บรรดาบริษัท ผู้บริหาร และนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์ยังคงมีแนวโน้มจะลงทุนระยะยาวในอุตสาหกรรมคริปโต เห็นได้จากจำนวนการใช้งาน MasterCard Executive แม้ในปัจจุบันจะมีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในตลาดเงินดิจิทัล
Harold Bossé รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ของ MasterCard เชื่อว่าการนําสินทรัพย์คริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้จํานวนมากจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเร็ว ๆ นี้
ในการทำ Blockchain Webinar เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ทาง Bossé ตั้งข้อสังเกตว่าวันนี้มีผู้คนนับล้านที่บริโภคและส่งสินทรัพย์คริปโตทั่วโลกตามรายงานที่ปรากฎ
“พวกเขาเป็นผู้ใช้ตั้งแต่ในช่วงแรก ๆ บ้างเพิ่งเริ่ม แต่เราได้หันไปหาตลาดมวลชน [และ] นั่นจะเป็นสิ่งสําคัญมากสําหรับสถาบันการเงินที่จะย้ายเข้าไปมีบทบาทในโลกคริปโต”
ความท้าทายในภายภาคหน้าสําหรับอุตสาหกรรมคริปโต
Bossé สำทับว่ามีความท้าทายมากมายที่ต้องจัดการก่อน Cryptocurrency จะกลายเป็นสิ่งที่ใช้งานในกระแสหลัก
การที่ผู้บริหารสูงขาดความเข้าใจ เหตุผลทางการค้าเกี่ยวกับความสามารถในการปรับขนาดกิจการ ต้นทุนและความรวดเร็วในการทำงาน และความกังวลด้านกฎระเบียบ เหล่านี้ ถือเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข
เช่นเดียวกับหลาย ๆ คนก่อนหน้าเขา Bossé เปรียบเทียบสถานะปัจจุบันของอุตสาหกรรมคริปโตกับยุคแรกของอินเทอร์เน็ต “คิดถึงการกําเนิดของอินเทอร์เน็ตสิ ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนคิดจะสร้างอะไรแบบ Amazon ด้วยซ้ำคุณต้องการอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ Amazon ทํางานได้” เขากล่าวก่อนที่จะเสริมว่า
“เราอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เราจะเปลี่ยนชีวิตของผู้คนและเข้าสู่กลุ่มประชากรหรือกลุ่มคนที่ไม่ได้คิดถึงบล็อกเชนก่อน ลองคิดคิดถึงปัญหาทางธุรกิจของพวกเขาสิ”
MasterCard ได้แสดงความสนใจในอุตสาหกรรมคริปโตด้วยบริการเครดิตที่ได้รับการสนับสนุนจาก Cryptocurrency และการลงทะเบียนเครื่องหมายการค้า NFT และ Metaverse เมื่อไม่นานมานี้
เครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลที่สําคัญเช่น Bitcoin และ Ethereum แก้ปัญหาที่พบเห็นได้เด่นชัดในอุตสาหกรรมคริปโต
ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินต้นทุนต่ำข้ามพรมแดนระหว่างประเทศสําหรับ BTC และการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มแบบกระจายอํานาจและสัญญาสมาร์ทของWeb3 Economy สําหรับ ETH
มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่อันที่แข็งแกร่งที่สุดย่อมอยู่รอด ทั้งนี้ มีข้อวิจารณ์เกิดขึ้นเมื่อเงินดิจิทัลเสื่อมความนิยม ทำให้การเติบโตของตลาดนี้เริ่มโซเซ
วัฏจักรของตลาดคริปโต
คุณรู้ว่าคุณอยู่ในตลาดที่การเติบโตไม่คงที่เมื่อสื่อกระแสหลักเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวด้วยตัวด้วยสโลแกน “ก.ม.ส.” (กลัว ไม่แน่นอน สงสัย) ทั้งยังพลาดหัวข่าวแบบ Clickbait พลางอ้างว่าวงการคริปโตจะแตกดับ
เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในปี 2018 หลังจากการบูมของ ICO และการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคา Bitcoin ถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ วันนี้สินทรัพย์มีราคาซื้อขาย 50% แพงกว่าในตอนนั้น
สภาวะตลาดที่การเติบโตไม่แน่นอนมักจะถือว่ายังมีโอกาส ขณะที่หลายตลาดที่มีสภาพนี้ทำให้นักเก็งกำไรทั้งหลายหมดสภาพและต้องวางมือจากการลงทุนในเงินดิจิทัลและจากการแสวงหาอิสรภาพทางการเงิน ตลาดเช่นนี้ยังยืดเวลาให้เกิดการค้นคว้าและการเก็บสะสมข้อมูลและทุนสำหรับวัฏจักรคริปโตครั้งใหม่
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ