StarkWare เผยกำลังพัฒนาเทคโนโลยี Recursion เพื่อเพิ่มความสามารถด้าน scaling ไปอีกขั้นเพื่อรองรับการใช้งานบน Ethereum Layer 2 ที่จะสามารถมัดรวมธุรกรรมกว่าหมื่นเข้าด้วยกันและส่งในครั้งเดียว
การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ Proof-of-stake ของ Ethereum ได้รับความสนใจมากจากทั้งนักพัฒนาและนักลงทุนบนโลกบล็อกเชน แต่หลังจาก the Merge ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 กันยายน นี้แล้ว คำถามคือแล้วอะไรจะตามมาหลังจากนั้น
ด้าน StarkWare ให้ความสำคัญเรื่องการ scaling เป็นอย่างมาก และมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี Layer 2 ล่าสุดในงานสัมนา ETH ที่ กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พวกเขากล่าวถึง “Recursion” ที่กำลังพัฒนาอยู่
รากฐานสู่การประมวลผลที่ดีขึ้นและ Layer 3
เทคโนโลยีนี้ คือ กระบวนการวิทยาศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์ เพื่อการพิสูจน์ธุรกรรมต่างๆ บนบล็อกเชน โดยการบีบอัดธุรกรรมบน Layer 2 อีกชั้นหนึ่ง ผลลัพทธ์ของมันจะทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้นไปอีก และมีค่าธรรมเนียมที่ลดน้อยลงไปอีก
การทำงานของระบบนี้คือการนำ ZKp (Zero-knowledge proof) ที่ถูกบีบอัดมาแล้วหลายๆ ธุรกรรมมาขมวดเข้าด้วยกันซ้ำ และทำกระบวนการนี้ซ้ำกันอีกหลายๆ รอบด้วยความเร็วสูง แล้วจึงส่งข้อมูลที่บีบอัดแล้วทั้งหมดไปพิสูจน์ที่คราวเดียว
Eli Ben-Sasson ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง StarkWare ยกตัวอย่างว่า มันเปรียบเสมือนการเปิดช่องทางชำระสินค้าหลายๆ ช่องในซุปเปอร์มาร์เก็ต แทนที่ลูกค้าจะต้องรอต่อแถวในช่องทางเดียว พวกเขาสามารถชำระเงินพร้อมกันได้ในหลายๆ ช่องทางที่เปิดไว้ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีนี้ก็เช่นกัน คือการเปิดช่องทางคู่ขนาดจำนวนหลายๆ ช่องเพื่อรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมากในเวลาเดียวกัน และรวมธุรกรรมเหล่านั้นเป็นก้อนเดียวส่งเข้าไปพิสูจน์
การใช้งาน Recursion เพื่อแก้ปัญหาการมิ้นท์ NFTs
NFTs เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ Ben-Sasson กล่าว
“ด้วยเทคโนโลยีนี้ การมิ้นท์ NFTs จำนวนเป็นแสนหรือเป็นล้านชิ้นจะสามารถถูกบับอัดให้เป็นธุรกรรมชุดเดียวบน Ethereum และมันจะแก้ปัญหาค่าธรรมเนียมคอขวดที่เป็นปัญหาในปัจจุบันได้”
Gideon Kaempfer หัวหน้าแผนกวิศกรรมของ StarkWare เสริมว่า มันเปรียบเสมือนการบรรทุกผู้โดยสายกว่าพันคนเข้าเครื่องบินเจ็ตแทนที่จะบรรจุคนเข้าไปที่ละร้อยคน ความสามารถในการมิ้นท์ NFTs จำนวนเป็นล้านชิ้นได้ในธุรกรรมเดียว จะเปิดความเป็นไปได้ใหม่สำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้ามาทำตลาดในโลกบล็อกเชน
นอกจากปัญหา NFTs ที่จะถูกแก้แล้ว ค่าธรรมเนียมใน DEX อย่าง Uniswap ก็จะลดลงด้วยเช่นกัน ส่วนด้านความปลอดภัย Ben-Sasson เสริมว่ามันมีความปลอดภัยในระดับเดียวกับ roll-up เพราะโครงสร้างด้านความปลอดภัยนั้นเหมือนกัน
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
