้ระบบนิเวศน์ทั้งหมดล่มสลายลงไปใน 2022
สรุป
ปัจจุบัน LUNA คือเหรียญที่ Hard fork ออกมาเป็นเวอร์ชั่น 2.0 และจะไม่มีเหรียญ Stablecoin เข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป ในขณะที่ LUNC จะเป็นเหรียญแบบฉบับดั้งเดิมที่ยังคงระบบ Stablecoin ไว้อยู่ เช่น USTC อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Terra ยังคงตราตรึงอยู่ในกลุ่มนักลงทุน ทำให้การฟื้นฟูความเชื่อมั่นนั้นเป็นไปได้ยาก
Trusted
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์
